24 ก.พ. เวลา 00:00 • หนังสือ

บทความ Blockdit ตอน กอดต้นตะบองเพชร

ในปี 1990 นักแสดงหนุ่มสองคนเล่นหนังด้วยกันในเรื่อง Air America ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนรักตลอดชีวิต
4
คนหนึ่งคือ เมล กิบสัน อีกคนคือ รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ ทั้งสองเป็นนักแสดงระดับดารา มีชื่อเสียง เงินทอง แต่เช่นเดียวกับนักแสดงจำนวนมากที่จัดการชีวิตและชื่อเสียงไม่เป็น ทั้งสองก็ฆ่าอาชีพของตนเอง
รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ ติดยา เขาถูกจับในเดือนเมษายน ปี 1996 ครอบครองเฮโรอีน โคเคน และปืนพก
เขาต้องคดียาเสพติดและพฤติกรรมก้าวร้าวหลายครั้ง จนคนรอบตัวไม่อยากพบหน้า เขากลายเป็น ‘แบด บอย’ โดยการเลือกของตัวเอง
ในที่สุดก็ไม่มีสตูดิโอไหนยอมจ้างเขา ฮอลลีวูดบอกว่า พอกันทีสำหรับนักแสดงคนนี้
1
ดาวนีย์บอกศาลในปี 1999 ว่า “มันเหมือนผมอมปืนไว้ นิ้วมือแตะไก และผมชอบรสของกระบอกปืน!”
เขาหมดอนาคตนักแสดงแล้ว แต่เพื่อนของเขาไม่เคยหมดหวังกับเขา
1
เมล กิบสัน กับ รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ ใน Air America
ในห้วงยามตกต่ำไม่มีงาน ไม่มีกิน เมล กิบสัน ช่วยเพื่อนทุกอย่าง ให้ที่พักพิง ให้อาหาร แต่ส่วนที่ดีที่สุดคือ ชี้ทางสว่างให้เพื่อนบอกให้เพื่อนรู้จักคิด
กิบสันบอกเพื่อนว่า “ถ้าคุณยอมรับความรับผิดชอบต่อเรื่องแย่ๆ ที่คุณทําถ้าคุณโอบกอดอีกด้านที่น่าเกลียดของคุณ กอดต้นตะบองเพชร ถ้าคุณกอดต้นตะบองเพชรนานพอ คุณจะกลายเป็นคนที่ถ่อมตน และชีวิตคุณจะเข้าสู่ความหมายใหม่”
3
ต้นตะบองเพชรเป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปวด ความทรมานความทุกข์ ที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะหนี แต่หากเราไม่หนี ยอมรับมันและเข้าใจมัน ก็จะมองโลกในอีกมุมหนึ่ง และมันจะเปลี่ยนชีวิต
รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ ได้สติ กอด ‘ต้นตะบองเพชร’ แล้วลุกขึ้นมาใหม่
แต่การคืนสู่วงการไม่ง่าย ต้องพิสูจน์หลายด่าน และอีกครั้งเพื่อนก็ยื่นมือเข้ามาช่วย
เมื่อ เมล กิบสัน ได้รับข้อเสนอให้เล่นหนังเรื่องหนึ่ง เขากลับมอบมันให้เพื่อน ยอมสละบทนั้นให้เพื่อน
แต่บริษัทสร้างหนังไม่แน่ใจ ต้องการให้เขาวางมัดจํากลัวว่าดาวนีย์จะทําโครงการล้ม
กิบสันจึงควักเงินจ่าย เพื่อค้ำประกันว่าเพื่อน ผลก็คือหนังเรื่อง The Singing Detective ในปี 2003
1
รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ ได้รับโอกาสที่สอง กลับมาทํางานอีกครั้ง
ช่วงที่เขากลับคืนมานั้น คนสร้างหนังจะกัก 40 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนของเขาไว้ จ่ายที่เหลือต่อเมื่อปิดกล้อง
มันเป็นราคาของ ‘ต้นตะบองเพชร’ ที่เขาสร้างขึ้นมาหลังจากหนังเรื่องนั้น เขาก็ได้รับโอกาสแสดงหนังเรื่อง Gothika
ซึ่งเป็นหนังทำเงิน ทำให้เขาหวนกลับมา แล้วนำไปสู่หนังเรื่องอื่นๆ จนก้าวขึ้นมาอีกครั้งอย่างฉุดไม่อยู่ด้วย Iron Man (2008) หนังเรื่องนี้เกิดจากการผลักดันของคนหลายคน ที่มองข้ามจุดอ่อนเรื่องการใช้ชีวิตของเขา และยอมให้โอกาสที่สองแก่เขา
4
หนึ่งในนั้นคือ เดวิด มายเซล
ฮอลลีวูดเต็มไปด้วยคนที่แสวงหาชื่อเสียง แต่ก็มีคนที่ปิดทองหลังพระ
เดวิด มายเซล เป็นหัวใจของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (Mar-vel Cinematic Universe - MCU) แต่ไม่มีค่อยคนรู้จักชื่อนี้ ทั้งที่ถ้าไม่มีมายเซล ก็ไม่มี MCU
2
ในปี 2003 มายเซลเกิดความคิดว่า เขาควรทดลองสร้างหนังเรื่องหนึ่งที่สามารถต่อยอดให้เกิดหนังเรื่องอื่นๆ ต่อไปไม่รู้จบ เรียกมันว่า จักรวาลภาพยนตร์
1
ไอเดียนี้วางรากฐานของ MCU พวกเขาสร้างเรื่องแรกคือ Iron Man เพราะเป็นตัวละครที่หลังจากพวกเขาสัมภาษณ์เด็กๆ แล้วพบว่าเด็กๆ ชอบ Iron Man ที่สุด
3
Iron Man
Jon Favreau ถูกชวนมาทําหนังเรื่องนี้ และจอนขอเลือก รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ มาแสดงเป็นตัวนำ
แต่คณะกรรมการบริหารมาร์เวลไม่แน่ใจในตัว รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ สักนิด เพราะภาพลักษณ์ของเขาเสียหาย พวกเขาอยากได้คนอื่นมากกว่า
แต่มายเซลบอกบอร์ดว่า รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ ‘สะอาด’ แล้ว ให้โอกาสเขาอีกครั้ง
2
บอร์ดจำใจยอม และมันก็เป็น... ดังคำของ คริสโตเฟอร์ โนแลน “การตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด”
เสน่ห์ของดาวนีย์มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ Iron Man ประสบความสำเร็จ หนังเรื่องนี้ทำให้จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลได้เกิด และหากไม่มีเพื่อนแท้เช่น เมล กิบสัน เขาก็ไม่มีโอกาสที่สองนี้ เขาไม่เคยลืมบุญคุณเพื่อนเลย
ชีวิตคนเป็นเรื่องประหลาด วันหนึ่ง เมล กิบสัน ก็พบตนเองในสภาพตกต่ำ เช่นเดียวกัน
กิบสันเป็นคนมีฝีมือ ทั้งการแสดงและการกำกับหนัง เขาฝากฝีมือไว้ใน Braveheart (1995) ที่ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
1
แต่เขาก็มีด้านลบ
กิบสันเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่อายุสิบสาม บางครั้งดื่มเบียร์เป็นอาหารเช้า มีเรื่องเมาแล้วขับหลายครั้ง มีปัญหาภายใน จนบางครั้งก็ต้องพึ่งจิตแพทย์
หนังเรื่อง The Passion of the Christ (2004) ทำให้เขาโดนพวกยิวว่าเขาต้านยิว
ในปี 2006 เขาเมาแล้วขับ ด่าพวกยิวจนเป็นข่าว
ในเดือนกรกฎาคม ปี 2010 เทปเสียงกิบสันด่าเมียแพร่ในอินเทอร์เน็ต เขาด่าภรรยา Oksana Grigorieva ด้วยคำเหยียดผิว เธอให้การว่าเขาตบตีเธอ วันนั้นเอเยนต์ของ กิบสันก็บอกเลิกเขา
3
นอกจากนี้ก็ยังด่าคนผิวดำและพวกโฮโมเซ็กซวล จนถูกสมาคม The Gay & Lesbian Alliance Against Defamation ต่อต้าน เขาสารภาพภายหลังว่า เขาหลุดปากไปเพราะเมา
ผลของปากพาจน ทำให้งานของเขาลดลง ความนิยมเสื่อมถอย แม้เป็นนักแสดงและผู้กำกับมือดี ผลก็คือฮอลลีวูดเลิกจ้าง เมลกิบสัน ไปอีกคน
3
ปี 2011 รอเบิร์ต ดาว์นีย์ จูเนียร์ ได้รับรางวัล 25th American Cin-ematheque Awards เขาขอให้เพื่อนรักของเขาเป็นผู้มอบรางวัล
เขากล่าวในงานรับรางวัลว่า “ผมขอให้เมลเป็นผู้มอบรางวัลให้ผมด้วยเหตุผลหนึ่ง เมื่อผมไม่สามารถเลิกยา เขาบอกผมว่าอย่าสิ้นหวัง และให้กำลังใจผมแสวงหาศรัทธาของผม มันไม่จำเป็นต้องเป็นศรัทธาของเขาหรือใครก็ตาม ตราบที่มันฝังรากบนการให้อภัย และเมื่อไม่มีใครจ้างผม เขาก็ให้ผมแสดงในบทที่พัฒนาเพื่อเขา เขามอบหลังคาคุ้มหัวและอาหารแก่ผม”
1
“ที่สำคัญที่สุดคือ เขาบอกว่าถ้าผมยอมรับความรับผิดชอบต่อเรื่องแย่ๆ ที่ผมทํา และโอบกอดอีกด้านที่น่าเกลียดของผม กอดต้นตะบองเพชร ถ้าผมกอดต้นตะบองเพชรนานพอ ผมจะกลายเป็นคนที่ถ่อมตน และชีวิตจะเข้าสู่ความหมายใหม่”
1
“ผมทำอย่างนั้น และมันได้ผล สิ่งเดียวที่เขาขอตอบแทนคือวันหนึ่งผมจะช่วยคนอื่นต่อไป เขาไม่ได้นึกฝันว่าคนต่อไปคือเขา และวันหนึ่งคือคืนนี้”
เขากล่าวว่า “ผมขอร้องอย่างถ่อมตนให้พวกคุณร่วมกับผม ยกเว้นคุณเป็นคนที่ไร้บาปโดยสิ้นเชิง ซึ่งหมายถึงคุณเลือกสายอาชีพ ผิดแล้ว ขอให้อภัยเพื่อนของผม ให้โอกาสเขาเริ่มต้นใหม่ เหมือนกับที่พวกคุณให้โอกาสผม อนุญาตให้เขาดำเนินความยิ่งใหญ่และการช่วยเพิ่มงานศิลปะในภาพรวมของเราต่อไปโดยปราศจากความละอาย เขากอดต้นตะบองเพชรนานพอแล้ว”
10
นี่คือโอกาสที่สอง คำถามคือเราเชื่อเรื่องการให้โอกาสที่สองแก่คนที่ทำผิดหรือไม่
1
ฮอลลีวูดและโลกให้อภัย เมล กิบสัน เขากลับมาแสดงอีกครั้ง ในหนังหลายเรื่อง และได้กำกับอีกครั้งใน Hacksaw Ridge (2016) หนังได้รับรางวัล
1
คนเราต้องการเพื่อนแท้สักคนเดียวก็พอแล้ว แต่ไม่ทุกคนมีเพื่อนแท้สักคนเดียว
4
บางทีมันเริ่มต้นเมื่อเรายอมยื่นมือเป็นเพื่อนแท้แก่คนอื่นก่อน
โฆษณา