11 ก.พ. 2024 เวลา 03:30 • ข่าวรอบโลก

รัฐบาลกองทัพเมียนมาใกล้ถึงจุดเปลี่ยนในไม่ช้า

สถานการณ์ในเมียนมา ณ ปัจจุบัน ใกล้มาถึงจุดเปลี่ยนแปลง(Turning Point) โดยทิศทางเป็นไปในทางลบกับรัฐบาลกองทัพเมียนมา อาจนำไปสู่จุดที่พ่ายแม้ต่อกลุ่มต้านและชนกลุ่มน้อยที่มีการรวมมือกับกลุ่มต่อต้านที่ได้เปิดพื้นที่การสู้รบและได้ปลดปล่อยพื้นที่เป็นพื้นที่ยึดครองมากกว่า๓๒ เมืองหรือtownship ส่งผลให้รัฐบาลกองทัพเมียนมาต้องขยายการใช้กฎหมายพิเศษออกไปและยังประกาศให้ชาวเมียนมาต้องรับใช้ชาติ(เกณฑ์ทหาร)ในสถานการณ์พิเศษ เมื่อ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
​เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เนื่องจากในแง่ของมวลชนที่เป็นเยาวชนส่วนใหญ่ของเมียนมา ได้เข้าร่วมการต่อสู้กับNUG PDF และCDM บางส่วนเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อไปศึกษาต่อ หรือหลบหนีมายังไทย หรือที่อื่นๆ ด้วยเหตุนี้ ทำให้การเกณฑ์ทหารที่ผ่านมาประสบกับปัญหา จนมีการประเมินว่าจำนวนทหารเกณฑ์เมียนมาได้ลดลง ครึ่งหนึ่งจากตัวเลข ๓-๔๐๐,๐๐๐ นาย
ดังนั้น จึงไม่แปลกใจว่าการสู้รบในหลายเมืองของกองทัพเมียนมาถึงพ่ายแพ้ อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความอ่อนแอของกองทัพเมียนมา ไม่เฉพาะกับจำนวนทหารที่ลดลง แต่ยังรวมถึงยุทธโธปกรณ์บางส่วนที่เสียเปรียบในการสู้รบ คือ การใช้โดรน (Drone) ค่อนข้างเสียเปรียบฝ่ายต่อต้าน
​ขณะที่การปิดล้อมทางเศรษฐกิจจากต่างประเทศ ได้เป็นเงื่อนไขที่สำคัญต่อสถานการณ์ภายในและกับการหารายได้ของกองทัพเมียนมาเอง ดังนั้น จึงเป็นที่มาของความอ่อนแอสถานะทางเศรษฐกิจภายใน นำมาสู่การทุจริตและการแสวงหาประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมาย ยาเสพติด กลุ่มทุนจีนสีเทา จากเจ้าหน้าที่ของรัฐของเมียนมา และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เสียเมืองโกกั้งไปให้ชนกลุ่มน้อยในที่สุด
​สถานการณ์ในห้วงนี้ อาจเข้าสู้ระยะสุดท้ายที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน เพราะความอ่อนแอภายในของเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นทั้งปัจจัยภายในและนอกส่งผลให้สถานการณ์ในห้วงปัจจุบันทำให้
​​๑)กลุ่มต่อต้านยังสู้รบขยายพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ปลดปล่อยจากอำนาจรัฐจากรัฐบาลกองทัพเมียนมา
​​๒)จีนขยายอิทธิพลเข้ามาในเมียนมาผ่านชนกลุ่มน้อย(ให้การสนับสนุน กลุ่มว้า SSPP ตะอาง AA ปะโอ ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งส่งอาวุธให้กลุ่มPDF และ กลุ่มคะยา อีกด้วย ) ได้มากขึ้นและยังไม่มีสัญญาณว่าจะยุติลง หากจีนคิดว่ายังมีสิ่งที่ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลกองทัพเมียนมา โดยเฉพาะโครงการตามBRIและCMEC
​​๓)เกิดการดื้อแพ่งจากชนกลุ่มน้อยที่เห็นชัดคือBGFของหม่องชิตตู่ ที่ประกาศอิสระไม่ขึ้นตรงกับกองทัพเมียนมา เช่นเดียวกับกลุ่มปะโอ ที่เปิดพื้นที่สู้รบกับกองทัพเมียนมา โดยมีกลุ่มว้าหนุนหลัง
​๔)สถานการณ์ภายในเมียนมาจะกระทบต่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมหาอำนาจทั้งจีน และ อม.จะกดดันไทยให้เลือกข้าง เพราะท่าทีของไทยมีผลต่อสถานการณ์ภายในเมียนมาในทุกมิติ
โฆษณา