25 ก.พ. เวลา 09:42 • สิ่งแวดล้อม
สมุทรสาคร

แบงก์กรุงเทพ แก้โจทย์ขยะล้น ปลดล็อกรายได้ชุมชน ต้นน้ำวัฎจักรยั่งยืน

แม่น้ำท่าจีนแม่น้ำสายสำคัญที่สุดของจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีจุดหมายสายธารสู่อ่าวไทย ปลายทางปากแม่น้ำสุดท้ายก่อนไหลลงสู่ทะเล เช่นเดียวกันกับแม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเจ้าพระยา แม่กลอง รวมถึง แม่น้ำตาปี ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ดักจับขยะ ที่เป็นแหล่งพบกองขยะวัสดุจากทั่วประเทศไหลมารวมกันมากกว่า 14 ล้านชิ้น หรือน้ำหนักราว 148 ตัน
ธนาคารกรุงเทพเห็นปัญหานี้ จึงเข้าไปร่วมมือกับจังหวัดสมุทรสาคร สนับสนุนสร้างทุ่นดักขยะ ดักจับขยะบริเวณแหล่งน้ำ และติดตั้ง "น้องจุด" ที่พักขยะแบบถาวร ทำหน้าที่เป็นจุดรับขยะประเภทขวดพลาสติกบริเวณที่จัดกิจกรรมและตลาดนัด เพื่อเป็นจุดรวบรวมขยะพร้อมกันกับสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังในเรื่องการคัดแยกขยะในครัวเรือนให้แก่ชุมชนและโรงเรียนต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ขยะที่รวบรวมได้จากชุมชน ยังสามารถนำไปต่อยอดสู่การเพิ่มมูลค่าและสร้างเป็นรายได้คืนสู่ครอบครัว
นี่คือ ต้นแบบการจัดการขยะในชุมชนที่สามารถ พัฒนาไปสู่ “โครงการธนาคารขยะ” เป็นชุมชนต้นแบบ ที่ธนาคารสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม จุดประกายให้ชุมชนมีพลังในการสร้างการเปลี่ยนแปลงลดขยะให้เหลือศูนย์ เริ่มต้นจากคนกลุ่มเล็กพัฒนาไปสู่คนกลุ่มใหญ่ในสังคมในที่สุด
โครงการ 'Bualuang Save the Earth : รักษ์ท่าจีน' เกิดขึ้นจากเจตนารมณ์ของธนาคารกรุงเทพที่ต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหาขยะทะเล โดยได้ร่วมลงนามใน "บันทึกแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดการขยะทะเล โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในบริเวณปากแม่น้ำ" ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ณ จังหวัดภูเก็ตเพื่อเข้าร่วมโครงการในระยะนำร่อง จำนวน 5 แห่ง
สำหรับพื้นที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาขยะถูกแบ่งกระจายการดูแลใน 5 แม่น้ำสายหลักที่ไหลลงสู่ทะเล ได้แก่ ท่าจีน บางปะกง เจ้าพระยา แม่กลอง และ ตาปี
ก่อนเข้าไปแก้ไขปัญหา มีการศึกษาข้อมูลและสำรวจพื้นที่ร่วมกันพบปัญหาขยะจำนวนมากที่ไหลจากชุมชนมาร่วมบริเวณแม่น้ำท่าจีน ก่อนจะถูกกระแสน้ำพัดพาออกอ่าวไทยจึงเริ่มต้นวางยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาต่อเนื่องในเวลา 5 ปี (ระหว่างปี 2566-2570)
ขยะกองมหึมา148 ตัน
เรื่องใหญ่มโหฬาร
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นโครงการดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะในแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็น 1 ใน 5 แม่น้ำสายหลักที่ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย จากที่ดำเนินการต่อเนื่อง หลังจากเสร็จสิ้นโครงการในระยะที่ 1 ปัญหาขยะที่มีมากกว่า 14 ล้านชิ้น หรือ 148 ตันต่อปี
ปริมาณขยะจำนวนมากที่พบ จึงถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องเร่งกำจัดขยะให้เร็วที่สุด ควบคู่กับสกัดขยะไม่ให้ไหลลงสู่ท้องทะเลไปสร้างปัญหาเพิ่มมากขึ้น
สแกนขยะจากปลายทางจนถึงต้นทาง
“การติดตั้งเครื่องมือดักขยะเพื่อทำหน้าที่บันทึกข้อมูลวัดปริมาณขยะแต่ละประเภท รวมถึงวิเคราะห์ที่มาของขยะเพื่อจะได้เข้าใจต้นต่อปัญหาอย่างชัดเจน ที่จะนำไปสู่การหาแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทำให้เป็นการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืน“
สำหรับเครื่องมือดักขยะที่ติดตั้งในครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 ประเภทเครื่องมือ ได้แก่
-ทุ่นดักขยะ (Boom) ผลิตจากพลาสติก HDPE สีเหลือง ขนาด 0.35x0.50 เมตร ตาข่ายความยาว 15 เมตร และลึกลงไปจากผิว 2 น้ำ 50 เซนติเมตร อายุการใช้งาน 5-7 ปี
-กระชังไม้ไผ่ดักขยะ เป็นโครงไม้ไผ่ติดอวน ขนาด 3x3 เมตร อายุใช้อีงาน 3-5 ปี
-เครื่องมือดักขยะแบบปักหลัก เป็นโครงไม้ไผ่ผูกอวน ขนาด 5x10 เมตร อายุใช้งาน 3-5 ปีซึ่งเครื่องมือทั้ง 3 ประเภทเหมาะสมกับสภาพกระแสน้ำ สามารถรองรับกระแสน้ำขึ้นน้ำลงได้ จะเป็นตัวช่วยดัก ขยะที่ไหลมาตามน้ำไม่ให้ไหลต่อลงสู่แม่น้ำท่าจีนและทะเลอ่าวไทย
“น้องจุด” ฉลามวาฬพิทักษ์ ดักจับขยะบนบกก่อนคัดแยกรีไซเคิล
สำหรับ การติดตั้ง "น้องจุด"หรือ ฉลามวาฬพี่ใหญ่แห่งท้องทะเล เป็นที่พักขยะแบบถาวร สำหรับพักขยะประเภทขวดพลาสติก ทั้งจากการดักจับบนผิวน้ำและเกิดขึ้นบนบก ซึ่งขวดพลาสติกเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในขยะทะเลที่ถูกพบมากในประเทศไทย
ทั้งนี้ จะมีการตั้งวาง "น้องจุด" ไว้ 2 จุดในบริเวณลานวัดสหกรณ์โฆสิตาราม ซึ่งเป็นพื้นที่การจัดกิจกรรมและตลาดนัดเป็นประจำ โดยอุปกรณ์ทุกประเภทดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้ามาดูแลเป็นประจำ เพื่อตรวจสอบการตักขยะ ก่อนนำไป คัดแยกและรีไซเคิล ส่วนขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้แล้ว หรือขยะกำพร้า จะถูกส่งไปทำเชื้อเพลิงทดแทนให้เกิดประโยชน์ต่อไป
#แม่น้ำท่าจีน,
#จังหวัดสมุทรสาคร
#อ่าวไทย
#แม่น้ำบางปะกง
#แม่น้ำเจ้าพระยา
#แม่กลอง
#แม่น้ำตาปี
#ขยะ
#ธนาคารกรุงเทพ
#กอบศักดิ์ภูตระกูล
#จิระวัฒน์ปั้นเปี่ยมรัษฎ์
#ESGuniverse
โฆษณา