26 ก.พ. เวลา 01:00 • ธุรกิจ

รู้จัก POPMART กล่องสุ่มจีนที่มียอดขายกว่า 10,000 ล้านกับการบุกตลาดไทยเป็นครั้งที่ 2

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดนักสะสม Art Toy ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะกระแส Crybaby ตุ๊กตาเด็กขี้แยที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวไทย ‘มอลลี่’ หรือ คุณมด นิสา ศรีคำดี ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งเป็นการร่วมงานกับบริษัทกล่องสุ่มยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนชื่อว่า Popmart ในเครือมากมายไม่ว่าจะเป็น SKULL PANDA MOLLY DIMOO และ Crybaby
Pop Mart เข้ามาบุกตลาดในไทยอย่างเป็นทางการโดยมาเปิด Flagshipe Store แห่งแรกในไทย ณ เซ็นทรัลเวิลด์เมื่อกันยาปีที่ผ่านมา และล่าสุดกับสาขาที่สอง ณ ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว สะท้อนให้เห็นว่าตลาดกล่องสุ่มจีนอย่าง Popmart เริ่มรุกและเติบโตอย่างต่อเนื่องในไทย
ภาพฝูงชนไปต่อแถวเข้าคิวกันอย่างล้นหลาม บ่งบอกถึงความนิยมของ Pop Mart ได้เป็นอย่างดี และเป็นที่มาของบทความในวันนี้ที่จะรู้จัก Pop Mart ให้มากขึ้น
Pop Mart ถือกำเนิดขึ้นโดยชายที่ชื่อ Wang Ning (หวัง หนิง) เขาเกิดที่มณฑลเหอหนาน จบการศึกษาด้านโฆษณาที่มหาวิทยาลัยเจิงโจวในปี 2009 เมื่อทำงานไปได้ 1 ปีเขาก็ตัดสินใจออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง แรงบันดาลใจของเขาคือการไปเที่ยวฮ่องกงและได้เห็นร้านค้าเต็มไปด้วยของอินเทรนด์นำสมัยหลายประเภท จึงคิดนำแนวคิดนี้มายังจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย
คุณ Wang ไม่รอช้าในปี 2010 เขาได้เปิดร้าน Pop Mart สาขาแรกที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี และมักถูกเรียกว่าเป็น Silicon Valley ของจีน โดยร้านค้าขายสินค้าหลายประเภทมากเกินไป และเขาต้องเผชิญกับปัญหามากมาย เช่น การจัดการสินค้า พนักงาน การบริการลูกค้าที่ยังรวดเร็วไม่พอ ซึ่งเขายังจับจุดกับธุรกิจนี้ได้ไม่ดีมากนัก
Wang จึงตัดสินใจศึกษาต่อด้านการบริหารที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเพื่อนำความรู้มาพัฒนาธุรกิจต่อไป (ซึ่งภายหลังผู้บริหารของ Pop Mart ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นจากที่นี่) จนในปี 2014 เขาตัดสินใจลดประเภทสินค้าที่หลากหลายมากเกินไปและเหลือเพียงเฉพาะ ‘ของสะสม’ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปีนั้น และลองขายในรูปแบบของ ‘กล่องสุ่ม’ หรือ Blind boxes ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็คล้ายกับตู้เล่นกาชาปองของญี่ปุ่นนั่นเอง
Wang ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ แต่เขามองหาโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับศิลปินเพื่อพัฒนาตัวสินค้า Figure ให้น่าสนใจมากขึ้นและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้พบกัน Kenny Wong ศิลปินผู้สร้างสรรค์ Molly ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตาโต หน้ากลมที่เปิดตัวในปี 2016 และได้รับความนิยมเห็นได้จากยอดขายพุ่งสูงถึง 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 700 ล้านบาท) ในปี 2017 และหลังจากนั้นเพียงแค่ปีเดียวก็พุ่งไปถึง 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2,500 ล้านบาท)
เรียกได้ว่า Molly ทำให้ Pop Mart กลายเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่โดยไม่มีใครคาดคิด
ในปี 2019 Pop Mart ขึ้นแท่นสินค้าที่มียอดขายสูงสุดในหมวดของเล่นฟิกเกอร์บนแพลตฟอร์ม AliExpress ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในจีน และยอดขายเว็บไซต์ชอปปิ้งอย่าง Tmall ที่กวาดรายได้ไป 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แซงหน้าสินค้าระดับโลกอย่าง Disney และ Lego
เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2020 Pop Mart เติบโตไปอีกขั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าและได้ license จากค่ายดังอย่าง Walt Disney และ Universal Studios ที่มีฐานแฟนคลับหลงใหลในตัวละครเหล่านี้อยู่ทั่วโลก
ปัจจุบัน Popmart มีรายได้ในครึ่งปีแรก 2023 คือ 2.81 พันล้านหยวน (ราว 1.4 หมื่นล้านบาท) เติบโตจากปี 2022 ที่มีรายได้ 2.35 พันล้านหยวน นับว่าเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีดังนี้
อันดับ 1 SKULLPANDA = 5.26 แสนล้านหยวน (2,596 ล้านบาท)
อันดับ 2 MOLLY = 4.11 แสนล้านหยวน (2,029 ล้านบาท)
อันดับ 3 DIMOO = 3.62 แสนล้านหยวน (1,786 ล้านบาท)
อันดับ 4 THE MONSTERS = 1.59 แสนล้านหยวน (789 ล้านบาท)
อันดับ 5 HIRONO = 1.09 แสนล้านหยวน (540 ล้านบาท)
อันดับ 6 Sweet Bean = 7.53 หมื่นล้านหยวน (372 ล้านบาท)
อันดับ 7 HACIPUPU = 6.91 หมื่นล้านหยวน (342 ล้านบาท)
อันดับ 8 ตัวละครอื่น ๆ = 4.5 แสนล้านหยวน (2,223 ล้านบาท)
จากบริษัทเล็ก ๆ ที่เคยหลงทาง ในตอนนี้ Pop Mart กลายเป็นแบรนด์ที่เหล่านักสะสมไว้วางใจ
ผู้เขียน : ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว Political Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : ชนากานต์ วรสุข Graphic Designer, Bnomics
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
อ้างอิง:
โฆษณา