15 ก.พ. เวลา 01:00 • สิ่งแวดล้อม

กรีนแลนด์ กำลังเป็นสีเขียว ความเปลี่ยนแปลงจากโลกเดือดที่จะกระทบไปทั่วโลก

กรีนแลนด์ ดินแดนทางเหนือสุดของโลก เกาะใหญ่กลางมหาสมุทรอาร์กติกถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา หาได้ ‘เขียว’ ดังชื่อเรียกไม่
แต่หากย้อนเรื่องกลับไปในอดีต แดนดินเหนือสุดของโลกก็เคยเขียวมาก่อนจริงๆ
หลักฐานนั้นกล่าวถึงนักสำรวจชาวนอร์ส (ไวกิ้ง) ได้เดินทางมาพบและขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ ในปี ค.ศ. 982
ยามนั้นสภาพดินฟ้าอากาศยังเหมาะสมต่อการเกษตรและเลี้ยงปศุสัตว์ เกาะใหม่ที่ถูกพบจึงถูกขนานนามว่า ‘กรีนแลนด์’ เพื่อดึงดูดผู้คนให้มาตั้งถิ่นฐานในดินแดนใหม่
เรื่องนี้สอดคล้องกับข้อมูลจากการตรวจสอบแกนน้ำแข็ง ที่พบว่าช่วงปี 800 - 1,300 ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์มีอากาศอุ่นกว่าในปัจจุบัน
หรือหากย้อนเวลาไปอีกล้านปี นักวิทยาศาสตร์ก็มีสมมติฐานว่า กรีนแลนด์อาจเป็นดินแดนที่เขียวชอุ่มสมชื่อจริงๆ
ซึ่งแนวคิดนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการสกัดดีเอ็นเอของช้างมาสโตดอน สัตว์โบราณที่มักพบในเขตอบอุ่นทางอเมริกาเหนือ ได้ในกรีนแลนด์ ซึ่งอาจหมายความว่า กรีนแลนด์เคยมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากที่เรารู้จักเป็นอย่างมาก
ภาพจิตนาการกรีนแลนด์ในยุคล้านปีก่อนที่อาจเป็นดินแดนเขียวชอุ่ม
แม้ช่วงเวลาหนึ่งชาวนอร์สจะอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ทำการเกษตร และค้างาของวอลรัส แต่สุดท้ายก็ล่าถอยไปเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงจนทำเกษตรกรรมไม่ได้อีกต่อไป
2
หลงเหลือแต่ชนพื้นเมือง ชาวอินูอิต (Inuit) ที่ดำรงชีพด้วยการล่าสัตว์ยังชีพเป็นหลัก
แต่หลังจากนี้ ใครจะไปรู้ การดำรงชีวิตของคนในกรีนแลนด์อาจต้องหันมาพึ่งพาการทำเกษตรเหมือนชาวนอร์สในอดีตก็เป็นได้
เพราะวันนี้ ปัญหาโลกเดือดกำลังเล่นงานดินแดนเหนือสุดของโลกอย่างรุนแรง
การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ตอนนี้กรีนแลนด์มีอุณหภูมิร้อนที่สุดในรอบ 1,000 ปี ในฤดูร้อนมีอุณหภูมิเพิ่มสูงกว่าปกติถึง 10 องศา
1
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า ธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายเร็วกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วมากถึง 5 เท่า
สิ่งนี้ถือเป็นเครื่องบ่งชี้ชัดเจนที่สุดถึงการมีอยู่ของภาวะโลกร้อนที่กำลังเดือด จนทำให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว
และจะนำมาซึ่งการปรับโฉมภูมิทัศน์ดินแดนแห่งนี้เสียใหม่
ตามข้อมูลการศึกษาเรื่องการละลายของน้ำแข็งพบว่า พื้นที่เกาะกรีนแลนด์สูญเสียน้ำแข็งไปถึง 28,707 ตารางกิโลเมตร ระหว่างทศวรรษ 1980-2010
2
ซึ่งการสูญเสียหิมะและน้ำแข็งไป ก่อให้เกิดการเติบโตของพืชพรรณ และการเพิ่มขึ้นของพื้นที่สีเขียวจะทำให้พื้นที่แถบนั้นเก็บความร้อนได้มากขึ้น จนไปกระทบต่อแผ่นน้ำแข็งที่เหลืออยู่อีกทอด
4
เพราะปกติหิมะและน้ำแข็งจะสะท้อนพลังงานของดวงอาทิตย์กลับไปสู่อวกาศ แต่พอไม่มีสิ่งใดมาช่วยสะท้อน พื้นที่เหล่านั้นก็จะดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นแทน
1
เรื่องที่น่ากังวลมากๆ คือ เมื่อความร้อนเพิ่มมากขึ้นอาจไปละลายน้ำแข็งของชั้นเพอร์มาฟรอสต์ (Permafrost) ซึ่งเป็นชั้นน้ำแข็งใต้พื้นผิวโลก ที่แช่แข็งก๊าซคาร์บอนฯ และมีเทนเอาไว้มากมายมหาศาล
3
และเมื่อมันละลาย ก๊าซคาร์บอนฯ และมีเทน ก็ถูกปล่อยออกมาทำร้ายโลกซ้ำเข้าไปอีกชั้น และอาจนำพาเราไปสู่จุดที่ไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
1
ขณะเดียวกัน เมื่อชั้นน้ำแข็งใต้ผิวโลกที่เคยอยู่อย่างมั่นคงละลายลง ก็ยังมีผลต่อความมั่นคงของพื้นดิน ที่จะไปกระทบต่อโครงสร้างอาคาร และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ
1
นอกจากนี้ การละลายของน้ำแข็งจำนวนมาก ยังนำมาสู่การเกิดพื้นที่ชุ่มน้ำ ทะเลสาบ และมีโอกาสที่พื้นที่เหล่านั้นจะปล่อยก๊าซมีเทนตามมาอีกมาก
และความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ก็จะส่งผลถึงต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและสัตว์ป่า
มันไม่ใช่เรื่องแค่ว่า เมื่ออากาศอุ่นขึ้น พืชสีเขียวเยอะขึ้น แล้วจะอยู่ง่ายสบายกว่า แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
ไหนเลยจะเรื่องของคนที่อยู่ห่างออกไป ต้องเจอกับสภาวะน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2000 - 2019 ผลจากการตรวจสอบข้อมูลจากดาวเทียมและธรณีฟิสิกส์น้ำแข็ง ทำให้พบความไม่สมดุลของแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์
ซึ่ง 3.3 เปอร์เซ็นต์ ของแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์จะละลายภายในสิ้นศตวรรษนี้ หรือในปี 2100
และมันจะละลายอย่างแน่นอนโดยไม่สนว่า มนุษยชาติจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้หรือไม่
2
ผลที่ตามมาจะทำให้ระดับน้ำทะเลของโลกเพิ่มสูงขึ้น 27 เซนติเมตร หรือประมาณ 10 นิ้ว มากกว่าจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2 - 5 นิ้ว ภายในปี 2100
โดยพื้นที่ชายฝั่งของหลายประเทศจะถูกน้ำท่วม คาดกระทบอย่างน้อย 25 เมืองใหญ่ และพื้นที่ต่ำที่มีคนอยู่อาศัยกว่า 1,300 ล้านคน จะจมอยู่ใต้น้ำ
เหล่านี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
อ้างอิง
“กรีนแลนด์” ไม่ค่อยเขียว “ไอซ์แลนด์” ไม่เย็นสมใจ เปิดที่มาชื่อดินแดนแสนสับสน https://shorturl.asia/CWxel
Land cover changes across Greenland dominated by a doubling of vegetation in three decades https://shorturl.asia/Vhz9O
Greenland is getting greener. That could have huge consequences for the world https://shorturl.asia/Q6zrM
Oldest DNA on record - 2 million years - reveals Greenland's lost world https://shorturl.asia/48og3
Greenland temperatures hottest in 1,000 years: Study https://shorturl.asia/WFmTd
Greenland already locked in to huge sea level rise: Study https://shorturl.asia/2pCdW
โฆษณา