26 ก.พ. เวลา 15:13 • กีฬา

วาตารุ เอ็นโด จากชอยส์เบอร์ 3 สู่ตัวหลักที่หงส์ขาดไม่ได้

ทุกคนรู้ไหมครับ ว่าวาตารุ เอ็นโด จริงๆ เป็นตัวเลือกเบอร์ 3 ของลิเวอร์พูลในช่วงซัมเมอร์นี้ ใครจะไปเชื่อว่าตัวเลือกเบอร์ 3 คนนี้กลายเป็นผู้เล่นที่หงส์แดงขาดไม่ได้ไปแล้ว
ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หงส์แดงเกิดภาวะวิกฤติ เพราะตำแหน่งมิดฟิลด์ ย้ายทีมกันอย่างกะทันหันมาก จนคล็อปป์ไม่ทันตั้งตัว
2
กัปตันทีมจอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ย้ายไปเล่นในลีกซาอุดิอาระเบีย ส่วนนาบี เกอิต้า ก็หมดสัญญากับสโมสรย้ายกลับไปเยอรมัน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน หมดสัญญาก็ย้ายไปเบซิคตัส
หงส์แดงต้องการมิดฟิลด์เพิ่ม อย่างน้อยก็สามคน ซึ่งพวกเขาได้ตัวอเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์มาจากไบรท์ตัน ตามด้วย โดมินิค โซโบสไล มาจากไลป์ซิก แต่ก็ถือว่ายังน้อยอยู่ เพราะได้มาเพิ่มแค่ 2 คนเท่านั้น
นักเตะที่คล็อปป์ต้องการ คือมิดฟิลด์ตัวกลางที่เล่นเกมรับได้ดี มีพลังขับเคลื่อน ช่วยต่อบอลได้ ซึ่งในตลาด ณ เวลานั้น มี มอยเซส ไคเซโด้ ของไบรท์ตัน ที่พร้อมย้ายทีมอยู่
ลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอ 110 ล้านปอนด์ ตัดหน้าเชลซี เพื่อเอาตัวไคเซโด้มาให้ได้ ตามแผนคือ เอาไคเซโด้ มายืนคู่กับแม็คอัลลิสเตอร์ เหมือนตอนเล่นที่ไบรท์ตัน ด้วยแผนนี้น่าจะทำให้กองกลางแข็งขึ้นมาก
แต่ไคเซโด้ ปฏิเสธลิเวอร์พูล บอกว่าอยากไปเชลซีมากกว่า เพราะเชลซีเป็นทีมที่เขาเชียร์ตอนเด็ก เป้าหมายเบอร์ 1 วืดไปต่อหน้าต่อตา
แฟนหงส์แดงเจ็บใจมาก เพราะเหมือนโดนไคเซโด้ดูถูกว่า ลิเวอร์พูลไม่ดีพอที่เขาจะย้ายมาลงเล่นด้วย
จากนั้นทีมหงส์แดง จึงเบนเป้าหมายใหม่ ไปที่โรเมโอ ลาเวีย กองกลางดาวรุ่งของเซาธ์แฮมป์ตัน และตกลงราคากันได้เรียบร้อยแล้วที่ 53 ล้านปอนด์ แต่ก็เหมือนเดจาวู เพราะลาเวีย บอกว่าอยากย้ายไปเชลซีมากกว่า
กองกลางที่อยู่ในข่ายที่ซื้อได้ ก็หายไปทีละคนสองคน นั่นทำให้คล็อปป์ ตัดสินใจพิจารณาชอยส์ที่ 3 นั่นคือวาตารุ เอ็นโด กองกลางชาวญี่ปุ่นของสโมสรสตุ๊ตการ์ต
เอ็นโด เป็นตัวเลือกที่ดี เขาเป็นกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น และเล่นในบุนเดสลีกามายาวนาน แถมสื่อสารภาษาอังกฤษได้ด้วย แต่ปัญหาหลักคือ เอ็นโด อายุ 30 ปีแล้ว ไม่ใช่การซื้อเพื่ออนาคตระยะยาวแน่นอน
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ตัดสินใจว่าจะซื้อ เพื่อเอามาใช้งานทันทีในฤดูกาลนี้ และตัดสินใจจ่ายค่าตัว 16 ล้านปอนด์ให้กับสตุ๊ตการ์ต
เอ็นโด มีราคาถูกกว่าไคเซโด้ 7 เท่า และถูกกว่าลาเวีย 3 เท่า ถือว่าประหยัดมาก จนลิเวอร์พูลเหลืองบอีกก้อน เอาไปซื้อไรอัน กราเวนเบิร์ชเพิ่มได้อีกคน
1
ในช่วงที่ย้ายมาใหม่ๆ เอ็นโด ยังจับจังหวะของพรีเมียร์ลีกไม่ได้ เขาเสียบอลบ่อยมาก จนตอนแรกแฟนบอลรู้สึกผิดหวัง คิดว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่ดี
เอ็นโด ต้องอดทนเป็นสำรองในช่วงแรก โดยคล็อปป์ให้อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ถอยมาเล่นเป็นกองกลางตัวรับเฉพาะกิจ ซึ่งในระหว่างนั้น เอ็นโดก็ค่อยๆ ทำความเข้าใจว่าฟุตบอลอังกฤษ ต้องเล่นเร็วกว่าบุนเดสลีกา ต้องคิดเร็วทำเร็ว เอาตัวรอดให้ได้
2
พอเข้าสู่เดือนธันวาคม 2023 ตอนนี้เอ็นโดปรับตัวได้แล้ว คล็อปป์ตัดสินใจส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริงทุกเกม ทุกรายการ จนเอ็นโดคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของสโมสรในเดือนธันวาคม
จากนั้นเอ็นโดไปรับใช้ญี่ปุ่นในเอเชียนคัพ พอกลับมาปั๊บ ก็ลงเล่นต่อเนื่อง ช่วยให้ทีมยังมีลุ้นทุกรายการ และในเกมนัดชิงคาราบาวคัพกับเชลซี เขาก็ลงเล่น 120 นาทีเต็มอีกด้วย
ตอนนี้ แฟนบอลและสื่อมวลชนเห็นตรงกันว่า ราคา 16 ล้านปอนด์ ที่ลิเวอร์พูลจ่ายให้สตุ๊ตการ์ต มันคุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้ว การมีเอ็นโด ทำให้เกมรับสมดุลขึ้น นักเตะคนอื่นเล่นเกมรุกได้อย่างอิสระมากขึ้น
3
ในขณะที่ไคเซโด้ และ ลาเวีย ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย ในซีซั่นนี้ แต่เอ็นโดประเดิมไปแล้วแชมป์แรก และอาจจะมีแชมป์รายการอื่นตามมาในระยะเวลาอันใกล้ด้วย
เรื่องราวของเอ็นโดนั้น เป็นเครื่องสอนใจได้เลยว่า บางครั้งมันไม่สำคัญ ว่าเราจะเป็นตัวเลือกแรกหรือเปล่า เราอาจถูกเลือกเป็นอันดับ 2 หรืออันดับ 3 อะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าเราพร้อมรับมือกับปัญหาทุกอย่าง เราก็สามารถเป็นผู้ชนะได้เช่นกัน
3
ในฐานะคนเอเชียด้วยกัน ก็ดีใจกับซามูไรเอ็นโดด้วยครับ เขาทำให้เห็นว่า คนเอเชียอย่างเรา สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมระดับลิเวอร์พูลได้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เลยล่ะครับ
2
โฆษณา