5 ก.พ. เวลา 02:53 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Market Timing VS DCA ลงทุนแบบไหนที่ใช่คุณ

ในปัจจุบันมีกลยุทธ์มากมายที่นักลงทุนเลือกใช้ในการเทรด แต่กลยุทธ์ที่นิยมหลักๆ คือ Market Timing กับ DCA (Dollar-Cost Averaging) ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าแต่ละอันมีข้อดีอะไรและกลยุทธ์แบบไหนที่จะเหมาะกับคุณ
1
Market timing คือการพยายามจับจุดที่เหมาะสมที่สุดในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยนำกราฟเทคนิคมาทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดจากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น ความเสี่ยง แนวโน้ม ปัจจัยทางเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมอื่นๆ Market timing นั้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
เพราะการทำนายตลาดไม่สามารถทำได้แม่นยำ 100% เนื่องจากบางครั้งอาจมี Sentiment เข้ามาเกี่ยวข้อง และการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ผู้ลงทุนเสียเงินได้มาก อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การทำ market timing อาจทำให้ผู้ลงทุนได้กำไรมากกว่าการลงทุนในระยะยาวๆ โดยไม่ต้องรอคอยผลกำไรจากการลงทุนในระยะยาวก็ได้ แต่ข้อที่นักลงทุนควรต้องระวังคือ Market timing นั้นไม่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีความรู้ ความเข้าใจในตลาดการเงิน
2
Market Timing มีข้อดีหลายอย่างดังนี้:
● เพิ่มโอกาสในการทำกำไร : การทำ Market Timing มีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการเพิ่มผลกำไรของนักลงทุน หากนักลงทุนคาดการณ์ราคาหุ้นอย่างแม่นยำ อีกทั้งสามารถย้ายสินทรัพย์การลงทุนได้ง่ายกว่า DCA
● ทำกำไรจากการลงทุนระยะสั้น : สามารถใช้กลยุทธ์นี้คู่กับการดูปัจจัยระยะสั้น จากนั้นหาจังหวะขายทำกำไรได้ทันที
● ถ้ามีความเชี่ยวชาญจะสามารถ Cut losses ได้: หากนักลงทุนมีความเชี่ยวชาญในการใช้กราฟเทคนิคต่างๆ จะทำให้สามารถคาดการณ์อนาคตได้ ซึ่งจะสามารถขายสินทรัพย์ที่มีโอกาสในการขาดทุนได้ทันที รวมถึงสามารถคำนวณจุด Stop loss เพื่อลดการขาดทุนได้อีกด้วย
แต่นักลงทุนที่เลือกใช้กลยุทธ์นี้ต้องติดตามข่าวสารของตลาดการเงินอย่างมาก รวมถึงหาความรู้ในการวิเคราะห์หุ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจเป็นภาระกับนักลงทุนบางคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือผู้ที่เป็น Part - Time Trader
DCA ย่อมาจากคำว่า "Dollar Cost Averaging" ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนที่ใช้เงินลงทุนในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยแบ่งเงินลงทุนออกเป็นส่วนๆ และลงทุนเป็นระยะๆ โดยไม่สนใจราคาตลาดในแต่ละวัน วิธีการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะลงทุนในช่วงเวลาที่ราคาสูงสุด โดยเฉพาะเวลาที่ตลาดมีความผันผวน
ตัวอย่างเช่น หากผู้ลงทุนต้องการลงทุน 120,000 บาท ในรอบ 12 เดือน และตั้งใจที่จะลงทุน 10,000 บาทต่อเดือน ไม่สนว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไรในแต่ละเดือน โดยผู้ลงทุนจะได้รับจำนวนหุ้นที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับราคาหุ้นในช่วงนั้นๆ วิธีการ DCA ช่วยให้ผู้ลงทุนลดความเสี่ยงที่จะซื้อหุ้นในช่วงเวลาที่ราคาสูงสุด และยังช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าสู่ตลาดในระยะยาวๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสั่งซื้อหรือขายในเวลาที่ไม่เหมาะสม
DCA (Dollar Cost Averaging) มีข้อดีหลายอย่างดังนี้:
● ลดความเสี่ยงของการลงทุน: วิธีการ DCA ช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนโดยการกระจายการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวันหรือสัปดาห์
● ลดภาระจ่ายทุน: DCA ช่วยลดภาระจ่ายทุนโดยการแบ่งเงินลงทุนออกเป็นส่วนๆ แทนการลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะลงทุนในช่วงเวลาที่ราคาหุ้นสูงสุด
● สะดวกและง่ายต่อการลงทุน: การลงทุนด้วยวิธี DCA สะดวกและง่ายต่อการทำงาน เนื่องจากไม่ต้องเช็คราคาหุ้นทุกๆ วัน และไม่ต้องคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดในระยะยาว
● ช่วยสร้างเสถียรภาพในการลงทุน: การลงทุนด้วย DCA ช่วยสร้างเสถียรภาพในการลงทุน เนื่องจากมีการลงทุนที่ต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
1
DCA เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาวๆ และไม่สนใจในการซื้อขายสินทรัพย์ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยที่ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือประสบการณ์ในการลงทุนมากนัก เป็นมือใหม่ก็สามารถ DCA ได้ เพราะวิธีการนี้เป็นวิธีการลงทุนที่เป็นระบบและมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนแบบอื่นๆ นอกจากนี้ DCA ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาว่างมากเพียงพอในการศึกษาและติดตามตลาดสินทรัพย์อยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีเงินออมมากแต่ไม่รู้จะลงทุนในสินทรัพย์ชนิดไหน หรือไม่รู้จะลงทุนอย่างไรเพื่อเพิ่มมูลค่าเงินออมของตนเองในระยะยาว
DCA (Dollar Cost Averaging) และ Market Timing เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกันอย่างไร
สรุป ดังนั้นการใช้ DCA จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนโดยไม่อยากกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของตลาด ส่วน Market Timing จะเหมาะสมกับผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในตลาดและสามารถทำนายได้ดีโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลาสั้น ๆ
มาดูกันดีกว่าว่า แล้วการเทรดแต่ละแบบเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน
หลายคนคงสงสัยว่าสามารถลงทุนด้วยกลยุทธ์ทั้ง 2 แบบนี้เลยได้ไหม คำตอบคือได้ ! ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์ของคุณในแต่ละช่วง และการจัดการความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องลงทุนแบบเดิมเสมอไปแต่ให้คำนึงถึงความสามารถในการบริหารความเสี่ยงของตนเองเป็นหลัก โดยในช่วงแรกที่เริ่มลงทุนอาจจะเลือกใช้การลงทุนแบบ DCA ก่อนเพราะยังไม่ค่อยมีความรู้มากนัก แต่พอมีความรู้มากขึ้นจากการสั่งสมประสบการณ์แล้วก็สามารถนำกลยุทธ์ Market Timing มาใช้ได้ เลือกการลงทุนในแบบใช่ตัวเองแล้วมาลงทุนที่ บล. Zcom
เปิดบัญชีด้วยตนเอง คลิกเลย : https://bit.ly/49oKfJV
*การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนการลงทุน
ที่มา
เลือกจับจังหวะซื้อแบบ Market Timing หรือ ทยอยลงทุนแบบ DCA ดี?, https://bit.ly/3rhSkeG
THE ADVANTAGES AND DISADVANTAGES OF MARKET TIMINGS, https://bit.ly/3Lf3JHK
What You Should Know About The Art Of Market Timing, https://bit.ly/3oup2wh
โฆษณา