26 ก.พ. เวลา 12:24 • ธุรกิจ

มั่นคงเคหะการ รุกอสังหาฯ เพื่อเช่าทั้งคลังสินค้า-โรงงาน

มั่นคงเคหะการ ปรับโครงสร้างใหม่ โฟกัสธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า พร้อมต่อยอดกวาดรายได้จากคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือตัวย่อว่า MK บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่การปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อเน้นที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า และต่อยอดสู่ธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า
ซึ่งถ้าหากเจาะเข้าไปดูไส้ในของมั่นคงเคหะการหรือ MK ก็จะพบความน่าสนใจในตัวบริษัทนี้มากยิ่งขึ้น
เพราะทางบริษัทมีการถือหุ้นโดย บริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FNS ที่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ทำธุรกิจลงทุนในรูปของ Private Equity ในหลาย ๆ ธุรกิจ
พูดแบบนี้อาจจะไม่คุ้นหู แต่ถ้าพูดว่าเป็นบริษัทที่ถือหุ้นบริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) ที่ทำผลิตภัณฑ์และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศภายใต้ในแบรนด์ อาทิ ไฟน์ไลน์ บีไนซ์ และดีนี่ ที่กำลังจะจดทะเบียนเข้าตลาด และบริษัท ขนม คาเฟ่ จำกัด เจ้าของ brand ka-nom ร้านเบเกอรี่ ต้นตำรับทาร์ตไข่ชื่อดังมานานกว่า 25 ปี ปัจจุบันที่มีอยู่ 30 กว่าสาขาทั่วกรุงเทพ
สำหรับ MK ก็ได้มีการกระจายธุรกิจเพื่อการจัดการความเสี่ยง จากโอกาสที่เข้ามาในเทรนด์ของโลก อย่างเช่นธุรกิจสถานที่การให้บริการด้านสุขภาพทั้งสองแห่ง ทั้งโครงการรักษ เวลเนส บางกระเจ้า ในชื่อแบรนด์ “Rakxa” และโครงการอาร์เอ็กซ์วี เวลเนส วิลเลจ ในชื่อแบรนด์ “RXV” ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้บริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด โดยลงทุนในสัดส่วน 100%
อีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นเสาหลักสำหรับมั่นคงเคหะการ คือ ธุรกิจพัฒนาอาคารคลังสินค้าเละโรงงานให้เช่า ภายใต้โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ธุรกิจนี้ดำเนินการโดยผ่าน บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ PD ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ MK ถืออยู่ 100%
ปัจจุบัน PD มีพื้นที่โรงงานเละคลังสินค้าภายใต้การการบริหารจัดการกว่า 1,000,000 ตารางเมตร (7 โครงการ) ซึ่ง 1 ใน 7 โครงการ คือ โครงการบีเอฟทีแซด วังน้อย (BFTZ Wangnoi) ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาอาคารศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ให้กับ CP Axtra (Siam Makro) โดยศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 88,000 ตารางเมตรเมื่อแล้วเสร็จ โดยโครงการ BFTZ Wangnoi นั้นเป็นโครงการร่วมทุน 50% : 50% ระหว่าง FNS กับ PD
ก้าวสำคัญของ MK คือ การที่ PD จัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพคโลจิสติกส์และอินดัสเทรียลได้สำเร็จในเดือนสิงหาคม 2563 ปัจจุบัน MK ได้ลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพคโลจิสติกส์และอินดัสเทรียล ในสัดส่วน 8.61%
ทางทีม Reporter Journey ได้ทำ infographic เพื่อให้เข้าใจกันได้ง่าย ๆ เกี่ยวกับโครงสร้างของ MK ตามในรูปนี้
🔵 ที่มาและแนวคิดของการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทาง MK ได้มีการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตของธุรกิจ เพื่อให้บริษัทมีความสามารถในการหารายได้และทำกำไรในอนาคต แต่กลับกลายเป็นว่าทาง MK ได้เห็นโอกาสจากการหารายได้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าที่มีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ทาง MK ต้องจัดการแหล่งเงินทุนเพื่อนำมาทำโครงการเหล่านี้ เช่น เงินทุนเพื่อการซื้อหรือเช่าที่ดินในระยะยาว รวมไปถึงการก่อสร้างพื้นที่ให้เช่า เพื่อรองรับความต้องการในการเติบโต
ประกอบกับตัวธุรกิจ Wellness ในการบริหารของ บริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ จึงทำให้ต้องใช้ทุนส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจในช่วงแรก ๆ แต่ในช่วงเวลานั้น ก็เจอปัจจัยของ Covid-19 เข้ามา เรื่องนี้ส่งผลทำให้ผลประกอบการภายใต้โครงสร้างเดิมไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยทางทีม RJ ได้นำเสนอข้อมูลตั้งแต่ปี 2562 มาจนถึงปัจจุบัน (อ้างอิงจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือธุรกิจที่ถนัดมืออย่างอสังหาริมทรัพย์ก็มีโอกาสเติบโต แต่ก็ต้องการกระสุนเงินเพื่อไปพัฒนาต่อ ส่วนธุรกิจ Wellness ที่เพิ่งเริ่มต้นก็มีโอกาส แต่ก็ต้องเติมเงินเพื่อให้เดินได้ในช่วงแรก เรื่องนี้ทำให้ทางผู้บริหาร ได้มีการพูดคุยกันถึงการปรับโครงสร้างในช่วงปลายปี 2566 เพื่อให้บริษัทมีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น
จึงทำให้ที่ประชุมก็ได้มีการพูดคุย ซึ่งทางกรรมการบริษัทก็มองว่า ทางมั่นคงเคหะการควรทำธุรกิจที่ตัวเองถนัดและควรที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ
🔵 รายละเอียดการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่
หากจำได้ในช่วงแรก มั่นคงเคหะการหรือ MK มีการถือหุ้นโดย บริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FNS จึงทำให้โครงสร้างใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมีความเกี่ยวข้องกันกับสองบริษัทนี้ แล้ว MK และ FNS ปรับโครงสร้างอย่างไร? เพื่อให้ทุกบริษัทได้ประโยชน์แบบ Win-Win Situation
เนื่องจากธุรกิจ Wellness ในการบริหารของบริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด ไม่ได้มีที่ดินและอาคารในการประกอบธุรกิจ จึงทำให้มีการย้ายโครงสร้างของ อาร์เอ็กซ์ เวลเนส ที่อยู่ภายใต้ MK ไปอยู่ภายใต้ FNS เพื่อให้มั่นคงเคหะการเหลือแต่ธุรกิจที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญในการบริหาร และให้ทาง อาร์เอ็กซ์ เวลเนส เช่าพื้นที่จากบริษัทลูกทางตรงของบริษัท เพื่อให้ทาง MK มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นในระยะเวลา 10 ปี คิดเป็นเม็ดเงินรวม 1,770 ล้านบาท
หรือพูดง่ายกว่านั้นคือ MK เหลือธุรกิจที่ถนัดในมือและได้ค่าเช่าเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย ส่วน อาร์เอ็กซ์ เวลเนส ก็โอนให้ FNS ที่มีความเชี่ยวชาญบริหารแทน MK
ส่วนบริษัท บีเอฟทีแซด วังน้อย จำกัด (BFTZWN) ที่บริหารอาคารศูนย์กระจายสินค้าให้กับทาง CP Axtra และทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพคโลจิสติกส์และอินดัสเทรียล ที่ทาง FNS ได้มีการถือหุ้นร่วมกันกับทาง MK ได้มีการโอนย้ายไปให้ทาง MK บริหารด้วยเหตุผลของความเชี่ยวชาญในธุรกิจ
ทำให้ทาง MK จะถือหุ้นในบริษัท บีเอฟทีแซด วังน้อย จำกัด (BFTZWN) ในสัดส่วน 50% (หากนับรวมกับหุ้นที่ PD ถืออยู่อีก 50% กลุ่ม MK จะถือหุ้นในบีเอฟทีแซด วังน้อยรวมเป็น 100%) และทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพคโลจิสติกส์และอินดัสเทรียล เพิ่มขึ้นจาก 8.61% รวมเป็นสัดส่วน 30.80%
ภายหลังการปรับโครงสร้างของมั่นคงเคหะการจะส่งผลดีอย่างไรต่อผู้ถือหุ้น? เนื่องจาก MK เห็นโอกาสในการหารายได้จากธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญอย่างอสังหาริมทรัพย์ เมื่อมีการย้ายธุรกิจ Wellness ไปอยู่ในมือของ บริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FNS ก็จะทำให้ MK สามารถหาเงินทุนสำหรับธุรกิจที่เป็น Core Business พูดง่าย ๆ ก็คือ หาทุนเพื่อสร้างโอกาสเติบโตในสิ่งที่ MK ถนัดจริง ๆ
รวมไปถึง MK มีรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจ Wellness เนื่องจาก บริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด ไม่ได้มีที่ดินและอาคารในการประกอบธุรกิจ จึงทำให้ต้องเช่าพื้นที่จากบริษัทลูกทางตรงของบริษัท ซึ่งทำให้ MK มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นในระยะเวลา 10 ปี คิดเป็นเม็ดเงินรวม 1,770 ล้านบาท นั่นเอง
หลังจากนี้ ทาง MK จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 มีนาคมนี้ เวลา 14:00 น. ที่โรงแรมคราวน์พลาซ่า กรุงเทพ ลุมพินี พาร์ค เพื่อพิจารณาอนุมัติการปรับโครงสร้าง เพื่อให้บริษัทมีความสามารถในการบริหารรายได้และกำไรที่มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต
โฆษณา