11 ก.พ. 2024 เวลา 06:14 • อสังหาริมทรัพย์

**💵🛻 มัดจำ คืออะไร แล้วต้องดำเนินการอย่างไรกับมัดจำ**

มัดจำ หมายความถึง ทรัพย์สินซึ่งอาจเป็น “เงิน 💵” หรือ “ทรัพย์สินอย่างอื่น 🛻” ก็ได้ ที่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ส่งมอบให้แก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อเป็น “พยานหลักฐาน 📃” ว่าสัญญานั้นได้ทำกันขึ้นแล้ว และเป็น “ประกัน 🗒” การที่จะปฏิบัติตามสัญญานั้นด้วย ซึ่งแยกอธิบายได้ดังนี้
.
1️⃣ เป็น “**พยานหลักฐาน**” ว่าได้ทำสัญญากันแล้ว
การที่คู่สัญญามาทำสัญญากัน และมีการวางมัดจำไว้ กฎหมายจะสันนิษฐานว่า มัดจำนั้นเป็นพยานหลักฐานว่าได้มีสัญญาเกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญานั้นแล้ว
แต่การสันนิษฐานตรงนี้ ไม่ใช่การสันนิษฐานเด็ดขาด หมายความว่า หากมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอย่างอื่นมาลบล้างโดยแสดงให้เห็นได้ว่า ยังไม่ได้มีการทำสัญญากัน เพียงแต่วางมัดจำไว้เฉยๆ ก็ถือว่า “สัญญายังไม่เกิด”⚖️
ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าสนใจซื้อบ้าน🏡ในโครงการหนึ่ง แต่ยังไม่รู้ว่าจะสามารถยื่นกู้ธนาคาร 🏦ผ่านหรือไม่ แต่ต้องการจองบ้านหลังที่ตนเองสนใจไว้ก่อน จึงได้วางมัดจำไว้กับโครงการเป็นเงิน 50,000 บาท โดยตกลงกับโครงการว่า ลูกค้าจะขอทำเรื่องเอกสารยื่นกู้ธนาคารก่อน📄 หากกู้ผ่านจึงจะมาทำสัญญาจะซื้อจะขายกับโครงการ และโครงการก็ตกลงตามนั้น แต่หากลูกค้ากู้ไม่ผ่าน โครงการก็จะคืนเงินมัดจำ 50,000 บาทให้แก่ลูกค้า
ต่อมา ปรากฏธนาคารปฏิเสธการปล่อยกู้ซื้อบ้าน🏡ให้ลูกค้า ลูกค้าจึงมีสิทธิขอเงินมัดจำคืนได้ เพราะการวางมัดจำในกรณีนี้ ไม่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน โครงการต้องคืนมัดจำ และไม่สามารถฟ้องให้ลูกค้าซื้อบ้านได้
แต่หากธนาคาร🏦อนุมัติปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้า ลูกค้ากับโครงการก็ต้องมาทำสัญญาจะซื้อจะขายกันก่อนถึงจะถือว่าสัญญาระหว่างลูกค้ากับโครงการเกิดขึ้นแล้ว ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาจะซื้อจะขายอีกฝ่ายหนึ่งก็สามารถฟ้องตามสัญญานี้ได้
.
2️⃣ เป็น “**ประกัน**” การที่จะปฏิบัติตามสัญญานั้น
เมื่อบุคคลทำสัญญากัน และมีการให้มัดจำกันไว้ มัดจำนั้นถือเป็นประกันว่าจะปฏิบัติตามสัญญานั้นด้วย
.
.
**ผลของการที่มีมัดจำเป็นประกันว่าจะปฏิบัติตามสัญญา**
.
หากคู่สัญญามีการ **ตกลง** เรื่องนี้กันไว้ ผลก็จะเป็นไปตามที่ตกลงกัน
คือ ถ้าคู่สัญญาตกลงกันไว้ว่า หากมีการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามสัญญา ให้มีผลเกี่ยวกับมัดจำนั้นอย่างไร เช่น ให้เอาเป็นการชำระหนี้รายอื่น ให้ส่งคืนคนที่วางมัดจำนั้นครึ่งหนึ่ง หรือคนที่รับมัดจำไว้ริบมัดจำนั้นได้เลย ฯลฯ ก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลงนั้น
.
.
หากคู่สัญญา **ไม่ได้ตกลง** ❌ กันไว้เป็นอย่างอื่น ผลจะเป็นไปตามที่ **กฎหมายกำหนด** คือ
.
.
1️⃣ ถ้าคู่สัญญามีการ **ปฏิบัติ** ตามสัญญากัน
.
📌 1.1 กรณีที่มัดจำเป็น **ทรัพย์สินอย่างอื่น ที่ไม่ใช่เงิน⌚**
ให้ฝ่ายที่รับมัดจำไว้ส่งมัดจำ **คืน** ให้แก่ฝ่ายที่วางมัดจำไป
เช่น ช่อผกา จ้างให้ ประวิทย์ ตัดเสื้อ👕 1 ตัว โดยเอานาฬิกาข้อมือ⌚วางมัดจำไว้
เมื่อช่อผกามารับเสื้อจากประวิทย์ และจ่ายเงินค่าจ้างตัดเสื้อให้แก่ประวิทย์แล้ว ประวิทย์ก็ต้องส่งคืนนาฬิกาข้อมือที่วางมัดจำให้แก่ช่อผกา
.
📌 1.2 กรณีนี้มัดจำเป็น **เงิน** 💵
คู่สัญญาสามารถเอามัดจำนั้น **เป็นส่วนหนึ่งของการชำระหนี้** ตามสัญญาได้เลย
เช่น ช่อผกาจ้างให้ประวิทย์ตัดเสื้อ 👕 1 ตัว ค่าจ้าง 2,000 บาท โดยวางมัดจำไว้ 500 บาท **💵**
เมื่อช่อผกามารับเสื้อจากประวิทย์ และจ่ายเงินค่าจ้างตัดเสื้อให้แก่ประวิทย์ ก็ให้ถือว่าเงินมัดจำ 500 บาทนั้นเป็นค่าจ้างตัดเสื้อบางส่วนด้วย ทำให้ช่อผกาต้องจ่ายประวิทย์เพิ่มอีกเพียง 1,500 บาท
.
.
2️⃣ ถ้าคู่สัญญามีการ **ผิดสัญญา** กันหรือการชำระหนี้ตกเป็น **พ้นวิสัย** (คือ การปฏิบัติตามสัญญาไม่สามารถเป็นไปได้แล้ว)
.
📌 2.1 ฝ่ายที่รับมัดจำสามารถ **ริบ** มัดจำได้ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
.
🔸 2.1.1 **ฝ่ายที่วาง** มัดจำเป็นฝ่าย **ผิดสัญญา**
เช่น ช่อผกาทำสัญญาซื้อไม้🪵 จากประวิทย์ โดยได้วางเงินมัดจำให้ไว้ 200,000 บาท ตกลงส่งไม้กันเป็นงวด ๆ ตามกำหนดระยะเวลา
เมื่อตรวจรับไม้แต่ละงวดแล้ว ช่อผกาจะจ่ายเงินสดให้ประวิทย์ทุกงวด ปรากฏว่าในงวดที่ 10 ประวิทย์ ส่งไม้ให้ช่อผกาตามกำหนดในสัญญา และช่อผกาได้ตรวจรับไว้แล้ว แต่ไม่ได้จ่ายเงินให้ประวิทย์ ช่อผกาเลยค้างค่าไม้อยู่ 450,000 บาท ประวิทย์ทวงถามแล้ว ช่อผกาก็ยังไม่ชำระ
กรณีนี้ ช่อผกา ซึ่งเป็นฝ่ายที่วางมัดจำไม่ยอมชำระหนี้ ดังนั้น ประวิทย์ จึงมีสิทธิ **ริบ** เงินมัดจำ 200,000 บาทได้และยังสามารถ **บังคับให้** ช่อผกา **ชำระเงินส่วนที่เหลือ** แก่ประวิทย์ได้อีกด้วย
.
🔸2.1.2 การชำระหนี้ตกเป็น **พ้นวิสัย** โดยที่ **ฝ่ายที่วาง** มัดจำต้อง**รับผิดชอบ**
เช่น ช่อผกาทำสัญญาจะซื้อรถยนต์คันหนึ่ง 🚗 จาก ประวิทย์ และได้วางเงินมัดจำไว้ 300,000 บาท กำหนดชำระราคารถยนต์ และส่งมอบรถยนต์กันในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีเดียวกันนั้น
ก่อนที่จะถึงวันนัด ช่อผกาขอยืมรถยนต์คันนั้นจากประวิทย์ไปทดลองขับ ด้วยความประมาททำให้รถยนต์คันนั้นพลิกคว่ำไฟไหม้หมด
กรณีนี้ เป็นกรณีที่การชำระหนี้ตกเป็นพันวิสัยเพราะพฤติกรรมของช่อผกา ซึ่งเป็นฝ่ายที่วางมัดจำ ช่อผกาจึงต้องรับผิดชอบ ดังนั้น ประวิทย์จึงสามารถริบเงินมัดจำ 300,000 บาทนั้นได้
นอกจากนี้ ถ้าประวิทย์มีความเสียหายมากกว่าจำนวนเงินมัดจำที่ริบนั้น ประวิทย์ยัง **มีสิทธิเรียกเอาค่าเสียหายส่วนที่เกินมัดจำ** จากช่อผกาเพิ่มได้อีกด้วย
.
🔸2.1.3 มีการ **เลิกสัญญา** เพราะความผิดของ **ฝ่ายที่วาง** มัดจำ
เช่น ช่อผกา ทำสัญญาจะซื้อรถยนต์คันหนึ่ง 🚙 จากประวิทย์ และได้วางเงินมัดจำไว้ 300,000 บาท กำหนดชำระราคารถยนต์และส่งมอบรถยนต์กันในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีเดียวกันนั้น
เมื่อถึงวันนัด ประวิทย์เตรียมส่งมอบรถยนต์ให้ช่อผกาแล้ว แต่ช่อผกา **ไม่ชำระ** ราคารถยนต์ที่เหลือให้ประวิทย์
กรณีนี้ ประวิทย์สามารถ **บอกเลิกสัญญาได้** และยังมีสิทธิ **ริบ** เงินมัดจำ 300,000 บาทนั้นได้ นอกจากนี้ ถ้าประวิทย์เสียหายมากกว่าเงินมัดจำที่ริบนั้น ประวิทย์ ยัง **มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายส่วนที่เกินมัดจำ** นั้นได้อีกด้วย
.
📌 2.2 ฝ่ายที่รับมัดจำต้อง **คืน** มัดจำ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
.
🔸2.2.1 **ฝ่ายที่รับ** มัดจำเป็นฝ่าย **ผิดสัญญา**
เช่น ช่อผกาทำสัญญาจะซื้อรถยนต์คันหนึ่ง 🏎 จากประวิทย์ และได้วางเงินมัดจำไว้ 300,000 บาท กำหนดชำระราคารถยนต์และส่งมอบรถยนต์กันในวันที่ 31 ธันวาคมของปีเดียวกันนั้น
เมื่อถึงวันนัด ช่อผกาเตรียมชำระราคารถยนต์ให้แก่ประวิทย์แล้ว แต่ปรากฏว่าประวิทย์ **ไม่ส่งมอบ** รถยนต์ให้แก่ช่อผกา
กรณีนี้ ประวิทย์ ต้องส่งคืนเงินมัดจำ 300,000 บาทนั้นให้แก่ ช่อผกา และถ้าช่อผกามีความเสียหาย ช่อผกาก็ยัง **มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายได้** อีกด้วย
.
🔸2.2.2 การชำระหนี้ตกเป็น **พ้นวิสัย**โดยที่ **ฝ่ายที่รับ** มัดจำต้อง**รับผิดชอบ**
เช่น ช่อผกาทำสัญญาจะซื้อรถยนต์คันหนึ่ง 🛻 จาก ประวิทย์ และได้วางเงินมัดจำไว้ 300,000 บาท กำหนดชำระราคารถยนต์และส่งมอบรถยนต์กันในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีเดียวกันนั้น
ก่อนที่จะถึงวันนัด ประวิทย์ได้เอารถยนต์คันดังกล่าวขับไปต่างจังหวัดด้วยความเร็ว ทำให้รถยนต์พลิกคว่ำเสียหายทั้งคัน
กรณีนี้ ถือเป็นกรณีที่การชำระหนี้ตกเป็นพันวิสัยเพราะพฤติการณ์ที่ประวิทย์ ซึ่งเป็นฝ่ายที่รับมัดจำต้องรับผิดชอบ ดังนั้น ประวิทย์จึงต้องคืนเงินมัดจำ 300,000 บาทนั้นให้แก่ช่อผกา
.
🔸2.2.3 มีการ **เลิกสัญญา** เพราะความผิดของ **ฝ่ายที่รับ** มัดจำ
เช่น ช่อผกาทำสัญญาจะซื้อรถยนต์คันหนึ่ง 🚘 จากประวิทย์ และได้วางเงินมัดจำไว้ 300,000 บาทกำหนดชำระราคารถยนต์และส่งมอบรถยนต์กันในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีเดียวกันนั้น
เมื่อถึงวันนัด ช่อผกาเตรียมเงินสำหรับชำระราคารถยนต์ที่เหลือแล้ว แต่ปรากฏว่าประวิทย์ **ไม่ยอมส่งมอบ** รถยนต์ให้ช่อผกาโดยไม่มีเหตุผลสมควร
กรณีนี้ ช่อผกาสามารถ **บอกเลิกสัญญาได้** และประวิทย์ต้อง **คืน** เงินมัดจำ 300,000 บาทให้แก่ช่อผกา นอกจากนี้ ถ้าช่อผกามีความเสียหายมากกว่าเงินมัดจำนั้น ช่อผกา ยัง **มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายเพิ่ม** จากประวิทย์ได้อีกด้วย
.
.
3️⃣ ถ้าคู่สัญญา **ตกลงเลิกสัญญากัน** ฝ่ายที่รับมัดจำไว้ให้ **คืน** มัดจำแก่ฝ่ายที่วางมัดจำไป
เช่น ช่อผกา ทำสัญญาจะซื้อรถยนต์ 🚖 จากประวิทย์ ได้วางเงินมัดจำไว้ 300,000 บาท กำหนดชำระราคารถยนต์และส่งมอบรถยนต์กันในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีเดียวกันนั้น
ต่อมา ช่อผกาเปลี่ยนใจไม่ต้องการรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว ในขณะเดียวกันประวิทย์ก็ไม่ต้องการขายรถยนต์คันนี้ให้แก่ช่อผกาแล้วเช่นกัน
ช่อผกากับประวิทย์ จึงตกลงเลิกสัญญาจะซื้อขายรถยนต์กัน
กรณีนี้ ประวิทย์ต้อง **คืน** เงินมัดจำ 300,000 บาทให้แก่ช่อผกา
🏫LIBOTHAI Academy : ช่องทางการเรียนรู้และเข้าถึงกฎหมายอย่างเข้าใจสำหรับทุกคน
======================
🌐 สนใจเรียนกฎหมายกับเรา
หรือบริการทางกฎหมายของเรา
โฆษณา