10 ก.พ. เวลา 12:25 • ดนตรี เพลง

[รีวิวอัลบั้ม] All My Purple Feeling - LANDOKMAI >>> โลกสีม่วง

-ในที่สุดเราก็ได้เห็นผลงานเต็มรูปแบบของสองสาวดูโอ้ อูปิม-แอนท์ ในนามของ LANDOKMAI ซึ่งที่มาของชื่อวงเป็นชื่อจริงของอูปิมนั่นเอง ตลอดสี่ปีที่โลดแล่นในวงการไทยอินดี้ ผมจับสังเกตได้อย่างนึงคือ vibe เพลงของพวกเธอมีแต่จะจมดิ่งลง ไม่ได้แปลว่าดรอปทางฝีมือนะครับ แต่เป็นความรู้สึกผิดหวัง ขมขื่น เป็นการส่วนใหญ่ เราแทบจะไม่ได้เห็นเพลงรักสดใสของพวกเธอเลย ยกเว้น #เพลงรักเพลงแรก ที่เป็นเพลงฮิตติดลมบนกว่าใครเขา
-ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า vibe เพลงส่วนใหญ่ช่างสวนทางกับชื่อวงที่ไปทางขายความสวยงามเบิกบาน เป็นความอึมครึมบางอย่างที่คาดเดาไม่ได้ แต่ที่รู้ๆคือเป็นความชวนฝันชั่วครู่ แล้ววกกลับสู่ความจริงอันขมขื่นอยู่ดี ซึ่งกลายเป็นภาพจำไปแล้วจริงๆ ไม่ใช่สาวช่างฝันที่มองโลกในแง่ดีมากขนาดนั้น ณ ตอนนี้พวกเธอก็ได้เฉลยแม่สีประจำที่ทำให้เราสัมผัสถึงมู้ดแอนด์โทนได้กระจ่างขึ้น
-โดยสีม่วงได้กลายเป็นสีแรกที่แว๊บเข้ามาในความรู้สึกส่วนตัวของอูปิมทุกครั้งเมื่อได้แต่งเพลงเหล่านี้ ผมเองก็เพิ่งรู้ด้วยว่าสีม่วงเป็นค่ากลางระหว่างความรู้สึกสดใสดุจเด็กน้อยและความลึกลับที่โตขึ้นตามการกักเก็บความรู้สึกที่ผู้ใหญ่พึงมี ไม่สุขมาก ไม่เศร้าโศกมาก (แต่ก็ realistic เหมือนกันนะหนู)
-หน้าปกอัลบั้มที่เป็นตัวการ์ตูนน้องเด็กสีเทาเปล่งประกายเล็กน้อยท่ามกลางสีม่วง บ่งบอกถึงความเป็นนิทานเด็กลึกลับตามที่พวกเธอนิยามมุมมองต่อสีม่วงไว้ข้างต้น Welcome to My Purple Story เป็น interlude เปิดอัลบั้มด้วยการเกริ่นนำแบบนิทาน #เมื่อไหร่ที่คิดถึงเธอ ที่ผมขอให้นิยามกลิ่นอายเพลงนี้ว่า “ปราสาทผีสิง” ที่ไม่หลอน ไม่ตุ้งแช่ แต่เศร้าสร้อยละห้อยด้วยเครื่องสายที่มีบทบาทอย่างยิ่งในเพลงนี้และเพลงอื่นๆด้วย การถ่ายทอดความฟุ้งซ่านที่เอคโค่ ก้องกังวานในห้วงจิตของคนที่ยังคำนึงห่วงหา
-เพลงที่ได้รับอิทธิพลจากสตูดิโอจิบลิจนสามารถเป็น ost เวอร์ชั่นภาษาไทยได้เลยอย่าง #เกาะลอยฟ้า ที่บอกเล่าความเหงาจากแอนิเมชั่น Castle In The Sky ที่หยิบเรื่องราวนครลอยฟ้าที่ถูกทิ้งรกร้างเหลือเพียงหุ่นยนต์ที่ดูแลเกาะอย่างโดดเดี่ยว เป็นซิงเกิ้ลแรกที่ขยับความเป็น full band ไปเลย ด้วยความที่สองสาวชื่นชอบสตูดิโอจิบลิเป็นพิเศษ มันเลยทำให้ผมคิดถึงสไตล์เพลงของพวกเธอที่ชอบทำให้เรื่องขมขื่นนั้นออกมาสวยงามชวนฝันได้เช่นกัน
-การมีซิงเกิ้ลและ non-single สุมอยู่ในอัลบั้มครึ่งต่อครึ่งก็ชวนให้น่าค้นหาดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ถูกสปอยล์เกินครึ่งอัลบั้มเพื่อให้ค้นพบจุดเซอร์ไพร์สจากพวกเธออีกทีนึง แล้วนั่นทำให้เราค้นพบความเนี๊ยบที่เพิ่มขึ้น และความเป็นเซนส์ป็อปที่ถูกพิสูจน์ว่ามีอยู่จริง
-โดยเฉพาะเพลง #ยอม (White Flag) ที่กำลังติด trending ณ ขณะนี้ ซื้อใจได้ตั้งแต่แรกฟัง ฮิตโดยไม่แปลกใจ ความขี้น้อยใจอยู่คู่กับคนไทยอยู่แล้ว ใดๆกลิ่นดราม่าก็ไม่จัด มีความงอนง้อขี้เล่นซ่อนอยู่ เป็นความน้อยใจที่น่ารักน่าเอ็นดู แถมยัง catchy ด้วยต่างหาก ถึงแม้จะยังไม่ได้ปล่อยเอ็มวี ยอดวิว audio แตะหลักล้านแล้ว ถือว่าเก่งมากๆในยุคนี้
#เพลงรักเพลงแรก คงไม่ต้องพูดถึงอะไรมากกับการเป็นซิงเกิ้ลติด portfolio พวกเธอไปแล้ว เป็นเพลงรักที่นานๆครั้งจะได้เห็นจากพวกเธอ ที่สำคัญมันไม่ใช่เพลงรักที่หวานเลี่ยนจนเกินไป ยังแอบซ่อนความห่วงหาด้วยท่วงทำนองแช่มช้าที่ชวนให้เทไปทางเหงา มองอะไรก็เป็นสีม่วงอมชมพูมากกว่าชมพูหวานแหววด้วย แน่นอนว่ามันต้องเป็นเพลงที่ถูกเปิดเยอะเป็นพิเศษในวันวาเลนไทน์
B-D-BUB-BA เพลงเปี่ยมสุขเต็มไปด้วยความเยาว์มากที่สุด นี่คือเพลงปาร์ตี้ขึ้นบ้านใหม่ที่มีทั้งความบอสซ่าและ bedroom pop อันเป็นสไตล์ที่บ่งบอกความเป็นเด็ก Gen Z อย่างเห็นได้ชัด
-เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรก Taxi ที่ได้คิตตี้ H I N A N O มาร่วมแต่งความพยายามมูฟออนที่พร้อมโบกเรียกแท็กซี่หนีไปให้ไกลที่ไหนซักแห่งหน มีลายเซ็นต์ความกรีดกรายของคิตตี้ที่ชัดเจนมากๆ แต่ที่เจ้มจ้นจนเป็นความ “LANDOKMAI” ได้เต็มที่ก็คงหนีไม่พ้น I miss you when I’m drunk ที่เร่งโทนความ emotional ให้แหลมขึ้นทั้งเสียงร้องและเสียงกีตาร์ไฟฟ้าแผ่ดๆเสริมกลิ่น post-rock ให้ทำหน้าที่ระบายความอัดอั้นที่ยังลืมใครคนนั้นไม่ได้
#ฤดูฝัน (Drizzle) เพลงสั้นๆแต่แอบสายลึก ชุ่มด้วยเสียงน้ำเสริมบรรยากาศของ “ฤดูฝน” ก็ย่อมได้ #ในวันพรุ่งนี้ขอให้เป็นวันที่ดี (Nomad’s Lullaby) ฮีลใจได้ดียิ่งยวด เป็นเพลงกล่อมนอนที่ปลอบประโลมคนจิตใจฟุ้งซ่าน เร่ร่อนไร้จุดหมายให้ดูมีความหวังอีกครั้งในวันข้างหน้า สะกดคนฟังด้วยไลน์เปียโนแน่นกรึบตั้งแต่ต้นยันจบเพลง
-I'm saying goodbye เป็นการเก็บตกลูกเล่นหลายหลาก ตั้งแต่อคลูสติคกีตาร์โปร่ง เปียโน ไปจนถึงเครื่องสายไวโอลินมาปล่อยโฮเป็นการทิ้งท้ายอัลบั้มไม่ใช่แค่การได้รับบทเรียนที่ว่า “อย่ารักใครมากเกินไป” ยังบอกลาวันวานที่เลวร้าย ความผิดพลาดต่างๆนาๆ ถึงจะเสียดายกับคำสัญญาเก่าๆ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ควรทำ ทั้งนี้เรายังได้ยินแอนท์โผล่ร้องคอรัสอยู่เนืองๆด้วย
-อัลบั้มเต็มรูปแบบอัลบั้มแรกที่เปิดตัวได้สวยงาม ตอกย้ำคาแรคเตอร์สาวหวานที่ไม่ฝันหวานด้วยมุมมองโลกที่เปลี่ยนไปตามการเติบโตที่ความเป็นเด็กนั้นไม่คงอยู่ตลอดไป มีบ้างที่มีเรื่องให้ขบคิดเพื่อรับความขมขื่นต่อจากนี้ เอกลักษณ์ชัดเจนไม่จางหาย ราวกับว่าพวกเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
-ตอนผมสัมภาษณ์อูปิมเรื่องของการค้นพบเสียงร้อง ซึ่งเธอได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ว่าให้ลองใช้เสียงของตัวเอง ซึ่งมันเป็น fact ที่ทำให้ผมอึ้งทันทีกับการค้นพบเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องมาลองผิดลองถูกอีกหลายหน และอัลบั้มแรกก็พิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่า พวกเธอคือ Thai indie darling โดยที่ไม่ต้องพยายามแต่อย่างใด
เทสที่สร้างจากร่างที่เป็นชัดๆ
Give 7.5/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
โฆษณา