7 ก.พ. เวลา 05:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ

FundTalk Call: ถึงรอบของ Global Health Care แนวโน้ม Turnaround พร้อมเกิด Sector Rotation

Health Care Sector(XLV) พักฐานมานานถึง 2 ปี หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการในกลุ่มวัคซีนที่ชะลอตัวลง
หลังจากการปรับประมาณการกำไรลดลง 7 ไตรมาสติดต่อกัน จากฐานที่สูงในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้แนวโน้ม Earnings ในปีนี้มีโอกาสที่จะกลับมา Turnaround อีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์คาดว่ากลุ่ม HealthCare จะมีกำไรเติบโตมากกว่า 20% ในปีนี้ หนุนโดยยาเบาหวานและลดความอ้วนอย่าง Wegovy และ Zepbound ของ Novo Nordisk และ Eli Lilly ตามลำดับ
ด้าน Fund Flow เราเริ่มเห็นการเกิด Sector Rotation ในช่วงต้นปี โดยมีการไหลออกของเม็ดเงินจาก Sector Technology และ Consumer Discretionary ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในปีที่ผ่านมา เข้าสู่ Sector HealthCare ที่มี Fund Flow ไหลเข้ามาเป็นอันดับแรก
ด้านนักวิเคราะห์กลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อ Health Care โดยเจ้าใหญ่อย่าง JPMorgan ให้มุมมอง Overweight ต่อหุ้นในกลุ่มแบบ selective ส่วน Morgan Stanley ให้ Long-term buy สำหรับการลงทุนใน Global Health Care โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มยาและ Biotech
ด้าน Citi ให้มุมมอง Overweight และคาดว่ากลุ่มนี้จะมีการปรับตัวขึ้นได้ดีทั้งกลุ่ม จากนวัตกรรมและความต้องการด้านเทคโนโลยีสุขภาพที่มีอยู่ในระดับสูง ส่วน Wells Fargo ให้ Long-term buy สำหรับการลงทุนใน Global Healthcare
ผลตอบแทนเชิงเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม Health Care และดัชนี S&P 500 Source: FINNOMENA FUNDS, Tradingview as of 06/02/2024
จากกราฟราคากลุ่ม Health Care/S&P 500 จะมีวัฏจักรของการเคลื่อนไหวของราคา และมองว่าปีนี้น่าจะได้เห็นวัฏจักรที่กลับมา Outperform S&P 500 ได้ จากภาพการ Turnaround ของกำไรที่แสดงไว้ในช่วงต้น
เมื่อพิจารณา กลุ่ม Health Care จะพบว่ามีหลาย Sector ย่อย โดยมีน้ำหนักที่เป็นส่วนประกอบหลักคือ
กลุ่มบริษัทยาขนาดใหญ่ (Pharma) ซึ่งมีแนวโน้มรายได้กำไรโตแรงต่อเนื่อง จากความตื่นตัวในยาเบาหวานและลดความอ้วน ซึ่งมีการเร่งตัวของกำไรมาตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมา
กลุ่มบริษัทที่เป็นวัสดุ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่รายได้และกำไรจะไม่ได้ผันผวนมากนัก แต่จะเติบโตไปตามอุตสาหกรรมและเทรนด์ด้านประชากรศาสตร์มากกว่า แต่อัตรากำไรในกลุ่มนี้ก็จะไม่ได้สูงนัก
บริษัทยาประเภท Biotech ซึ่งอาจจะยังไม่มีกำไร แต่เป็นบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตได้เร็วจากการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพใหม่ ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่การใช้ยารักษา
กลุ่ม Managed Healthcare & Service คือระบบการเบิกจ่ายยา หาหมอทำประกันในสหรัฐฯ เป็นต้น
จากที่วิเคราะห์อุตสาหกรรมและความน่าสนใจของแนวโน้มการเติบโตของกลุ่ม Health Care หลังจากนี้มาเจาะลึกในการเลือกกองทุนลงทุนจะได้ KT-HEALTHCARE-A (กองทุนหลัก: Janus Global Life Sciences Fund) เด่นเรื่องผลตอบแทน เน้นหนักในกลุ่ม Biotech ขณะที่ K-GHEALTH(UH) กับ KFHEALTH-A (กองทุนหลัก: JPMorgan Global Healthcare) เด่นเรื่องคุมความเสี่ยง เวลาราคาลง กองลงน้อยกว่าคู่แข่ง
เมื่อเปรียบเทียบกองทุนทั้ง 3 กอง จึงแนะนำลงทุนใน K-GHEALTH(UH) & KFHEALTH-A ที่ลงทุนใน JPMorgan Global Healthcare เป็น FundTalk Call ล่าสุดที่ออกมา ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ครับ
K-GHEALTH(UH) แบบปันผล
KFHEALTH-A แบบสะสมมูลค่า
สัดส่วนการลงทุนของ JPMorgan Funds – Global Healthcare Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ K-GHEALTH(UH) และ KFHEALTH-A Source: The Financial Times, J.P. Morgan Asset Management as of 05/02/2024
K-GHEALTH(UH) และ KFHEALTH-A ทั้งคู่เป็นกองทุนความเสี่ยงระดับสูง (ระดับ 7) ที่ลงทุนในหมวดอุตสาหกรรม Health Care ผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds – Global Healthcare Fund, Class A (acc)​ – USD โดยมีสไตล์การบริหารแบบ Active ผสมผสานระหว่างหุ้น Defensive อย่าง Pharmaceutical และ Healthcare Services ในสัดส่วนที่เกินกว่า 50% และหุ้น Growth ในกลุ่ม Medtech กับ Biotechnology เพื่อช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในระยะสั้น และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว
จุดเด่นของ JPMorgan Funds – Global Healthcare เมื่อเทียบกับกองทุน Global Health Care รายอื่นในตลาด คือชนะในเรื่องการควบคุมความเสี่ยง เวลาที่ตลาดปรับตัวลดลง กองทุนนี้ลงน้อยกว่าคู่แข่ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้มีผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กองทุนแนะนำอย่าง K-GHEALTH(UH) และ KFHEALTH-A ปัจจุบันไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (unhedged) จึงเสนอเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่มีมุมมองเป็นบวกต่อทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงไม่ต้องการเสียต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ราว 3% ต่อปี ณ ปัจจุบัน
สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
จัดทำโดยบลป. เดฟินิท สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
(คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นหนึ่งในคำแนะนำในรูปแบบ Tactical Call มุ่งหาโอกาสการลงทุนตามสถานการณ์ และปัจจัยทางเทคนิค)
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน |
กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ FINNOMENA FUNDS ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ |
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299
โฆษณา