Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เเสงทอง พ. ใจเวียง
•
ติดตาม
8 ก.พ. 2024 เวลา 14:22 • นิยาย เรื่องสั้น
อำเภอแม่ริม
เรียงความของคนสวน – อโวคาโด้ทุลักทุเล
แสงทอง พ. ใจเวียง
“พี่เค้าได้บรรจุแล้วนะลูก” ข่าวสารในตัวเมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยชาวจีนโพ้นทะเลได้ว่ายเวียนวนจนมาถึงตัวฉัน ในวันเวลาที่ฉันงานล้นมือ ด้วยต้องสอบวัดระดับทักษะภาษาไปพร้อมๆกับทำผลงานต่างๆเพื่อเข้าในมหาวิทยาลัยเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามฉันก็ยังจะเจียดเวลามาเอ่อระเหย มาอ่านงานเขียนของสุวรรณี สุคนธา เรื่อง น้ำพุ การได้อ่านอะไรเล็กๆน้อยๆบ้าง คงจรรโลงและได้ใช้เวลาได้พูดคุยหรือ ทบทวนตัวเองไปในตัว แต่ฉันอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับงานเขียนดีๆจริงๆหรอ
กระดาษแห้งกรอบในตัวบทที่กำลังพูดถึงวันเวลาที่น้ำพุกำลังบวชและพักฟื้น และโต้ตอบจดหมายกับผู้เป็นแม่
หลังจดหมายหนูแทะอันนั้น ฉันก็เปิดคอมแสงสว่างวาบ ด้วยสนใจดูสเตตัสของคนคนหนึ่งว่าด้วยเรื่อง ปัญหาของคนรวยและ อยาก “คอลเอาท์”ให้มากกว่านี้ในความคับข้องใจของคนที่มีเงิน ตัวหนังสือประมาณ 2-3 หน้ากระดาษที่ดูก็รู้ว่าไร้สาระเหมือนกับหน้าตาของคนพิมพ์
และเมื่อได้อ่านเข้าจริงๆก็พบว่า มันไม่เหมือนหัวข้อมันนี่นา จริงๆแล้วสสารหลักของมันก็ยากจะอธิบาย สรุปสั้นๆมันคือ การหาพื้นที่แห่งความชอบธรรมที่ผู้เขียนจะบอกว่า ฉันเรียนจบมาแล้วตอนนี้ อย่างไรก็ตามมันไม่ประสบความสำเร็จ พวกแกพวกญาติๆที่ตามดูหมิ่นชั้น ให้เป็นให้ตาย ชั้นก็จะสร้างตัวโดยไม่ใช้ตังพ่อแม่โว้ย(สุดท้ายก็คงใช้แต่ไม่เอามาบอก)
ฉันสงสัยว่า การสื่อสารที่งงงวยมันเป็นเรื่องราวให้เอามาเขียนได้เป็นตุเป็นตะได้ 3 หน้ากระดาษได้ไงนะและ การใช้ตังพ่อแม่ที่รวยที่มีเงินมันเป็นเรื่องที่ต้องเสียเซล์ฟหรือ ตัวตนด้วยหรือ? แต่เอาเถอะ บรรยากาศน่าขี้เกียจกลางฤดูแล้งเช่นนี้ ก็ทำให้ฉันอยู่กับอะไรเสียเวลาไร้สาระได้
ฉันกวาดเศษใบไม้ที่ร่วงหน้าบ้านของใครไม่รู้มาใส่โคนต้นไม้บ้านของฉัน ฉันมีพฤติกรรมเหมือนอาม่าที่ชอบตากเปลือกไข่ไว้หน้าบ้านในวันแดดดี เป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว เสียงรถมอเตอร์ไซค์ที่คุ้นเคยดังย้อนมาจากข้างหลังของฉัน ฉันหันไปมอง...
“ต้นอะไรหนะป๊า” “บุหงาส่าหรี คนขายบอกว่าดอกขาวหอมมากๆ ป๊าเลยซื้อมา” “แล้วจะมีที่วางหรอ” บ้านฉันพื้นที่ไม่มาก ออกจะน้อยมากๆด้วยซ้ำ ฉันเห็นพ่อของฉันยกสาวน้อยปะแป้งกระถางใหญ่ยัดเข้าไปในส่วนร่มของตัวบ้าน ที่ว่างที่เคยเป็นที่อยู่ของต้นสาวน้อยปะแป้งได้ปรากฏขึ้น เป็นดินบุ๋มรูปทรงกลมของกระถางที่ถูกบรรจุไว้ในกระถางที่ใหญ่กว่าอีกทีของกล้าอ่อนต้นอะโวคาโด้ที่ขึ้นแซมออกมาจากริมกระถางใหญ่
พ่อนำต้นบุหงาส่าหรีไปวางตรงนั้น ฉันรู้สึกแปลกตาและไม่พอใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป ฉันคิดว่ามันไม่มีความเป็นธรรมต่อสาวน้อยปะแป้งเอาเสียเลย สาวน้อยปะแป้งเป็นพันธุ์ไม้ราคาถูกและหน้าตาขี้เหร่ก็จริง แต่มันเองก็คงจะรู้สึกเหมือนกับว่ามันโดนไล่ที่ ต้นอโวคาโด้เรียวเล็กที่ขึ้นแซมจากกระถางขึ้นมานั้น เป็นต้นอ่อนที่ฉันลงมือเพาะเองแล้วประสบความสำเร็จในการทำให้มันเติบโตได้ เพราะก่อนหน้านี้มันมักจะตายก่อนโตเสมอ ฉันคงเป็นคนสวนที่ประหลาดที่สุด
ฉันไม่เคยเห็นใครเพาะอโวคาโด้จากเมล็ด มีแต่ปักช้ำเอาเท่านั้น คงด้วยมันไม่เสี่ยงและเร็วกว่า ด้วยวิธีเพาะจากเมล็ดของฉัน ฉันภาวนาให้มันอยู่ไปตลอดรอดฝั่งและเติบโตแข็งแรง
ช่วงเวลากลางฤดูแล้งช่วงเดียวกับที่ฉันยืนรดน้ำและประคบประหงมต้นอ่อนอโวคาโด้นี้ คือช่วงเดียวกับที่ฉันเรียนมัธยมปลายในจังหวัดใกล้ๆบ้านเกิดของฉัน
ฉันเดินท้าแดดท้าลมบนฟุตบาทในวันอากาศแห้งที่สุด ฉันอยู่ในชุดนักเรียนกางเกงสีกากีดูเป็นความต่างจังหวัดและล้าหลัง ตะวันเริ่มจะหลับลงแล้ว ฉันไม่อยากกลับหอเลย รถสีดำคันขนาดปานกลางที่ฉันจำทะเบียนไม่ได้ แต่เคยขึ้นมาสามครั้งแล้ว
ฉันก้าวขึ้นไป “วันนี้เราอยากไปไหนครับ”
“ขับไปเรื่อยๆก่อนก็ได้” น้ำเสียงที่ฟังดูเอาแต่ใจแต่ก็ดูน่ารักพอในสายตาชายคนนั้นและน่ารักพอที่เขาคนนั้นจะสนองให้ พาหนะนั้นถูกขับเคลื่อนออกไปกลางเมืองที่พอมีรถติด โคมไฟที่ทำจากโครงเหล็กบางห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีแดงสด ร้านอาหารถูกประดับประดาด้วยเครื่องจานชามแบบจีน สีครามสวยบนสีเขียวไข่กานั้นคือลายมังกรพริ้วไหวแต่อลังการ คำพูดหวานซึ้งที่ฉันฟังแล้วก็ยังต้องเก็บอาการ
ตลาดที่วายแล้ว รถเข็นไม้ผุๆมีหัวผักกาดชื้นๆและปวกเปียกที่เหมือนไม่อาจต้านมวลพลังแข็งกร้าวของวันทั้งวันในฤดูกาลนี้ได้ ฉันพลางนึกถึงพอดแคสต์ภาษาอังกฤษที่ได้ฟังไปในเมื่อวานที่แปลเป็นภาษาไทยได้แปลกๆอยู่ว่า ชีวิตต้องเดินทางไปสู่ความนุ่มนวลและอ่อนน้อม มิใช่ความแข็งแกร่งและแข็งกร้าว มันดูสวนกระแสดีจริง
และเรื่องสั้นชื่อ คนฟาร์มผึ้งเป็นวรรณกรรมเยาวชนของอเมริกาที่เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาแนะนำ คนเก็บน้ำผึ้งที่ตัดสินใจจะไม่ไปถือสาหาความหรือทวงความยุติธรรมคืนให้กับธุระกิจของตนที่ถูกฉ้อฉลเลย เพราะรักในสิ่งที่ทำ
ฉันเสพแต่อะไรโลกสวย เพราะฉันอยากเป็นคนโลกสวย ฉันยังเพ้อฝันไปถึงงานแฟชั่นโชว์ที่จะได้ไปในสัปดาห์หน้า ฉันจะประดิษฐ์ชุดทันมั้ย
“แม่ว่าจะย้ายต้นอโวคาโด้ไปบ้านยายนะ มันดูจะไม่รอดถ้าอยู่ที่นี่” ต้นอโวคาโด้น้อยโดนแดดเผาจนขอบใบทุกใบของมันแห้งเกรียมเป็นสีน้ำตาล ฉันก็พยายามดูแลมันมาตลอด ทำไมกันนะ
ฉันอยากปล่อยกายในดวงไฟสีแดงล้อมด้วยกระจกสีเขียว ฉันนั่งเกร็ง มีแต่เรื่องต่างๆที่เคยพบเห็นและรับรู้ในคราวที่อายุยังน้อยกว่านี้วิ่งเข้ามาในหัว เป็นเรื่องที่ไม่ควรรู้เลย ฉันคงเป็นเด็กเรียนเก่งและน่ารักได้กว่านี้ คนอื่นๆจะมีทรุดบ้างมั้ยนะ ฉันไม่รู้จะถามใครจริงๆ “เราต้องประครองความรักของเราให้ได้ และจะไม่ให้ทำลายครอบครัวของเราทั้งสองฝ่ายนะคะ” “ครับ เรารักกันได้ พี่ไม่เคยโกหกใจตัวเอง แล้วพี่จะไปหา ฝันดีนะครับ นอนได้แล้วนะคนดี”
บั้นท้ายกลมกลึงด้วยกลางคนของวัยสาว เอวเล็กได้รูปได้รับการดูแล ใบหน้าแววตาแสนพิศวาสที่ไร้เครื่องสำอางค์นั้นถูกส่งมาเป็นสารสื่อใจในฝั่งขวา ฝั่งซ้ายปรากฏความเคลื่อนไหวที่มิอาจทำให้นักเรียนมัธยมปลายมองโลกรอบตัวได้เหมือนเดิม เขาจะมองหน้าคนเหล่านั้นด้วยทัศนะตื้นเขินของมนุษย์วัย 17 ปี
กริ๊ง วีดีโอของหนุ่มใหญ่ร่างเกลากลึงเข้ารูปสะท้อนขึ้นในกระจกตา ด้านบนของมนุษย์ที่เปลือยเปล่าไล่เรียงให้เห็นกางเกงนักมวยในท่อนล่าง เหงื่อไหลโชกไปทั้งตัว เม็ดน้ำขุ่นไหลออกจากหนังศีรษะ เสียงหอบผสมโรงกับคลื่นความร้อนในตัว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเคลื่อนปลดลงด้วยความเฉื่อย นัยน์ตานิ่งส่อปรากฏภาพเช่นเดิม กางเกงชั้นในสีขาวตัวเล็กดูชื้นแฉะหายไป สิ่งหนึ่งสูงชันขึ้นกับตา มือย้ายส่ายขึ้นลงจนแน่ใจ สีหน้าเกร็งแต่เปื้อนยิ้มกริ่ม
ทะเลสีขาวกรรโชกล้นออกมาเต็มเปี่ยมไปทั่วพื้นผิวเปียกปอนคล้ายเป็นสารละลายของความร้อนในกายา “พี่หล่อมากๆค่ะ”
“อังก็น่ารักสุดยอดเลยครับ พี่ขอดูอีกได้มั้ย”
กางเกงนักมวยสีสลับแดงไม่มีแรงจลน์ใดๆ
“นี่ วันนี้พี่อาจจะอยู่ด้วยได้ไม่นานมาก ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ คือพ่อพี่รอกินข้าว” ฉันถูกปลุกขึ้นจากห้วงของความทรงจำในสมอง “ไม่มีปัญหา พานั่งรถเล่นก็ดีใจแล้วจ้ะ” ฉันไม่ค่อยอยากกลับเลย เห้อ... “คร้าบ พาขับได้อยู่แล้ว เอ่อ... แล้วเรา...ยังไงกันดีล่ะครับ เราพร้อมทำมั้ยอะ พี่อยากกับเรา...” ใบหน้าสีน้ำผึ้งค่อนข้างเรียวมองมาที่ฉัน เขาอายุมากกว่าฉันสัก 6-7 ปีได้ ฉันไม่รู้จะรู้สึกเช่นไร เขาไม่รอคำตอบ จมูกปลายแหลมค่อยๆเข้ามาใกล้ ฉันพลางคิดว่าฉันไม่ได้ทำอะไรแย่เกินไปหรอก
นี่มันค่อนข้างจะถูกต้องนะ ฉันเคยเห็นแล้ว แต่เรื่องราวและสถานการณ์ของฉันมันไม่มีใครรอฉันอยู่ที่บ้านสักหน่อย ความทรงจำร้ายนั้นเกิดด้วยสัญญาณ มิได้เอาตัวไปสัมผัสกัน แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะให้เจ้าอาณานิคมตัวสูงโปร่งเยื้องกรายมารุกรานพื้นที่สดใหม่ที่พ่อแม่ฉันเลี้ยงดูมา ฉันไม่อยากคิดอะไรให้มันมากมายไปกว่านี้ มือของเขาไม่รออยู่นิ่งๆ โดยปลดเสื้อผ้าฉันออกพร้อมกอดจูบร่างน้อยอย่างรวดเร็ว เขาไม่รอช้า เสื้อเชิ้ตขาวและกางเกงขายาวของเขาถูกแกะออกไปจากร่าง
เสื้อกล้ามตัวโคร่งที่เหลืออยู่เผยให้เห็น แขนที่ไหม้เเดดจนเป็นสีน้ำผึ้งแต่มีส่วนต้นเป็นเนื้อมัดสมส่วนสีอ่อน
ของรอยในร่มผ้า กล้ามแขนที่ดูแข็งแรงของคนออกกำลังกายเคลื่อนย้ายไปทั่วแผ่นดินที่มันจะยึดครอง มันกอดรัดสองกายาเช่นการบดอัด กลิ่นหอมอ่อนๆของวัยเจริญพันธุ์ เสียงสั่งการที่ดุดันในไอเหงื่อรื้นๆ ร่างน้อยปลดระวางความคิด แล้วปล่อยร่างกายสินสมบัติสดใหม่ให้ถูกรุนราน ธารน้ำอัศจรรย์ไหลรินและหลอมผนวกเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่ถูกล่วงล้ำ ดินแดนเปล่าเปลือยนั้นแปดเปื้อนและราบคาบ
“ก้าวทีละก้าว เคี้ยวข้าวทีละคำเถอะนะ แล้วมันจะโอเค” สำนวนไทยที่ฉันถูกตักเตือนด้วยความห่วงใย ความเสียใจเกิดขึ้นเป็นระลอกๆกับตัวเรา ฉันเลิกกับเขาไปแล้ว
“คนวันเสาร์ ชอบเก็บของเก่าครับ ไม่ชอบทิ้งอะไรเลย รวมถึงความรู้สึกด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า” รายการวิทยุ
ดูดวงชื่อดังถูกเปิดขึ้น ฉันพยายามปล่อยวางเพราะอยากสนุกกับแฟชั่นโชว์ตรงหน้าให้เต็มที่ การกล่าวเปิดงานเริ่มขึ้นด้วยการแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่เป็นกันเอง “ครูคิดว่า แฟชั่นโชว์ปีนี้ปีที่ 16 ของมหาวิทยาลัยเรานั้นเป็นที่ 1 ของประเทศตั้งแต่เปิดมา แล้วจะเป็นที่ 1 ของประเทศไทยไปตลอด”
ฉันที่ไม่มีความรู้ได้แต่รอนางแบบคนแรกเดินออกมา ชุดหนังจากผลไม้คือชุดหนังวีแกนสีทะมึนเจือเกล็ดสีเขียวส้มดูน่าสนใจ มันดูมันวาวคล้ายขนมเหนียวในวัยเด็ก ฉันคิดว่ามันสวยดี พลางคิดถึงมะม่วงกวนหรือส้มแผ่นที่อ่อนนุ่มเมื่อโดนน้ำ เขาทำยังไงกันนะ ชุดหนานาบบนตัวนางแบบสาวฝรั่งแต่งหน้าสดสวย
อโวคาโด้เป็นไขมันไม่น่าจะทำแบบส้มแผ่นได้
ไอเดียดับลง อืม แล้วเมล็ดของมันหละ?
แฟชั่นโชว์จบลง
หนุ่มฝรั่งตาสวยชื่อว่า เอ็นซัส มานั่งข้างๆฉัน พร้อมกล่าวทักทาย เขามาจากฮาวาย เขาถามฉันหลายอย่าง เราคุยกันหลายเรื่อง เขาถามถึงหนังสือที่ฉับชอบ ฉันชงัก
ฉันไม่อยากเป็นคนที่อ่านพวกหนังสือโลกสวยอีกต่อไปแล้ว เขาชวนฉันชนแก้วในมือ แอลกอฮอล์เข้มข้นวิ่งเวียนในสายเลือดส่งให้สมองนึกถึงแต่ของเก่าๆ อะไรเก่าๆที่ไม่เคยทิ้ง หมอดูอาจจะพูดจริงว่าคนวันเสาร์ชอบจมปรัก ชอบแคร์อะไรไม่เข้าเรื่อง
แคร์ไปเสียหมด ผิดฝาผิดตัว
“พอดีกูไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นหนะ ไม่เหมือนใครบางคน ก็ไม่เข้าใจจริงๆนะว่าทำไมอยากรู้อะไรกันนักกันหนา พอดีกูสนใจแต่อะไรที่เป็นประโยชน์” แพรวาเอ่ยผ่านออกมาในควันบุหรี่โดยไม่สนใจมวลสิ่งอลเวงรอบข้าง
แพรวาด่าฉัน...ฉันรู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ...
มือน้อยที่สับสนกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาแม่เมื่อยามสนธยามาถึง น้ำใสจากดวงตาอ่อนแอไหลรินลงมาคล้ายจะกลับคืนสู่แหล่งน้ำที่เขายืนอยู่ใกล้ๆมัน ขาซ้ายและขาขวาทำงานไม่สัมพันธ์กันด้วยสับสนและตกใจ อากาศอบอ้าวและไอร้อนของลมบกเหมือนจะพัดมาเพื่อปลอบดวงตาช้ำแดงเรื่อ “ว่าไง มีอะไรลูก” เสียงที่ฟังแล้วอาจจะเบาใจขึ้นมาไม่น้อยทำให้เขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม่ของเขาทำธุระอยู่ต่างจังหวัด
แม่อยู่ที่จังหวัดหนึ่งของภาคเหนือที่อากาศกำลังโหดร้าย “บอกแม่มาเถอะ มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า แม่ไม่ได้อยู่ด้วยแบบนี้ แม่ใจไม่ดีเลย”
แม่เป็นสะใภ้ไทยแทบจะหนึ่งเดียวในบ้านคนจีน หลายอย่างของความรู้สึกพรั่งพรูออกมากับหยดน้ำใส
“ แต่แม่ไม่เคยท้อนะ “ ในตอนนี้เขารู้แล้วว่า เหตุผลที่แม่นั่งรถไฟขึ้นเหนือโดยลำพัง ก็เป็นเหตุผลของคนไม่ยอมแพ้
.
.
“ เชอ วา ลิ เย่ แปลว่า อัศวินจ้ะ “ คำพูดฟังดูอ่อนโยนของหนุ่มผิวเข้ม ตัวค่อนข้างสูงแต่ไม่ผอมมาก ใส่เสื้อขาวลายจุดน้ำเงิน “ ก็โควิดมาหนะสิ เลยต้องกลับ เลยไม่ได้อยู่กับแฟน “ ... “เค้าเป็นคนเก่งและอ่อนน้อมมากนะครับ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา
เด็กๆก็รักเค้ามาก เค้าคือบุคลากรที่มีคุณค่าคนนึงเลย “
“อ้าว ทำไมมันใบโกร๋นแบบนี้หละป๊า”
“ป๊าริดใบมันออกเองแหละ ไอ้อโวคาโด้นี่ก็ไม่รู้ทำไมใบมันถึงไหม้ขนาดนี้ แดดอาจจะแรงไป “
... มันไม่ตายหรอกน่า ฉันปลอบใจตัวเอง
.
.
.
“ พี่ต้องย้ายเจ้ากุหลาบไปไว้หลังบ้านก่อนนะจ๊ะ มันจะตายเอานา แดดจัดแบบนี้ เห็นเค้าปลูกที่เชียงใหม่ เค้าไว้ในที่แดดไม่แรงมาก “
กลิ่นคลุ้งน้ำหมักชีวภาพที่โคนราก
ใบห่อเหี่ยวด้วยรังสีของเปลวแดดเวลาบ่ายสามโมง ดอกตูมทั้งหมดที่กำลังจะเบิกบานห้อยต่องแต่งเมื่อมาถึงบ้านฉัน ฉันเสียใจจริงๆ ฉันทำพังอีกแล้ว ราคามันก็สูงซะด้วยสิ นี่มันไม่ใช่การลองผิดลองถูกของฉันแล้วกระมัง ไม่มีใครอยากทำผิดอะไรบ่อยๆหรอก ฉันที่มั่นใจว่าตนเป็น เพอร์เฟคชั่นนิสต์ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ฉันไม่เคยทำอะไรได้สมบูรณ์แบบเลย
แสงตะวันที่ไม่รู้ว่าส่องมาจากทิศหน้าหรือหลังของเรา ริมคูน้ำที่ถูกกลัดด้วยต้นฉำฉาต้นใหญ่ อาคารรับรองเต้นลีลาศแสนคลาสสิก คนสวนในชุดสีน้ำเงินหัวจรดเท้า เป็นสีน้ำเงินที่ผ่านการซักล้างมาไม่น้อยเลย คนสวนกำลังขวักไขว่ใช้กำลังโยงใยหอบสายยางออกมา คนสวนเดินให้น้ำต้นไม้ทุกต้นด้วยความชำนาญและรวดเร็วแต่พอดี ดุจได้ยินเสียงต้นไม้กระซิบว่ามันต้องการน้ำแค่ไหน
ใครกันที่มั่นอกมั่นใจอยากเป็นคนสวนหนักหนา ใครกันที่ทำกุหลาบราคาแพงตายไป 5 ต้น ฉันได้ยินเสียงคนสวนคนนั้นที่ฉันชายตามองในนิมิต
“โห มึงกล้ามากนะ กล้าจะยึดตัวเองว่าเป็นอาชีพคนสวนแบบกู มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะ อย่ามาทำให้กูเสื่อมเกียรติหวะ กูไม่อยากร่วมประเภทกับคนแบบมึง!”
ฉันกลับบ้าน ฉันห่อตัวด้วยความอมโศก....
“ หนูก็ไปทำอะไรกับต้นไม้ให้มันเอ็กซ์ตรีมเกิน ฮ่าฮ่า มากที่สุดไม่ได้แปลว่าดีที่สุดหรอกนะ มันเหมือนคนนั่นแหละ ชอบอะไรไม่เหมือนกัน แต่ต้องอยู่ในความพอดี ลูกสาวพี่ตายหมดเลย ฮ่าฮ่าฮ่า “ ... “ หนูขอโทษ ” ชายอวบอั๋นหน้าตาสดใส พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้ฉันขำ และเขาเองก็ขำในความอยากได้ไปให้ถึงของฉัน
ฉันมองเห็นตัวเองในมุมที่น่าหัวร่อเอามากๆ มันน่าตลกขบขันในความกระเด็นกระดอน และขาดๆเกินๆของตัวเอง
ในแดดของยามหกโมงเย็น เขาและฉันหัวเราะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
.
.
ฉันมองออกไปนอกชาน ต้นอ่อนอโวคาโด้มันกำลังแตกใบใหม่.
ฉันเองก็มีแรงที่จะเป็นคนสวนอีกครั้ง.
บันทึก
2
5
2
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย