27 ก.พ. เวลา 12:16 • ปรัชญา

ใช้ชีวิตอย่างหัวขบถ

1. เมื่อขาดแคลนวัตถุหรูหรา ตาเรายังมองหาจนเห็นความร่ำรวยในอาหารอร่อยข้างถนน อากาศดีในสวนสาธารณะ บ้านหลังเล็กของเราที่อยู่สบาย เรารู้สึกมั่งคั่งเพราะเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามี ซึ่งเรามีมากมายหากเรามองหามัน
2. เมื่อไม่มีความรักโรแมนติก ใจเรายังรู้สึกถึงมิตรภาพจากเพื่อน ความเมตตาจากผู้ใหญ่ ความรักสุดใจจากพ่อแม่ และสังคมที่ไม่สิ้นไร้น้ำใจจากคนดี เรายังรู้สึกถูกรักจากผู้คนในโลกนี้
3. เมื่อคนใกล้ตัวดูถูกเรา ลดค่าเรา เราก็ดึงค่าของตัวเองขึ้นมาด้วยการมุ่งพัฒนาตัวเอง
4. เมื่อสิ่งรอบตัวซ้ำซากน่าเบื่อหน่าย เรายังซาบซึ้งที่ได้รับสิ่งปกติธรรมดาที่ขาดไม่ได้ ซาบซึ้งกับดวงอาทิตย์ที่อบอุ่น สายลมสดชื่น เด็กน้อยน่ารักบนถนน กาแฟและหนังสือดีๆ สักเล่ม
5. เมื่อสถานการณ์แย่ๆ มาชวนให้ทุกข์ ตัวเราตัดสินใจได้ที่จะมีความสุขอย่างไม่สนสิ่งรอบข้าง
6. เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่สำคัญ ก็เปลี่ยนความรู้สึกตัวเองด้วยการคอยเก็บหลักฐานในทางบวกว่าเราถูกให้ความสำคัญตอนไหนบ้าง เช่น เพื่อนชวนไปกินข้าว เจ้านายชมบางวัน คนในครอบครัวจำวันเกิดเราได้ เด็กน้อยตามถนนยิ้มน่ารักให้ เรามีช่วงเวลาที่ถูกให้ความสำคัญจากใครบางคนเสมอ ให้คอยสังเกตและเก็บหลักฐานทางบวก แล้วเราจะเปลี่ยนความรู้สึกลบให้เป็นบวกได้
6. ไม่จิตตกตามความจริงชั่วคราวตรงหน้า มีความสุขกับภาพเป้าหมายที่สำเร็จ
บางเวลาเราเหมือนจะพ่ายแพ้ ล้มเหลว ไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ทุกสิ่งที่เราพบเป็นแค่ความจริงชั่วคราว เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นอย่าไปทุกข์กับมัน!
อย่าเอาใจไปผูกไว้กับความจริงแย่ๆ ตรงหน้า แต่ให้เอาใจไปผูกไว้กับภาพความสำเร็จในอนาคตที่เราจะก้าวไปให้ถึง แล้วมีความสุขกับมัน เช่น แม้ตอนนี้เรายังไม่มีเงินพอซื้อบ้านหลังใหญ่ แต่เราก็ไม่ทุกข์กับบ้านหลังเล็กของเราในเวลานี้ เพราะใจเราแนบสนิทกับภาพบ้านหลังใหญ่ในฝันที่เราจะซื้อได้ในอนาคต เรามีความสุขกับภาพฝันของเรา เพราะเราจะใส่ความพยายามทำมันให้เป็นจริงในทุกๆ วัน
ใช้ชีวิตอย่างไม่ยอมจำนน ไม่ไหลตามสถานการณ์และคนอื่น พร้อมจะสวนกระแสตามที่ใจสั่งมา
เพราะนี่ ชีวิตเรา!
โฆษณา