4 มี.ค. เวลา 15:29 • การศึกษา

พระคุณภัทร (求那跋陀羅 ; 394-468)

ชาวอินเดีย วรรณะพราหมณ์ สมัยเด็กได้ร่ำเรียนสรรพวิชาห้าประการ จึงทำให้ท่านมีความชำนาญในดาราศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ และอาคมศาสตร์อย่างแตกฉาน ภายหลังได้มีโอกาสศึกษาพระอภิธรรม จึงทำให้ท่านมีความศรัทธาในพุทธศาสนานับแต่นั้นมา แต่ด้วยเพราะวงศ์ตระกูลที่อยู่ในวรรณะพราหมณ์ของท่านไม่ชอบพระภิกษุสงฆ์ ท่านจึงต้องหลบหนีออกจากบ้านไปแสวงหาอาจารย์ ครั้นต่อมาก็ละโลกใฝ่ธรรม บวชเรียนในพระพุทธศาสนา และมีความแตกฉานในพระไตรปิฎก
แต่หลังบวชเรียนไม่นานท่านก็หันมาศึกษาในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน จากนั้นก็จาริกธรรมไปที่เกาะลังกา และร่องเรือไปทางฝั่งตะวันออก ในครานั้นลมได้หยุดลงระหว่างที่เรือกำลังล่องอยู่กลางสมุทร แม้นผ่านไปหลายวันก็หาได้มีลมไม่ เมื่อนานวันเข้า น้ำจืดบนเรือเริ่มร่อยหรอ ผู้คนบนเรือจึงมีความวิตกกังวลอย่างที่สุด
ท่านจึงบอกกล่าวให้ทุกคนร่วมกันอธิษฐานถึงพระโพธิสัตว์กวนอิม เพียงมีใจศรัทธาบริสุทธิ์ จักต้องซาบซึ้งถึงพระองค์เป็นแน่แท้ หลังทุกคนร่วมสวดภาวนาได้ไม่นานก็มีลมพัดกรรโชกขึ้น พร้อมกับมีเมฆดำทมึนบันดาลสายฝนโปรยปรายลงมา จึงทำให้ผู้คนบนเรือได้รอดชีวิตทั้งหมด
เมื่อปีเอวี๋ยนเจียศกที่ 12 (ค.ศ.435) (元嘉十二) ท่านเดินทางถึงเมืองกวางเจา ครานั้นผู้ตรวจการได้ทูลฎีกาให้เบื้องบนได้ทรงทราบ ฮ่องเต้ซ่งไท่จู่ (宋太祖) จึงทรงแต่งราชทูตนิมนต์ท่านสู่วังหลวง ครั้นถึงวังหลวงแล้ว ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้พระฮุ่ยเหยียนและพระฮุ่ยกวน (慧嚴慧觀) ต้อนรับท่านที่ศาลาซินถิง เมื่อทุกคนได้เห็นลักษณะที่มีความผุดผ่องสว่างใสของท่าน ก็ยังให้ผู้พบเห็นต่างมีความเลื่อมใสอย่างน่าประหลาด ด้วยแม้นจะต้องสื่อสารผ่านล่ามแปลภาษา แต่ทุกคนต่างก็มีความปีติโสมนัสเสมือนได้คุ้นเคยกันมาช้านาน
ในสมัยแรก ท่านพำนักที่วัดฉีหวนซื่อ (祇洹寺) ฮ่องเต้ซ่งไท่จู่ทรงเคารพศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก ในเวลาไม่นาน ผู้คนจากทุกสารทิศต่างพากันมาเข้าพบ และในนั้นก็ยังมีท่านอุปราชเฉียวหวัง (譙王) ที่ได้ปวารณาตนเป็นศิษย์ของท่านอีกด้วย
1
ครั้งหนึ่ง อุปราชเฉียวหวังได้นิมนต์ให้ท่านบรรยายพระอวตังสกสูตร ท่านรู้สึกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยแม้นจะมีความแตกฉานในพระสูตรเป็นอย่างดีก็จริง หากแต่ท่านกลับไม่มีความสามารถที่จะถ่ายทอดพระสูตรเป็นภาษาจีนออกมาได้อย่างลึกซึ้ง จึงได้แต่กราบภาวนาต่อพระโพธิสัตว์กวนอิมทั้งเช้าค่ำ
ตราบกระทั่งคืนหนึ่ง ท่านฝันเห็นคนชุดขาวถือกระบี่เข้ามาหา พร้อมกับชูศีรษะลูกหนึ่ง ได้ถามขึ้นว่ามีความกังวลสิ่งใดฤๅ ท่านจึงบอกเล่าเรื่องที่กังวลให้ทราบ คนชุดขาวกล่าวว่ามิต้องกังวลใดๆ ครั้นกล่าวจบก็ชูกระบี่ตัดศีรษะของท่านคุณภัทร พร้อมกับเปลี่ยนศีรษะลูกใหม่ให้ จากนั้นก็สั่งให้หันหลังแล้วถามว่าเจ็บหรือไม่ ท่านคุณภัทรตอบว่ามิเจ็บแต่อย่างใด หากแต่รู้สึกจิตใจแจ่มใสมากกว่าแต่ก่อน หลังตื่นนอนแล้ว ท่านก็สามารถสาธกพระธรรมเป็นภาษาจีนได้อย่างน่าอัศจรรย์
ในเวลาต่อมา อุปราชเฉียวหวังวางแผนคิดคดก่อการกบฏ ครั้นได้พบกับพระคุณภัทร อุปราชเฉียวหวังสังเกตเห็นสีหน้าท่านเป็นกังวล จึงสอบถามซึ่งสาเหตุ พระคุณภัทรทักท้วงท่านทั้งน้ำตาว่า “สิ่งที่กำลังทำอยู่จะมิอาจสมประสงค์เป็นแน่แท้ อาตมาคงมิอาจร่วมติดตามท่านได้” ฝ่ายอุปราชเฉียวหวังมีความเชื่อมั่นในแผนการที่วางไว้ จึงได้บังคับให้ท่านร่วมเดินทางไปด้วย ปรากฏว่าทัพอุปราชแตกพ่าย เรือใหญ่จึงจึงต้องหันหัวเรือหลบหนี
พระคุณภัทรเห็นเรือเริ่มห่างไกลออกจากฝั่ง ในใจจึงได้แต่อธิษฐานขอพรต่อพระโพธิสัตว์กวนอิม จากนั้นก็ถือไม้เท้าไผ่กระโดดลงจากเรือ แต่แทนที่ท่านจะจมลงไปในน้ำ ท่านกลับสามารถยืนอยู่บนผิวน้ำ โดยที่น้ำสูงเพียงแค่หัวเข่าของท่านเท่านั้น พระคุณภัทรได้ลองใช้ไม้เท้าทิ่มลงไปข้างล่าง ปรากฏว่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์อันประหลาดนี้อยู่ ทันใดก็มีเด็กชายจูงมือท่านจากด้านหลัง ท่านเหลียวหลังมองไปที่เด็กชายคนนั้น ยังไม่ทันที่จะบอกว่า “เจ้ายังเล็กนัก จะช่วยข้าได้อย่างไร” ปรากฏว่าเพียงพริบตาก็เดินลิบลิ่วไปไกลถึงสิบกว่าก้าวแล้ว ไม่นานก็ถึงฝั่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านคุณภัทรกำลังจะนำผ้าจีจรมอบให้แก่เด็กน้อยเพื่อเป็นการตอบแทน แต่เด็กชายก็อันตรธานไปเสียแล้ว จึงได้ทราบว่าเป็นฤทธานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักคุ้มครอง
1
ในช่วงบั้นปลาย พระคุณภัทรพำนักที่วัดซีฉี่ซื่อ (西起寺) ทุกเที่ยงคืนมักจะมีคนเปิดประตูเรียกหา ครั้นออกไปดูก็ไม่ปรากฏผู้คนใดๆ ส่วนผู้อาศัยก็มักจะฝันร้ายอยู่เป็นประจำ ท่านคุณภัทรจึงปักธูปสวดคาถา พร้อมกล่าวว่า “อดีตชาติทุกคนคงจะอาศัย ณ ที่แห่งนี้ อาตมาได้ปฏิบัติธรรมอธิษฐานให้ทุกคนอยู่เสมอ หากประสงค์จะอยู่ก็จงเป็นเทพาอารักขาที่นี่ หากไม่ประสงค์จะอยู่ก็ขอเชิญตามที่สะดวกเถิด” ต่อมาได้มีทั้งพระและคฤหัสถ์ฝันเห็นดวงวิญญาณนับพันแบกหามสัมภาระจากไป และนับแต่นั้น ก็ไม่ปรากฏเหตุการณ์รังควานอีกเลย
ท่านพระคุณภัทรไม่เพียงแต่เป็นที่เคารพนับถือของฮ่องเต้ และพุทธศาสนิกชนอันมากมายเท่านั้น หากแต่ท่านยังได้แปลพระคัมภีร์ที่สำคัญอีกหลายฉบับอีกด้วย เช่น พระอาคมสูตร ลังกาวตารสูตร อมิตาวยูหสูตร เป็นต้น ทั้งนี้ ท่านยังได้เป็นแบบอย่างแห่งสมณะที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม ยังให้ผู้พบเห็นต่างบังเกิดจิตศรัทธาและพากเพียรปฏิบัติในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง จึงนับได้ว่า พระคุณภัทร เป็นพระไตรปิฎกาจารย์ที่มีบทบาทในพระพุทธศาสนาจีนที่สำคัญยิ่ง
โฆษณา