13 ก.พ. เวลา 13:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Thailand Kodak Moments

ในอดีตคำว่า kodak moments เคยเป็นคำที่บรรยายถึง จังหวะแห่งความประทับใจ จนอยากเก็บเป็นภาพถ่ายไว้ (สำหรับใครที่ไม่รู้ Kodak คือ ยี่ห้อฟิล์มถ่ายรูปนะฮะ ไม่รู้ยังมีคนจำกล้องฟิล์มกันได้ไหม ผมก็เกิดไม่ทันครับ)
แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคำที่อ้างถึง สถานการณ์ที่ธุรกิจเสียตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมไป จากสาเหตุต่างๆ เหมือนกับที่ Kodak เสียการเป็นผู้นำการผลิตฟิล์มไป เมื่อเจอกระแสความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเมื่อกล้องดิจิตอลมีราคาถูกลงและมีการพัฒนาจนดีกว่ากล้องฟิล์ม
(หากใครจำได้ ในช่วงนั้นผู้คนจะมีการถกเถียงกันอย่างหนัก ว่ากล้องดิจิทอลจะสามารถมีคุณภาพสู้ฟิล์มในราคาที่เข้าถึงได้จริงหรือไม่)
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งความผิดพลาดในการตัดสินใจด้านธุรกิจ การมองแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่ผิดพลาด การขาดความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงความพยายามรักษาการให้บริการฐานลูกค้าเก่า (innovator’s dilemma)
ถ้าเราย้อนมาดูที่ อุตสาหกรรมของไทย ก็มีหลายเรื่องที่น่ากังวลว่าเรากำลังเจอสถานการณ์ใกล้เคียงกันกับ Kodak Moments
เนื่องจากไทยเราเก่งมาในการผลิตสินค้าบางชนิด แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยี ตลาด หรือพฤติกรรมของผู้บริโภค เรากลับไม่สามารถขยับขยายหรือพัฒนาเทคโนโลยีได้ทัน จนเสี่ยงทำให้เราเสียความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนั้นไป
หนึ่งในตัวอย่าง คือ อุตสาหกรรม Hard Disk Drive (HDD) ที่เรามีความเชี่ยวชาญในการผลิตมากๆ จนเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ของไทย มาตั้งแต่ปี 2004 และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีเอง แต่เราก็มี supply chain และความเชี่ยวชาญในการผลิต จนมาสามรถดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติมได้
ซึ่งหากจำกันได้ ตอนที่ไทยเจอน้ำท่วมในปี 2011 จนไม่สามารถส่งออก HDD ไม่ได้ ตอนนั้นเกิดผลกระทบไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่ง Apple ที่โดนกระทบจนไม่สามารถส่งมอบคอมพิวเตอร์ได้
แต่เมื่อเทคโนโลยีเริ่มเปลี่ยนแปลง และ Solid State Drive (SSD) เริ่มก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ที่ถึงแม้ SSD จะมีราคาแพงกว่า HDD พอสมควร แต่คอมพิวเตอร์ทั่วโลกหรือแม้กระทั่ง notebook กลับเริ่มทยอยเลิกใช้งาน HDD มากขึ้น เพราะ HDD มีส่วนประกอบที่ขยับได้ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเสียหาย หากเราทำตกหรือเขย่าแรงๆ รวมถึงในเรื่องของความเร็วและความปลอดภัยที่สู้ SSD ไม่ได้
แต่ที่ผ่านมา HDD ยังมีตลาดสำคัญรองรับอย่าง data center และบริการ cloud services ต่างๆ ที่ต้องการความจุสูงๆ เพราะปัจจุบันต้นทุนยังถูกกว่า
เมื่อความต้องการใช้และการผลิตทั่วโลกเริ่มลดลง แต่ผู้ผลิตกลับย้ายฐานการผลิตจากมาเลเซีย จีน มารวมกันอยู่ที่เมืองไทย ทำให้การผลิต HDD ในเมืองไทยน่าจะมีมากกว่า 50% ของกำลังการผลิตทั่วโลก และยังเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ถึงขนาดที่บางปี มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 5 ของการส่งออกรวมของไทยทั้งหมด
แต่ในปีที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เมื่อยอดการผลิตและการส่งออก HDD ของไทยเริ่มลดลงไปกว่าครึ่ง ภายในเวลาไม่ถึงปี รวมถึงปริมาณการผลิตที่เหลือไม่ถึงครึ่งของกำลังการผลิตของไทย โดยสาเหตุส่วนหนึ่งอาจมาจากการย้ายฐานการผลิตไปอินเดียบางส่วน
1
แต่ทั้งนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความต้องการ HDD มีแต่จะลดลง
เมื่อต้นทุนของ SSD กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว และน่าจะมาใกล้เคียงกับ HDD ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า (ไหนทุกวันนี้ใครประกอบคอมแล้วยังใช้ HDD อยู่ไหมครับ?) และในไม่ช้า data center ก็คงทยอยเปลี่ยนไปใช้ SSD ในขณะที่ปัจจุบันไทยยังไม่ได้เป็นผู้ผลิต SSD อย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะกำลังการผลิตส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงค์โปร์
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ในภาวะที่เรายังขยับไปเทคโนโลยีใหม่ไม่ทัน อาจจะทำให้เราเสียสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของเราไปแบบกู่ไม่กลับ
และถึงแม้ว่าเราจะเป็นแค่ประเทศรับจ้างผลิต แต่ถ้าเรายังไม่สามารถดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ และพิสูจน์ว่าเราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการผลิตในสินค้าที่ทั่วโลกยังขยายตัวได้ จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเรามีปัญหาอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ภาวะกลับตัวก็ไม่ได้ ให้ไปต่อก็ไม่ไหว กำลังเป็นปัญหากับสินค้าอื่นๆ ของไทยด้วย เราเห็นแล้วว่ากระแส EV ก็จะเป็นปัญหากับอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย ที่เราเป็นฐานการผลิตสำคัญอันดับ 11 ของโลก แต่กำลังเจอภาวะการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่จะทำให้มูลค่าเพิ่มที่เราเคยทำให้กับการผลิตไม่มีค่า เมื่อชิ้นส่วนลดจำนวนไปอย่างมาก และส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่เราไม่มีความสามารถที่จะแข่งกับเขาได้
หรือแม้แต่ภาคเกษตรที่ผลผลิตต่อไร่ของเราก็ลดลงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง
นี่คือโจทย์ใหญ่สำหรับเรา เรากำลังเจอการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ เจอความท้าทายเรื่องความสามารถในการแข่งขัน คำถามสำคัญคือเรากำลังเตรียมพร้อม และปรับตัวไปกับโลกที่หมุนไปเรื่อยๆอย่างไร เมื่อในประเทศเราเองก็เจอความท้าทายไม่น้อยไปกว่ากัน ทั้งโครงสร้างประชากร คุณภาพแรงงาน และการลงทุนที่หายไป
ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ!? ที่เราต้องมาช่วยกันหาคำตอบว่าเราจะปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างไร!? เพื่อยกระดับศักยภาพของเรา และทำให้เศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจแห่งโอกาสอีกครั้งนึง
โฆษณา