15 ก.พ. เวลา 14:33 • การศึกษา

กวีของหันอวี้ (韓愈) ที่เขียนถึงหลานรัก หันเซียงจื่อ (韓湘子)

หันอวี้เป็นปราชญ์ที่ถือหลักคำสอนของขงจื่ออย่างมั่นคง จึงมีอคติต่อพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ครั้นได้เห็นหันเซียงจื่อไม่เอาใจใส่ในตำรับตำรา หากแต่มุ่งปฏิบัติธรรมตามหลักพุทธและเต๋าเสียถ่ายเดียว ท่านจึงมักจะตำหนิหันเซียงจื่ออยู่เสมอ โดยหารู้ไม่ว่า หลานที่ตนกำลังตำหนิอยู่เป็นประจำคนนี้ ภายหลังได้บรรลุสู่ความเป็นอมตะ และเป็นหนึ่งในคณะแปดเซียนที่ผู้คนกราบไหว้นับถือ
สมัยหนึ่ง ฮ่องเต้ถังเซี่ยนจง (唐憲宗) ทรงประกอบพิธีอัญเชิญพระสารีริกธาตุส่วนข้อนิ้วจากวัดฝ่าเหมิน (法門寺) เข้าสู่วังหลวง ซึ่งวัดฝ่าเหมินจะเปิดที่เก็บพระธาตุทุกสามสิบปีเท่านั้น ดังนั้นพิธีอัญเชิญพระสารีริกธาตุในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างที่สุด แต่หันอวี้กลับเขียนฎีกาถวายคำคัดค้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง กระทั่งมีฎีกาบางส่วนที่เขียนไว้อย่างแข็งกร้าวเช่นนี้ว่า
"หากว่าพระพุทธะยังทรงพระชนม์ แลได้รับพระบัญชาให้เข้าเฝ้ายังวังหลวง ซึ่งฝ่าพระบาททรงอนุญาตให้เข้าเฝ้าแล้ว ก็เพียงให้เฝ้าที่วังประศาสนะ ประทานหนึ่งงานเลี้ยงต้อนรับอาคันตุกะ และประสาทหนึ่งชุดพัสตราอาภรณ์ให้ จากนั้นก็ให้ราชองครักษ์พิทักษ์พระพุทธะออกนอกเขตขัณฑสีมา เพื่อจะได้มิเกิดการมอมเมาประชาชน จึงมิไยต้องกล่าวถึงกายที่ได้ดับขันธ์ไปช้านานแล้วเลย กระดูกที่ผุพัง สิ่งหลงเหลืออันอัปมงคล ไยจึงปล่อยให้เข้าวังหลวงได้"
假如其身至今尚在,奉其國命,來朝京師,陛下容而接之,不過宣政一見,禮賓一設,賜衣一襲,衛而出之於境,不令惑眾也。 況其身死已久,枯朽之骨,兇穢之餕,豈宜令入宮禁?
ฎีกาฉบับนี้ จึงทำให้ถังเซี่ยนจงกริ้วอย่างที่สุด จึงมีพระราชโองการปลดหันอวี้ออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งเนรเทศไปกวางตุ้งโดยมิรอช้า
ระหว่างทางได้เกิดพายุหิมะอย่างรุนแรง จนทำให้บุตรของหันอวี้หนาวตายไปหนึ่งคน
ในขณะที่หันอวี้กำลังผจญหิมะและใกล้จะวายปราณอยู่นั้น พลันได้เห็นหันเซียงจื่อมาหา จึงได้เขียนกลอนไว้ดังนี้ว่า
一封朝奏九重天,夕貶潮陽路八千;
願為聖明除弊事,肯將衰朽惜殘年!
雲橫秦嶺家何在?雪擁藍關馬不前;
知汝此來應有意,好收吾骨瘴江邊。
เช้าทูลฎีกาองค์ราชัน
เย็นปลดแต้จิ๋วไกลแปดพัน
ถวายตัวขจัดพาลภูบาลท่าน
ไยสงวนสังขารหวงชีวัน
เมฆปรกภูผาคนไกลบ้าน
หิมะพัดหลันกวนม้าคร้ามครั่น
เจ้ามาครานี้คงหมายมั่น
ได้ช่วยเก็บอัฐิริมมหรรณพ์
สุดท้ายหันอวี้ก็รอดตายจากพายุหิมะในครั้งนั้น ด้วยอำนาจฤทธานุภาพของหันเซียงจื่อ ที่ครั้งหนึ่งได้เคยแสดงความรู้สึกเดียดฉันท์อย่างรุนแรง
โฆษณา