Moscow Mission
มีดีที่แอ็กชั่น
เป็นเรื่องที่เห็นไม่บ่อยนักในยุคนี้ที่เวลาเข้าโรงหนังแล้วมีหนังจีนฉายชนกัน 2 เรื่อง และยิ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อทั้ง 2 เรื่องยังมีดาราตัวขายคนเดียวกันอีกนั่นก็คือหลิวเต๋อหัว เพราะเอาแค่ช่วงปกติก็หาหนังจีนเข้าโรงหนังบ้านเราได้ยากอยู่แล้ว เหมือนกับหนังจีนตายไปจากตลาดหนังโรงบ้านเราแล้ว
ทั้งสองเรื่องนั้นก็คือ The Goldfinger ที่เอาหลิวเต๋อหัวมาประกบเหลียงเฉาเหว่ยเป็นครั้งแรกหลังจาก 2 คน 2 คม และอีกเรื่องหนึ่งคือ Moscow Mission หรือภารกิจท้านรก จากฝีมือของผู้กำกับที่งานชุกที่สุดในฮ่องกงคือเฮอร์มาน เหยา ที่ปี 2023 ที่ผ่านมามีหนังที่เขากลับออกฉายรวมกันถึง 4 เรื่อง ต่อจาก The White Storm 3: Heaven or Hell , Death Notice และ Raid on the Lethal Zone
ใน Moscow Mission เรื่องนี้เอาหลิวเต๋อหัวมาประกบกับจางฮันหยูดารา จากแผ่นดินใหญ่ เพียงแต่หลิวเต๋อหัวถอยออกมาเป็นนักแสดงสมทบในลักษณะรับเชิญที่มีบทมากหน่อยเสียมากกว่า
Moscow Mission เอาเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 1993 เมื่อเปิดเส้นทางรถไฟสายปักกิ่งมอสโกก แล้วเกิดเหตุการณ์ปล้นขบวนรถไฟสายนี้บ่อยครั้ง จนทางการจีนต้องส่งตำรวจไปปฏิบัติการร่วมกับตำรวจรัสเซียเพื่อจับบรรดาเหล่าโจรปล้นรถไฟมาลงโทษ แต่หนังเอาแค่เหตุการณ์จริงมาใช้อย่างหลวมๆ เนื้อเรื่องตัวละครต่างๆ เขียนขึ้นมาใหม่หมด
จางฮันหยูเล่นเป็นตำรวจจีนที่นำทีมไปปฏิบัติการในมอสโก ส่วนหลิวเต๋อหัวเล่นเป็นพ่อค้าคนกลางที่ค้าทั้งอาวุธและเครื่องบินรบให้กับกลุ่มมิจฉาชีพและหวงซวงเล่นเป็นหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มโจร
เฮอร์มาน เหยา เริ่มกำกับหนัง ครั้งแรก เมื่อปี 1987 ถึงตอนนี้ก็อยู่ในอาชีพนี้มาถึง 4 ทศวรรษ โด่งดังสุดๆในยุค 90 กับหนังสยองขวัญเกรด 3 ของฮ่องกงอย่างซาลาเปาเนื้อคน ตอนนี้ถือว่าเป็นเสาหลักคนหนึ่งของผู้กำกับหนังฮ่องกง
เฮอร์มาน เหยาถือว่าเป็นพหูสูตรทำหนังได้ทุกแนว ช่วงหลังๆ ทำหนังแอ็คชั่นทุนสูงมากหน่อย ที่พอเข้าตาและถือว่าโดดเด่นมากๆนั่นก็คือ Shockwave ทั้ง 2 ภาคที่ทำร่วมกับหลิวเต๋อหัว ก่อนหน้า Moscow Mission ก็มี The Whitee Storm 3 จึงไม่แปลกอะไรที่ Moscow Mission จะมีจุดเด่นที่ฉากแอ็กชันตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเปิดเรื่องมากับการปล้นขบวนรถไฟไล่ไปจนถึงไล่ล่าบนท้องถนนในกรุงมอสโกลงไปในท่อระบายน้ำ และตอนท้ายยังมีเครื่องบินรบเข้ามาเข้าฉากอีกด้วย เรียกว่าระดมแอ็กชันมาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหนังฮอลลีวูด
ถือว่า เฮอร์มาน เหยาทำออกมาได้ดี แต่จุดที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนมากๆเลยนั่นก็คือ เหมือนเขาไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดของเนื้อเรื่องจนทำให้การเดินเรื่องมันง่ายและดู รวบรัดไปมากๆ โดยเฉพาะในช่วงของกรุงมอสโกที่พวกโจรปล้นรถไฟวางแผนปล้นคาสิโน และตัวละครก็เป็นตัวละครมิติเดียว
จางฮันหยูน่าเชื่อถือมากๆกับบทผู้นำทีมไล่ล่าโจร แต่พอมาดูที่หลิวเต๋อหัวแล้วดันกลายเป็นบ่อลึกของหนังไปเลย เมื่อบทของเขาค่อนข้างที่จะไร้น้ำหนักในหนัง จนคิดได้แต่เพียงว่าเอาหลิวเต๋อหัวมาเพื่อขายเท่านั้น และทิศทางของตัวละครที่แสดงออกมาก็กลายเป็นจุดอ่อน
เมื่อหลิวเต๋อหัวดูสุภาพมากเกินไปกว่าจะเป็นโจรใต้ดิน ที่ทำทุกอย่างเพื่อช่วยลูกสาวที่ถูกกลุ่มโจรปล้มรถไฟจับเพื่อบังคับให้ร่วมปล้นคาสิโน แต่เราไม่เห็นเขาทำอะไรมากไปกว่าทำตัวสบายๆ ห่วงลูกก็แค่หยิบรูปขึ้นมาดู ทำให้ตัวละครไม่มีน้ำหนัก ไม่มีความดุดันให้เห็น แต่เข้าใจได้ว่าตัวหนังเอาเขามาขาย
Moscow Mission ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับกลางๆ ทำเงินทั้งฮ่องกงและจีนรวมประมาณ 60 ล้านดอลลาร์
โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นหนังแอ็กชันฮ่องกงที่ออกมาดูสนุก ดีกว่า The White Storm 3 พอสมควร หากเฮอร์มาน เหยาแสดงความกระตือรือร้นในการเล่าเรื่องและการพัฒนาตัวละครแบบเดียวกันกับที่เขาเน้นในฉากแอ็กชันแล้ว Moscow Mission น่าจะสร้างความประทับใจได้ไม่ยาก
6/10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
