Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิเคราะห์บอลจริงจัง
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
25 ก.พ. 2024 เวลา 11:45 • กีฬา
คุยกับรอย มาคาย ตำนานของบาเยิร์น มิวนิค อยากเอามาเล่าให้ฟังนะครับ
การมาเยือนมิวนิคในทริปนี้ ผมมีโอกาสได้คุยกับ รอย มาคาย กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เป็นหัวหอกตัวความหวังของบาเยิร์น มิวนิค ที่ลงเล่นอยู่ในช่วงปี 2003-2007
มาคายตอนนี้ อายุ 48 ปี เป็นทูตของสโมสร และเป็นผ.อ.โครงการชื่อบาเยิร์น เวิลด์ สควอด โปรเจ็กต์ที่ไปตามล่าหานักเตะพรสวรรค์จากทั่วโลก
เมื่อรู้ว่าจะได้คุยกัน ผมเลยเตรียมเสื้อแข่งของเขาเอาไว้ จากเมืองไทยเลยครับ เพื่อเอาไปให้เขาเซ็นชื่อ พอมาคายเห็นเสื้อของเขาปั๊บ เจ้าตัวยิ้มเลย ไม่คิดว่าจะมีใครเอาเสื้อมาให้เซ็น เพราะแขวนสตั๊ดไปตั้ง 14 ปีแล้ว
มาคายเคยอยู่เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า มาก่อน แต่เขาทำผลงานมาสเตอร์พีซ ด้วยการยิงแฮตทริกใส่บาเยิร์น ในแชมเปี้ยนส์ลีก ในเดือนกันยายน 2002 ที่สนามโอลิมเปียสตาดิโอน
พอจบฤดูกาลนั้นบาเยิร์น ซื้อมาคายมาเสริมทัพทันที โดยตั้งใจจะเอามาแทนโจวานนี่ เอลแบร์ หัวหอกบราซิเลียน
มาคายเล่าว่า "บรรดานักเตะทีมกลางๆ จะตื่นเต้นมาก เวลาได้เจอกับทีมใหญ่ ตอนผมเล่นกับลา คอรุนญ่า แล้วเราเจอบาเยิร์น มิวนิค ผมยิงแฮตทริกได้ ช่วยทีมชนะ ซึ่งนัดนั้น เป็นการพ่ายแพ้กับทีมสเปนครั้งแรกในบ้านของบาเยิร์น มันเลยกลายเป็นข่าวใหญ่มาก"
"พอจบเกมพวกเขาก็เริ่มคุยกับเอเยนต์ส่วนตัวของผมทันที ดังนั้นนักเตะทุกคน ถ้ามีโอกาสเจอกับทีมใหญ่ เขาจะเล่นแบบสุดความสามารถเสมอ เพราะเผลอๆ จะได้ย้ายทีมโดยไม่รู้ตัว"
เคสของมาคาย ทำให้ผมคิดถึงโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตอนเขาเล่นกับทีมบาเซิลในสวิตเซอร์แลนด์ สามารถยิงเชลซีได้ในแชมเปี้ยนส์ลีก จากนั้นไม่นาน เชลซีก็ซื้อซาลาห์มาอยู่ด้วย
พอย้ายมา มาคายใส่เบอร์ 10 ซึ่งถือว่าแปลก สำหรับกองหน้าตัวเป้าที่มักจะใส่เบอร์ 9 กัน
เขาเล่าว่า "ผมไม่ได้ยึดติดกับเรื่องเบอร์อยู่แล้ว ตอนผมเล่นให้ลา คอรุนญ่า ผมใส่เบอร์ 7 หรือย้อนกลับไปก่อนนั้น ตอนเล่นกับเตเนริเฟ่ ผมใส่เบอร์ 18 จริงๆ คุณใส่เบอร์อะไรก็ได้ แต่ก็เข้าใจว่า ถ้าคิดถึงกองหน้าตัวเป้า ก็มักจะเป็นเบอร์ 9"
"ตอนที่ผมย้ายมาบาเยิร์น เบอร์ 9 เป็นของโจวานนี่ เอลแบร์ เขากำลังเจรจาเตรียมย้ายไปโอลิมปิก ลียง ถ้าผมจะดื้อ แล้วบอกว่าจะเอาเบอร์ 9 อย่างเดียวก็ได้ แต่ผมคิดว่า เราควรให้เกียรติคนที่อยู่มาก่อน ถ้าผมแสดงความก้าวร้าวแบบนั้น แล้วคนในสโมสรจะมองผมยังไง ดังนั้นผมก็เลยเลือกเบอร์ที่ว่างอยู่ นั่นคือเบอร์ 10"
ในยุคของเขาบาเยิร์น ได้แชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย จากนั้นพออายุ 32 ปี มาคายก็ย้ายไปเล่นให้เฟเยนูร์ดในลีกดัตช์ อาจจะอยู่บาเยิร์นในช่วงสั้นๆ 4 ปี แต่ก็ถือเป็นนักเตะที่แฟนชอบ เพราะยิงประตูได้เยอะมาก รวมแล้ว 102 ลูกทุกรายการ
โมเมนต์ดีที่สุดของมาคายในสีเสื้อบาเยิร์น คือการยิงประตูเรอัล มาดริด ได้ในแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2007 โดยยิงได้ใน 10.12 วินาทีแรก นั่นคือประตูที่ยิงเร็วที่สุดตลอดกาลในแชมเปี้ยนส์ลีกจนถึงวันนี้ด้วย
มีนักข่าวจากเวียดนาม ถามเขาว่า ถ้ามาคายที่เป็นกองหน้าตัวเป้าขนานแท้ ต้องมาเล่นฟุตบอลในยุคที่กองหน้า ต้องเล่นแบบ False 9 หรือขยับออกไปปีก แบบในยุคปัจจุบัน เขาจะสามารถเล่นได้ไหม
มาคายตอบว่า "สบาย"
"ตอนผมเล่นที่บาเยิร์น จะเล่นหน้าคู่กับเคลาดิโอ ปิซาร์โร่ เราไม่ได้ยืนค้ำในเขตโทษทั้งสองคนหรอกนะ ผมก็ดร็อปลงต่ำเพื่อช่วยเชื่อมเกมอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นคิดว่าเล่นได้แน่นอน"
"แต่สุดท้ายผมว่าอยู่ที่วิธีการใช้มากกว่า ต่อให้คุณเป็นกองหน้าดั้งเดิม กางมุ้งยิงในกรอบ 6 หลา แต่คุณก็ประสบความสำเร็จได้นะ ดูอย่างเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เขาไม่ต้องเชื่อมเกม หรือฉีกออกปีก แต่ยืนอยู่ถูกตำแหน่งก็ยิงได้เยอะมากๆ กองหน้าแต่ละแบบ ก็มีวิธีการเล่นของตัวเอง โค้ชใช้เป็นหรือเปล่าแค่นั้น"
"ส่วนตัวผมคิดว่ากองหน้าเบอร์ 9 ไม่มีวันตายหรอก อย่างยุคบาร์เซโลน่าของกวาร์ดิโอล่า เขาใช้เมสซี่เล่นเป็น False 9 แต่พอเป็นยุคของหลุยส์ เอ็นริเก้ เมสซี่ก็ขยับไปทางขวาแล้วหลุยส์ ซัวเรซ ยืนหน้าเป้าแทน"
"รู้อะไรไหม ว่ากองหน้าเป็นตำแหน่งที่ไม่มีวันสอนได้ หมายถึงคุณอาจฝึกยิง ฝึกโหม่งได้ แต่การยืนตำแหน่งที่ถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติทั้งนั้น ดังนั้นด้วยความที่เป็นตำแหน่งที่มีคนเก่งจริงๆ น้อย ทำให้การซื้อขายกองหน้าแต่ละที ราคาก็จะสูงมากเสมอ"
คำถามว่า กองหลังคนไหนที่เก่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญหน้ามา มาคายตอบว่า "ลูซิโอ"
"ลูซิโอคือแชมป์ฟุตบอลโลกกับบราซิล เขาเป็นกองหลังที่เร็วมาก นี่คือผู้เล่นที่คุณไม่อยากเจอเลยล่ะ"
มาคายพอเลิกเล่นฟุตบอล ทางบาเยิร์น มิวนิค ได้จ้างเขามาทำงานเป็นทูตสโมสร เวลามีแมตช์เดย์ หรือ ต้องไปขอบคุณสปอนเซอร์ มาคายก็จะเดินทางไป ร่วมถ่ายรูปกับผู้คน
"ในฟุตบอลยุคปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่ในสนาม ดังนั้นถ้าคุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับสโมสรเอาไว้ เป็นนักเตะที่แฟนๆ รักล่ะก็ คุณก็ยังสามารถกลับมาทำงานที่สโมสรได้ตลอด แต่ถ้าแยกจากกันแบบไม่ดี โอกาสการงานตรงนี้ก็จะหายไปเช่นกัน"
ณ เวลานี้ มาคาย ทำงานเป็นผ.อ.โปรเจ็กต์บาเยิร์น เวิลด์ สควอด โดยจะให้นักเตะดาวรุ่งทั่วโลก ส่งคลิปวีดีโอเข้ามาที่สโมสร จากนั้นจะมีการคัดเลือกจนเหลือ 40 คน
เมื่อได้ 40 คน ก็จะเอามาคัดให้เหลือ 15 คนสุดท้าย โดยเด็กกลุ่มนี้จะได้เรียนรู้ศาสตร์วิชาของบาเยิร์น มิวนิค แน่นอน คุณภาพของเด็กๆ พวกนี้ ยังเทียบกับเด็กจากอะคาเดมี่ไม่ได้ แต่ก็มีบางคนเหมือนกัน ที่พอมีแววสามารถนำไปปั้นต่อได้
หนึ่งในนักเตะที่เคยส่งคลิปตัวเองเข้าไป แล้วได้รับการคัดเลือกจากบาเยิร์น เวิลด์ สควอด คือ "สยาม แยปป์" ผู้เล่นของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทยชุด u-23
คือแน่นอน สยาม แยปป์ คงไม่เก่งพอถึงขนาดได้โอกาสจากบาเยิร์น แต่ประสบการณ์ในวันนั้นของเขาที่ได้ฝึกกับทีมเสือใต้ 4 สัปดาห์ ก็ยกระดับให้เขาเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้
หลังจากคุยกันครึ่งชั่วโมง รอย มาคาย ก็ขอตัว เพื่อไปทำหน้าที่ทูต คุยกับสปอนเซอร์เจ้าอื่นๆ ต่อครับ ก็ถือเป็นการสนทนากันที่ดีนะครับ ได้เห็นมุมมองของกองหน้าระดับรองเท้าทองคำยุโรป
ผมชอบคุยกับนักเตะเลเจนด์เหล่านี้ครับ ในตอนที่เขาเป็นผู้เล่นอยู่เราอาจเข้าถึงยากมาก แต่พอเลิกเล่นไปแล้ว ก็พร้อมเปิดใจคุยกับเราได้ หลายๆ เรื่องที่ไม่เคยบอกก็สามารถเล่าได้ครับ
ไว้ถ้ามีโอกาสได้คุยกับตำนานคนไหนอีก ผมจะเอามาเล่าให้ฟังอีกนะครับผม ขอบคุณทางบาเยิร์น มิวนิค และ บุนเดสลีกา ด้วยครับ ที่ช่วยจัดเซสชั่นนี้ให้ครับผม รักเลย!
2 บันทึก
24
2
2
24
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย