16 ก.พ. เวลา 04:06 • การตลาด

แจกฟรี! ไกด์การทำการตลาดบน TikTok ในปี 2024

แบรนด์ส่วนใหญ่ใช้ TikTok เพื่อโปรโมตแบรนด์ สินค้า หรือบริการ รวมถึงการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ ในการโฆษณา หรือสร้างคอนเทนต์ออร์แกนิกที่แมสจนเป็นไวรัล
โฆษณา TikTok มีศักยภาพในการเข้าถึงผู้ใช้กว่า 945 ล้านคน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และโดยทั่วไปแล้ว TikTok นับว่าเป็นหนึ่งในช่องทางโซเชียลมีเดียที่ดีที่สุด สำหรับธุรกิจที่จะเข้าถึงกลุ่มมิลเลนเนียลและ Gen Z แต่การตลาดบน TikTok ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับแบรนด์ และแต่ละอุตสาหกรรม บทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก และแนะนำกลยุทธ์ในการทำการตลาดบน TikTok ในปี 2024 กันค่ะ
การตลาดบน TikTok ช่วยธุรกิจ หรือแบรนด์ได้ยังไงบ้าง?
1. เพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand awareness) ให้คนรู้จักมากขึ้น:
TikTok เปรียบเสมือนเวทีขนาดใหญ่ ที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณเปล่งประกาย โปรโมทสินค้าและบริการเข้าถึงผู้คนนับล้าน ด้วยรูปแบบวิดีโอสั้น สนุกสนาน น่าสนใจ ดึงดูดความสนใจผู้ชม เพิ่มโอกาสให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และจดจำ
2. สร้าง Community ที่เหนียวแน่น เชื่อมโยงกับลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี:
สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และความผูกพันผ่านการตอบคอมเมนต์ ไลฟ์สด หรือแชร์เรื่องราวต่าง ๆ กระตุ้นให้เกิดการพูดถึง แบ่งปัน และสร้าง Community ที่เหนียวแน่น และเปลี่ยนผู้ติดตามธรรมดาให้กลายเป็นแฟนตัวยง หรือลูกค้าได้
3. เพิ่มยอดขาย กระตุ้นให้คนซื้อสินค้าหรือใช้บริการ:
TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มสำหรับสร้างความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางที่ทรงพลังในการกระตุ้นยอดขาย เราสามารถใช้ TikTok โปรโมตสินค้า บริการ รีวิวสินค้า หรือแชร์โปรโมชันต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ
4. ได้ฟีดแบค รู้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากลูกค้า และผู้ติดตาม:
TikTok ช่วยให้เราเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ผ่านคอมเมนต์ ข้อความ หรือแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ ช่วยให้รับรู้ถึงความต้องการของลูกค้า นำไปปรับปรุงสินค้า บริการ และพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงใจลูกค้า
5. ให้บริการลูกค้าได้รวดเร็ว ทันใจ:
ช่วยให้เราสามารถตอบคำถาม แก้ปัญหา หรือให้บริการลูกค้าได้รวดเร็ว ทันใจ ผ่านวิดีโอสั้น อธิบายวิธีการใช้งาน แสดงตัวอย่าง หรือแชร์คำแนะนำต่างๆ ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี
6. ยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย:
TikTok มีระบบการโฆษณาที่ชาญฉลาด ช่วยให้เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เลือกเพศ อายุ ความสนใจ พฤติกรรม และอื่น ๆ ช่วยให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ เพิ่มโอกาสในการขาย
การทำ Affiliate Marketing บน TikTok
แม้โลกของ TikTok influencer Marketing จะดุเดือด แต่ Affiliate Marketing ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์ม TikTok เอง ในยุคที่ TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม ผู้คนใช้เวลากับแอปนี้มากขึ้น เหล่านักการตลาดจึงหันมาใช้ประโยชน์จาก TikTok ในการทำ Affiliate Marketing กลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์และครีเอเตอร์ร่วมมือกันสร้างรายได้แบบ Win-Win
Affiliate Marketing บน TikTok มีข้อดีอะไร?
Affiliate marketing บน TikTok จะช่วยเชื่อมต่อแบรนด์กับครีเอเตอร์ และติดตามยอดขายให้ด้วย แถมแพลตฟอร์มยังจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ครีเอเตอร์แทนแบรนด์อีกต่างหาก ซึ่งเป็นอะไรที่สะดวกสุด ๆ
ทำไม Affiliate Marketing บน TikTok ถึงน่าสนใจ?
1. เป็นกลยุทธ์ทางการที่ TikTok สนับสนุน: ต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ Affiliate Marketing เกิดขึ้นเองบน TikTok แพลตฟอร์มมีระบบรองรับอย่างเป็นทางการ ช่วยให้สะดวกและปลอดภัยทั้งสำหรับแบรนด์และครีเอเตอร์
2. เชื่อมต่อแบรนด์กับครีเอเตอร์ที่ตรงใจ: TikTok มีระบบจับคู่ครีเอเตอร์กับแบรนด์ที่เหมาะสม ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
3. ติดตามผลลัพธ์ได้ง่าย: แพลตฟอร์มมีระบบติดตามยอดขายและจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ครีเอเตอร์โดยอัตโนมัติ แบรนด์สามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้แบบเรียลไทม์
4. สะดวกสำหรับครีเอเตอร์: ครีเอเตอร์สามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมและเลือกรับสินค้าที่สนใจมาโปรโมทได้ง่าย โดยไม่ต้องติดต่อแบรนด์เอง
ซึ่ง TikTok เสนอตัวเลือกในการทำ Affiliate marketing 3 แบบ ได้แก่:
1. The Shop Plan: แผนง่าย ๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ ตั้งอัตราค่าคอมมิชชั่นเดียวสำหรับทุกสินค้า เช่น ครีเอเตอร์ได้คอมมิชชั่น 5% จากยอดขายทุกชิ้น
2. The Open Plan: แผนเปิดกว้าง เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการกระจายการโปรโมต ครีเอเตอร์ทุกคนสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมและเลือกรับสินค้าไปโปรโมตได้ โดยแบรนด์สามารถตั้งอัตราค่าคอมมิชชั่นแยกตามสินค้า
3. The Targeted Plan: แผนเฉพาะเจาะจง เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ แบรนด์สามารถเลือกเชิญครีเอเตอร์เฉพาะคนมาโปรโมทสินค้าเฉพาะชิ้นได้
สุดท้ายนี้เราจะมาแชร์ 11 เคล็ดลับการสร้างกลยุทธ์การตลาดบน TikTok กันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง?
1. ทำความรู้จักกับแพลตฟอร์ม:
ใช้เวลาดูวิดีโอ TikTok เพื่อทำความเข้าใจแพลตฟอร์ม แน่นอนว่าเราจะสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดผู้ชมไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้ว่าคนชอบดูอะไร หรือคอนเทนต์แบบไหนที่ดึงดูด แนะนำให้สำรวจฟีเจอร์ต่าง ๆ ในแอป TikTok และสังเกตว่ามีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้าง เช่น Challenge campaign, สไตล์การตัดต่อ เสียงประกอบที่กำลังฮิต ต่อไปคือ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัลกอริทึมของ TikTok การเข้าใจวิธีที่ TikTok จัดอันดับและแสดงวิดีโอในแท็บ For You จะช่วยให้เราวางแผนคอนเทนต์ แฮชแท็ก และกลยุทธ์การมีส่วนร่วมได้ดี
2. วิจัยกลุ่มเป้าหมาย:
ใครคือกลุ่มเป้าหมายของเรา พวกเขาอยู่บน TikTok หรือเปล่า? ก่อนเริ่มสร้างคอนเทนต์ ควรศึกษาข้อมูลประชากรของผู้ใช้ TikTok และระบุกลุ่มคนที่อาจสนใจติดตามเรา
TikTok มีชื่อเสียงในด้านความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น แต่สถิติผู้ใช้ของแพลตฟอร์มพบว่าประมาณ 32% ของผู้ใช้งานทั่วโลกของ TikTok อยู่ในช่วงอายุ 25-34 ปี และเมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่คาดหวังได้แล้ว ให้วิจัยว่าพวกเขาชอบ และมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ประเภทไหน จากนั้นเริ่มคิดหาไอเดียคอนเทนต์สำหรับแบรนด์ของเราต่อเลย
3. วิเคราะห์คู่แข่ง:
ตรวจสอบว่าคู่แข่งของเราอยู่บน TikTok หรือไม่ ถ้าอยู่ เราอาจพลาดโอกาสสำคัญ แต่ถ้าไม่อยู่ TikTok อาจเป็นวิธีที่จะสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้ แต่ไม่ว่าคู่แข่งของเราจะอยู่บนแพลตฟอร์มหรือไม่ ให้ค้นหาแบรนด์ หรือธุรกิจที่คล้ายคลึงกันอย่างน้อย 3-5 แบรนด์ และดูว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ ใช้กรอบ S.W.O.T. เพื่อระบุจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของคู่แข่ง
4. ตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ:
เราสามารถสร้าง TikTok เพื่อความสนุกสนานเฉย ๆ ก็ได้ แต่การมีเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจโดยรวมนั้นดีกว่า
ไม่ว่าเราวางแผนที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์ สร้างการรับรู้ให้กับสินค้า บริการ หรือพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แข็งแกร่งขึ้นผ่านการมีส่วนร่วม สิ่งสำคัญคือต้องมีเหตุผลสนับสนุนความพยายามนั้น ๆ เสมอ โดยใช้กรอบเป้าหมาย S.M.A.R.T. เพื่อตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (Specific) วัดผลได้ (Measurable) บรรลุได้ (Attainable) มีความเกี่ยวข้อง (Relevant) และตรงเวลา (Timely)
5. โพสต์อย่างสม่ำเสมอ:
คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณเสมอ แต่ทว่า…บน TikTok ปริมาณก็สำคัญเช่นกัน TikTok แนะนำให้โพสต์ 1 ถึง 4 ครั้งต่อวัน โอ้ววว…!! หนักใจใช่ไหมล่ะคะ แต่บางทีคำแนะนำของ TikTok ก็ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เราอาจจะเริ่มต้นด้วยการโพสต์วิดีโอ 3 ถึง 5 วิดีโอต่อสัปดาห์ก่อนก็ได้ และการทำ Calendar plan ก็สมารถช่วยให้จัดการการโพสต์ได้ง่ายขึ้น
6. กำหนดเวลาโพสต์เพื่อเพิ่มยอดวิว:
อัลกอริทึมของ TikTok ให้ความสำคัญกับเนื้อหาใหม่ ดังนั้นจึงควรโพสต์ TikTok เมื่อผู้ชมส่วนใหญ่ใช้งานแอป ช่วงเวลาทองนี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละอุตสาหกรรม จากการทดลองของ Hootsuite เวลาที่ดีที่สุดโดยรวมในการโพสต์ คือ วันพฤหัสบดี เวลา 19:00 น. แต่ก็ไม่ต้องยึดติดว่าต้องโพสต์เวลานี้เท่านั้น สามารถทำแบบของตัวเองได้เลย โดยดูจาก Insight หลังบ้านเพิ่มเติมว่าคนดูเข้ามาดูคอนเทนต์ของเราในช่วงเวลาไหนมากที่สุด
7. ใส่ใจกับข้อมูล Analytics:
ข้อมูล Analytics ไม่เพียงแค่เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการตลาดบน TikTok แต่ยังเป็นวิธีง่าย ๆ ในการประเมินว่ากลยุทธ์ที่เราใช้ได้ผลหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละครั้ง และดูว่าเราบรรลุเป้าหมายหรือไม่
8. สร้างพื้นที่สำหรับการทดลอง:
ไม่มีสูตรสำเร็จที่จะทำให้เราแมส หรือไวรัลบน TikTok การเว้นพื้นที่ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์บน TikTok อย่างสนุกสนาน ไปตามกระแส และไม่จริงจังกับตัวเองมากเกินไปอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดก็ได้ ถ้าอะไรล้มเหลว ให้เรียนรู้จากมัน และก้าวต่อไปในการทดลองครั้งต่อไป
9. มีส่วนร่วมกับชุมชน TikTok:
TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ดังนั้นจึงต้องมีการโต้ตอบ ตอบกลับความคิดเห็น แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอของผู้อื่น และเข้าร่วมการสนทนา แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จบน TikTok ต้องมีส่วนร่วมอย่างจริงใจกับผู้ชม
10. ใจเย็น ๆ:
การสร้างฐานผู้ติดตามบน TikTok นั้นต้องใช้เวลา โพสต์อย่างสม่ำเสมอ คิดสร้างสรรค์ และอดทน จำไว้ว่าแม้แต่ครีเอเตอร์ TikTok ที่โด่งดังที่สุดก็เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ
11. สนุกกับมัน!
TikTok ควรเป็นสถานที่ที่สนุกสนาน และสร้างสรรค์ ปล่อยตัวตนออกมา และสนุกกับกระบวนการสร้างคอนเทนต์
นี่คือเคล็ดลับทั้งหมดที่เราอยากจะแนะนำค่ะ และด้วยกลยุทธ์ที่ solid ความทุ่มเทที่มากพอ เราจะสามารถใช้ประโยชน์จาก TikTok ในการเข้าถึงผู้ชมใหม่ ขยายธุรกิจ และสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้แน่นอน ลุยกันเลยค่า!
ขอบคุณข้อมูลจาก: hootsuite
โฆษณา