“เจ็บนี้อีกนาน…เจ็บช้ำไม่ลืม”

(5/1)
ตะวันออกกลางนั้น แม้จะมีบริเวณไม่ได้กว้างใหญ่โตมากมาย…
แต่ด้วยความที่เป็นบริเวณ ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรที่มีค่า
จำนวนมหาศาล อย่างน่าอิจฉา
เลยเป็นที่ต้องตาต้องใจ ของพวกบรรดาหมาไน
ที่เฝ้าคอยหาโอกาส เพื่อจะงาบเอาประเทศในตะวันออกกลาง
ไปเป็นเหยื่อของมัน มาเป็นเวลานานกว่าร้อยปีมาแล้ว
ถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่เลิกรา…เลยทำให้ตะวันออกกลาง
กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ…
ทั้งด้านทรัพยากร และด้านการเมืองระดับโลกไปด้วย
และตะวันออกกลาง …ก็เลยมีวิกฤติการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น
มาตลอดอย่างไม่เคยว่างเว้น …ไม่บ้านนั้นโดน…ก็บ้านนี้…
บางทีก็โดนไปทั้งแถบ
ทำให้ชาวตะวันออกกลาง ที่มีความโชคดี
ร่ำรวยทรัพยากรนั้น กลับไม่ได้มีความสงบสุขนัก
ความร่ำรวยมากไป บางทีก็นำความทุกข์มาให้นะครับ
ถ้าไม่สามารถจัดการดูแลปกป้องความร่ำรวยของตนได้
หรือ ไม่ทำ…
ตะวันออกลางนั้น เป็นที่รู้กันว่าอยู่ในความดูแลของ 2 เจ้าพ่อใหญ่
เจ้าพ่อทั้ง 2 …ต่างมีอำนาจและมีอิทธิพล
แยกกันคุมตะวันออกกลางอยู่คนละฟาก
เจ้าพ่อคนหนึ่ง …ชื่อกระฉ่อนว่าโคตรอภิมหารวยน้ำมันที่สุดในโลก
คือเจ้าพ่อซาอูฐ อิสลามสุหนี่ …ที่โผล่โฉมมาให้โลกรู้จัก
ในจังหวะแสนเหมาะ …คือ ช่วงที่น้ำมันกำลังเนื้อหอมฉุนโชยจัด
ก่อนการเกิดของสงครามโลกครั้ง ที่ 2 เพียงนิดเดียวเอง…
ทำเอาพวกหมาไนตะวันตก ต่างพยายามช่วงชิงกันเองอย่างน่าทุเรศ
เพื่อจะฉกเอาแดนซาอูฐไปอยู่แต่ใน”กำมือ” ของตัวเอง
แล้วหวยก็มาออกที่บ้านปากเหม็น…เพราะเทคนิคการทุ่มมันถึงใจ
หรือใจถึงกว่า …มันเลยรีบคว้าเอาซาอูฐ อุ้มอย่างรัดหรือล็อคแน่น
เอาไปไว้บนหิ้ง…สำหรับมันบูชาคนเดียว…คนอื่นไม่เกี่ยว
1
ซาอูฐ…ก็เลยกลายเป็นเจ้าพ่อใหญ่หมายเลขหนึ่ง…
ที่อยู่บนหิ้ง ของมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลก
ทรัพยากร บวก อำนาจ …ต่างเสริมส่งกันและกัน
กลายเป็นทุนที่มีอำนาจ และอำนาจที่มีทุน…
ใหญ่เบ้อเริ่มทั้งสองทาง …รวยกันจ้ำบ๊ะไปเลย
แต่ดูเหมือนการอยู่บนหิ้ง …แบบถูกขันน็อตตอกตะปูไว้เต็ม
เป็นเวลานาน(เกินไป?) …การเดินออกเดินเข้าหรือจะขึ้นลงจากหิ้ง
คงชักไม่ค่อยสดวกใจอย่างเดิม…แต่ครั้นจะเดินออก
เดินลงจากหิ้งไปเฉยๆ …ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วย
สำหรับเจ้าพ่อซาอูฐเหมือนกันนะ
เจ้าพ่อซาอูฐ …มีพรรคพวก เป็นพวกโคตรรวยน้ำมันด้วยกันหมด
คือ พวกเศรษฐีชาวอ่าว เช่น ยูเออี, การ์ต้า, บาห์เรน, คูเวต และ โอมาน
ที่ออกแนวสิงห์สำอางค์เกือบทั้งนั้น…ไม่มีเลยที่จะออกแนวบู๊
หรือเป็นนักรบ …แถมยังเป็นสายเปย์มือหนักอีกด้วย…
ก็เลยมักถูกพวกตะวันตก มันหลอกต้มให้ไปเป็นเจ้ามือ
ในเรื่องสักกะบวย…ที่พวกตะวันตกมันสร้างขึ้นมา…
เพื่อให้พวกตะวันออกทะเลาะ ทำลายกันเองอีกด้วย
ส่วนเจ้าพ่ออีกคนหนึ่ง… คือ เจ้าพ่ออิหร่าน อิสลามสายชีอ่ะ…
รวยน้ำมันและชื่อดังกระฉ่อน มาตั้งแต่ต้นสงครามโลกครั้งที่ 1
เจ้าพ่ออิหร่านก็เลยโดนพวกหมาไนทึ้งหนักกว่า …และนานกว่า…
เล่นเอาเจ้าพ่ออิหร่านอ่วมแล้วอ่วมอีก …
แต่ด้วยความโคตรอึดอดทน และมีความแหลมคม ซ่อนอยู่(แยะ)
ถึงจะโดนต้มโดนทิ้งโดนอัดอย่างไร …
เจ้าพ่อก็ยังกัดฟัน ประคองตัวให้รอดมาได้อย่างน่าทึ่ง
เพราะเจ้าพ่ออิหร่าน เป็นนักคิด นักวางแผน
และนักปฏิบัติการ ที่มองการณ์ไกล
เจ้าพ่ออิหร่าน แม้มีน้ำมันไม่อู้ฟู่ เท่ากับเจ้าพ่อซาอูฐ …
แต่เจ้าพ่ออิหร่าน ก็มีเรื่องน่าอิจฉาไม่น้อยทางด้านยุทธศาสตร์
จากทำเลที่ตั้งของประเทศตัว ที่มีบริเวณส่วนหนึ่งที่ได้เปรียบไม่เบาทีเดียว
คืออยู่ติดกับช่องแคบฮอร์มุส (Stait of Hormuz)
หรือ “จุดรัดคอ” ( choke point) …ที่สำคัญที่สุดในโลก …
วันนี้ใครที่สนใจการเมืองโลก แล้วไม่รู้จักช่องแคบนี้ ไม่ได้นะครับ
เดี๋ยวได้ถูกเชิญไปสังกัดกับคณะกรรมการง้าวอ่อน (ซอฟพาวเวอร์)
นอกจากนี้ เจ้าพ่ออิหร่านยังมีพรรคพวกอีกไม่น้อยเหมือนกัน
ซึ่งไม่ใช่เป็นพวกสิงห์สำอางค์ หรือสายเปย์…ไม่ใช่ทั้งนั้น …
แต่เป็นพวกชอกช้ำพังยับ…
จากการรุมทิ้งของพวกหมาไนตะวันตกนั่นแหล่ะ
คือ ซีเรีย, อิรัค, เลบานอน และ เยเมน
และยังมีกลุ่มต่อต้านพวกตะวันตก อีกเป็นพวง
เช่น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) กลุ่มฮามาส (Hamas)
กลุ่มฮูติ (Houthi) ฯลฯ
พรรคพวกของเจ้าพ่ออิหร่านทั้งหมดนั้น…
เป็นพวกใจถึงพึ่งได้…ใช้ของหนัก ของเบา ของบิน ฯลฯ
แม่นยำ…ได้ผลเสมอ
แบบนี้ ถ้าเจ้าพ่อทั้ง 2 …เขาจับมือกัน กระชับมิตรแบบแน่นสนิทใจกัน
คิดอะไรทำอะไรเพื่อ “ตะวันออกกลาง”…ของพวกเขา
ไอ้ 2 ชั่วกับพวก …ก็คงยากที่จะแทรกตัวเข้ามาในตะวันออกกลาง
และรายการ “เอาปั้ม ไม่เอาคน” …ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น
แต่ไอ้ 2 ชั่วมันแสนแสบ …มันเล่นปั่นหัวพวกตะวันออกกลาง
มานานหลายสิบปี จนพวกตะวันออกกลางมึนงง
แทบจะกลายเป็นจิ้งหรีด…หลงทางหลงผิดจนทะเลาะกันเอง …
และสองเจ้าพ่อ ก็เลยไม่รักกันอยู่นาน
มาบัดนี้ มีคู่แฝดมหัศจรรย์ ที่ผลัดกันเดินสายพูดคุย
กับเพื่อนร่วมโลก… ไม่ว่าจะอยู่ในบริเวณไหน
รวมทั้งตะวันออกกลาง …ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญมาก…
ชักชวนให้เพื่อนทั้งหลาย มาร่วมกันสร้างสัมพันธ์
และความเข้าใจระหว่างกัน…ในแนวทางใหม่ดีกว่า …
ไม่เอาแล้ว(โว้ย) ไอ้ระเบียบโลกเส็งเคร็ง
ที่กำหนดโดยไอ้พวกชั่วนั่น ที่มันรวมหัวกันเอาเปรียบ…
และรังแกพวกเรามานานเต็มทีแล้วนะ ยิ่ง 80 ปีหลังนี่ยิ่งหนักข้อ
พวกเรามาตั้งต้นกันใหม่ดีกว่า
เริ่มแรก…ด้วยการเป็นตัวของเราเอง
กำหนดกฏเกณฑ์กติกา เพื่อประโยชน์ของบ้านเราเอง
โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้นิ้วชี้ นิ้วกลาง ฯลฯ
ของพวกตะวันตกมันทุกเรื่อง !!
และ ดูเหมือน “การตั้งต้นใหม่” จะได้เริ่มแล้วอย่างไม่เป็นทางการ
แม้จะเหมือนไม่ดังเว่อเอิกเกริก อย่างการเปิดตัวหนังฮอลลีวู้ดก็ตาม
เพราะพวกสื่อตะวันตก มันไม่ตีข่าวให้ …
หรือตีอย่างเสียไม่ได้ จนคนอ่านไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องจริง
แต่มันได้เริ่มแล้วครับ …และกำลังเดินหน้าอย่างน่าสนใจ
แบบนี้ก็คงมีใครนอนครวญคราง …เจ็บนี้อีกนานทุกคืน ละมั้ง (ฮา)
และเราๆ ชาวเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ควรทำความเข้าใจให้ดี
อย่าตกข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนเแปลง ที่ได้เกิดขึ้นแล้วนี้…
โดยเฉพาะผู้มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองในตอนนี้
ไม่ว่าจะใส่ถุงตีนสีแดง หรือ สีอะไร …
(5/2)
เมื่อต้นปี คศ 2024 ซึ่งกลุ่ม BRICS + …ได้เชิญเอาเจ้าพ่อใหญ่
ทั้งสองคน ของตะวันออกกลาง มาเข้าร่วมอยู่ในกลุ่มด้วยกัน(ได้)นั้น
มันน่าตื่นตาตื่นใจ …จนมีใครนอนคราง เจ็บนี้อีกนาน…แล้วนั้น
ผมขอเน้นให้ท่านผู้อ่าน ทราบอีกทีว่า ยังมีผู้ที่เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก
ในกลุ่ม BRICS + ในรอบนั้นอีกหนึ่งราย …
ที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว คือ อียิปต์…
ซึ่งก็เป็นเจ้าพ่อใหญ่รุ่นเก่า หรือ รุ่นเก๋า ที่ไม่เคยตกรุ่นเลย …
เพราะเป็นเจ้าของ “คลองสุเอซ” ที่ยังคงอันดับความสำคัญอย่างมาก
ทางด้านยุทธศาสตร์การเมืองโลกที่น่าสนใจ เข้มข้นเหมือนเดิม
คลองสุเอซ… เป็นปากทางออก …ตำแหน่งเดียว
หรือจุดเดียว …สำหรับเรือบรรทุกสินค้า ที่จะออกจากทะเลแดง
เพื่อ “เข้าไป” สู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน…
ซึ่งเป็นบริเวณน่านน้ำ “สำคัญมาก” ของพวกยุโรป
ไม่ว่าทางด้านการค้าขาย หรือ การสัญจรไปมา
รวมทั้งเส้นทางเรือสำราญยอดฮิต ที่ทำรายได้ดีให้กับพวกยุโรป
และที่สำคัญ …เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำหรับกองเรือใหญ่
ของพวกตะวันตก ที่จะไปแล่นวนไปวนมา
หรือ ทอดสมอแอ็คท่า อยู่แถวนั้น
ถ้า…คลองสุเอซ เกิดใช้ไม่สะดวก …หรือ ไม่เปิดให้ใช้ !
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยอดฮิตของชาวยุโรป คงกร่อยสนิท
และ ถ้ามันเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
แหม… อร่อยแน่ครับ และคงได้มีใครอมยิ้ม หรือ หัวร่อ หึ หึ …
และคราวนี้คงไม่ใช่แค่ไอ้ 2 ชั่ว ที่ครวญครางทุกคืน
แต่จะมีลูกกระเป๋งพวงยุโรป ร่วมหอนเห่ารับกันทั้งวันอีกด้วย (ฮา)
กลุ่ม BRICS นั้น เน้นเรื่องการร่วมมือ ทางด้านเศรษฐกิจและพัฒนา
ระหว่างกัน และมีเป้าหมายว่าการค้าขาย ระหว่างสมาชิกในกลุ่ม
“ไม่จำเป็นต้องชำระ” ค่าสินค้าระหว่างกันด้วยเงินสกุลดอลล่าร์เท่านั้น
หรือสรุปง่ายๆ ว่า พวกเขากำลัง “จะโละทิ้ง” กระดาษสีเขียว
ตรานกอินทรี ให้หัวทิ่มถลาลงดินกันแล้ว
และมีทีท่าว่าจะมีการชิงดำ การเป็นหมายเลขหนึ่งทางเศรษฐกิจ
กับกลุ่ม G7 ของพวกตะวันตกเอาเสียด้วย
แบบนี้มันแปลว่าอะไรกัน …
เตรียมจะท้ารบ ทางเศรษฐกิจกันแล้วหรือยังไง
หรือเกินกว่าเรื่องเศรษฐกิจ ?!?
ผมเล่าไปแล้วถึงคุณ Bab …Bab al-Mandab “จุดรัดคอ”
ที่ทะเลแดง ซึ่งตอนนี้ น้องฮูติของผมกำลังซ้อมปาลูกดอกบิน
จนเรือบรรทุกสินค้า หลบไปใช้เส้นทางอ้อมแหลม Good Hope
ไปกันเกือบหมดแล้ว … และการส่งสินค้าผ่านเข้าหรือผ่านออกไปสู่ยุโรป
ที่เคยใช้เส้นทางผ่านทะเลแดง ไปออกคลองสุเอซ
ไปเข้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อไปถึงยุโรป… ก็เลยเป็นหนังเศร้า
เพราะค่าใช้จ่ายมันเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่าตัว
ทีนี้มาถึงเส้นทาง ที่สำคัญอย่างมากอีกราย
คือเส้นทางน้ำ ที่เริ่มต้นจากอ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf)
ซึ่งบริเวณด้านบนของอ่าวเปอร์เซีย ก็คือบ้านอิหร่าน
ส่วนบริเวณล่างของอ่าวฯ มีพวกประเทศที่ผมเรียกว่าชาวอ่าว
คือ คูเวต, บาห์เรน, การ์ต้า, ยูเออี และโอมาน อยู่เรียงรายกัน
เส้นทางน้ำจากอ่าวเปอร์เซีย …
จะไหลไปออกทางอ่าวโอมาน (Gulf of Oman)
เพื่อทะลุไปสู่ทะเลอาระเบียน (Arabian Sea)
แล้วจึงเข้ามาถึงมหาสมุทรอินเดีย
ที่จะมาถึงบ้านสมันน้อยนั่นแหล่ะ
ตรงช่วงเส้นทาง ก่อนจะออกไปสู่อ่าวโอมานนั้น
คือ ช่องแคบฮอร์มุส (Strait of Hormuz)…
หรือ จุดรัดคอ (choke point) ที่ “สำคัญ” ที่สุดในโลก …
ด้านบน ของช่องแคบฮอร์มุส คือ อิหร่าน
ด้านล่าง คือ โอมาน
ส่วนที่เป็น “ช่องแคบฮอร์มุส” มีความ ยาว 54 กิโลเมตร
แต่กว้างเพียง 3 กิโลเมตร สำหรับให้เรือบรรทุกสินค้า
แล่นสวนกัน ระหว่างขาเข้า กับขาออก
โดยมีระยะห่างกัน (buffer zone) ระหว่างขาเข้า กับขาออก
เพียง 1 กิโลเมตรนิดๆ เท่านั้น… หวาดเสียวน่าดู
เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลก !!!
พอนึกออกไหมครับ ว่าการเมืองโลกในตอนนี้
อาจทำให้ เส้นทางนี้ยิ่งน่า “หวาดเสียว” มากขึ้นขนาดไหน
(5/3)
รายงานล่าสุด ของ International Energy Agency หรือ IEA
(ปี คศ 2023) ได้แจกแจงข้อมูลที่น่าสนใจสรุปได้ดังนี้:
น้ำมัน
####
น้ำมัน …จำนวนประมาณ 20 ล้านบาเรล ต่อวัน (mb/d)
ขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุส
หรือประมาณ 30 % ของการค้าน้ำมันของโลกที่ขนส่งทางทะเล
ได้ขนส่งผ่าน …ทางช่องแคบฮอร์มุส
น้ำมันดังกล่าว มาจาก ซาอูฐ , ยูเออี, คูเวต, การ์ตา, อิรัค และอิหร่าน
และประมาณ 70 % ของน้ำมัน ที่ส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุส
ดังกล่าวข้างต้นนั้น …ส่งมายังประเทศในเอเซีย
ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ ก็ คือ… จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
มีน้ำมัน เพียงจำนวน 4.2 ล้านบาเรล ต่อวัน เท่านั้น
ที่ขนส่งผ่านทาง “ท่อส่ง” … เพื่อเลี่ยงการขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุส
โดยส่งผ่านท่อส่ง Fujairah ที่อยู่ตรงบริเวณรัฐ Fujairah
ของกลุ่มยูเออี ที่อยู่ติดกับโอมาน
ในกรณี ที่เส้นทางเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุส มีปัญหา…
ทางเลือก ก็คือ การส่งผ่านท่อส่ง
ซึ่งมีผู้ส่งน้ำมันทางเส้นทางนี้ เพียง 2 ราย เท่านั้น ที่มีท่อส่งน้ำมัน
รายหนึ่ง คือ ซาอูฐ …ที่มีท่อส่งน้ำมัน ไปออกทางทะเลแดง
อีกราย คือ ยูเออี ที่มีท่อส่งน้ำมัน ไปออกที่ท่าเรือ Fujairah
ของตนเองที่อยู่ตรงโอมาน
ท่อส่งของซาอูฐ นั้น ส่งน้ำมันได้ประมาณ
วันละ 7 ล้านบาเรลต่อวัน
ส่วนท่อส่ง Fujarah ของ ยูเออี ส่งน้ำมันได้ประมาณ
วันละ 6.5 ล้านบาเรลต่อวัน
สรุปว่าการขนส่งน้ำมัน จำนวน 20 ล้านบาเรล
ที่เคยส่ง “ทางเรือ” ผ่านช่องแคบฮอร์มุส เพื่อไปออกอ่าวโอมาน
โดยใช้เวลาขนส่งเพียง 1 วัน นั้น …
ถ้าเปลี่ยนเป็นการส่ง ผ่านท่อส่ง Fujairah
ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จึงมาออกอ่าวโอมาน
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นการส่งผ่าน “ทางท่อส่ง” ของ ซาอูฐ
เพื่อมาออกทะเลแดงนั้น … การขนส่งจำนวน 20 ล้านบาเรล
ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จึงจะถึงทะเลแดง
และจากทะเลแดง ถ้าจะไปทางเอเซีย …
ก็ต้องขนส่งผ่านทางช่องแคบคุณ Bab …มาออกอ่าวเอเดน …
เพื่อไปเข้ามหาสมุทรอินเดีย นับจำนวนวันไม่ถูกเลยครับ
(เฮ้ออ เหนื่อยแทน)
และถ้าเป็นการส่งน้ำมัน ไปให้พวกที่สนับสนุนหรือเป็นกลาง
ในเรื่องอิสราเอล/ปาเลสไตน์
ก็อาจต้องเสี่ยงภัย กับน้องฮูติของผมอีกด้วย
แบบนี้ ลุงบาบู กับ เจ้าแจ๊บ ก็คงเหนื่อยอีก
แต่การส่งไปให้อาเฮียของผม ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ
ส่วนถ้าเป็นน้ำมันของอิหร่าน …เรื่องการขนส่งไปทางเอเซีย
ก็ไม่มีปัญหามากมายอะไร เพราะอิหร่านมีเส้นทางส่งน้ำมัน
จากบ้านของตนเอง ไปให้ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของตัว …คือ จีน
คือขนส่งทางรถไฟ ผ่านเส้นทางสายไหม รุ่นใหม่ของจีน
หรือเส้นทาง BRI ซึ่งมีการคุ้มกันดูแลอย่างดี
น้ำมันดิบ
######
น้ำมันดิบ จำนวนประมาณ 16 ล้านบาเรลต่อวัน (mb/d)
(หรือ น้ำมันดิบจำนวน 40 % ของการค้าน้ำมันดิบของโลก)
ใช้การขนส่ง…ผ่านช่องแคบฮอร์มุส
ผู้ส่งไปขาย ก็คือ บรรดาประเทศชาวอ่าว
โดย อินเดีย และ จีน เป็นผู้ ซื้อรายใหญ่ ประมาณ 30 %
ที่เหลือ ส่งไป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และ ฯลฯ
เมื่อเกิดสงครามยูเครน …มีพวกประเทศยุโรป ได้มาซื้อน้ำมันดิบ
ด้วย และใช้วิธีส่งผ่านช่องแคบนี้ …ไปออกทางเส้นทางทะเลแดง
และในกรณี ที่เส้นทางผ่านช่องแคบฮอร์มุส มีปัญหา
การขนส่งน้ำมันดิบ … ก็จะเหมือนกรณีการส่งน้ำมันข้างต้น
คือต้องส่งผ่านท่อส่งเท่านั้น
และผู้มีท่อส่งนำมันดิบ ก็มี 2 รายเหมือนเดิม
คือ ซาอูฐ กับ ยูเออี
ท่อส่งของซาอูฐ สามารถส่งน้ำมันดิบได้ วันละ 5 ล้านบาเรล
ไปออกทะเลแดง
ท่อส่งของยูเออี …ที่เชื่อมต่อยาวมาทางภาคพื้นดิน
ไปสู่สถานีปลายทาง คือ Fujaira terminal
แล้วจึงส่งลงเรือบรรทุก ออกทางอ่าวโอมานนั้น
สามารถส่งน้ำมันดิบได้เพียง วันละ 1.5 ล้านบาเรลเท่านั้น
ส่วนข้อมูลจาก EIA (U.S. Energy Information Administration)
เกี่ยวกับเรื่องช่องแคบฮอร์มุส ก็ไม่ต่างจากที่ผมเล่าข้างต้นนัก
แต่มีเสริม เรื่องเกี่ยวกับอิหร่าน…
โดยบอกว่า อิหร่านเพิ่งทำพิธีเปิดท่อส่งใหม่เอี่ยมของตัว
ในปี คศ 2021 ช่ือ Goreh-Jask โดยมี terminal เก็บพักน้ำมันด้วย
1
ซึ่งท่อส่งนี้ ก็อยู่ติดกับบริเวณทางออกอ่าวโอมานนั่นแหล่ะ
โดยท่อส่งดังกล่าวของอิหร่านในตอนนั้น
สามารถส่งน้ำมัน ได้เพียงจำนวน 0.3 ล้านบาเรล ต่อวันเท่านั้นเอง
แต่มาบัดนี้ ดูเหมือนท่อส่งของอิหร่าน น่าจะส่งได้
ถึง จำนวน 3.5 ล้านบาเรลต่อวัน …ถ้าช่องแคบฮอร์มุส เกิดมีปัญหา
แหม… เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงคุณพี่อิหร่านเขาหรอก
ว่าเขาจะส่งน้ำมัน ไม่ว่าดิบหรือสุกอย่างไร ถ้าช่องแคบฮอร์มุส
เกิดมีปัญหา ถูกปิดเส้นทาง หรือ เส้นทางนั้น ไม่ปลอดภัย ฯลฯ
เอ็งควรเป็นห่วงพวกลูกกระเป๋งของเอ็ง มากกว่านะ …
ว่าจะอึดได้นานแค่ไหน และจะแก้ปัญหา เรื่องจุดรัดคอ
ที่อาจรัดแน่นแทบตายอย่างไร …
ยิ่งถ้า คนสั่งรัด เป็นเจ้าพ่อใหญ่ของแถบนั้น ?!?
เอ็งจะเอากองเรือที่ 5 ของบ้านเอ็งมาจัดการเหรอ…คงได้สนุกเละกันแน่
(กองเรือที่ 5 ของบ้านปากเหม็น มีศูนย์บัญชาการใหญ่
อยู่ที่ บาห์เรน นะครับ )
ถ้าการส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุส “เกิดชะงักงัน” เป็นเวลานาน
และท่อส่งออกไปทางทะเลแดงรองรับไม่ไหว …
รวมทั้งท่อส่ง Fujairah ก็ส่งได้จำนวนกระปริบกระปรอย
คราวนี้หายนะของจริง ก็อาจเกิดขึ้นได้ถ้วนหน้า
ยกเว้นประเทศที่สต็อกน้ำมันเอาไว้ล่วงหน้าเป็นจำนวนมากแล้ว
เช่นบ้านอาเฮียของผม…
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคเอง …พวกที่มีมาก
ก็คือประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางเอง …โดยเฉพาะบ้านซาอูฐ
ที่เขาว่าตอนนี้ ก็ไม่ได้มีมากอย่างที่คิด …หรือมีมาก แต่ เม้มตัวเลข !?!
เพราะอะไรหนอ ?!?
และ ข้อมูล ของ EIA ยังสรุปว่า ซาอูฐ นั้น เป็นผู้ส่งน้ำมัน
ทั้งดิบสุกแปรรูปรวมกันแล้ว มากกว่าประเทศใดๆ ในโลก
และส่งออกทาง ช่องแคบฮอร์มุส มากที่สุดด้วย
แม่เจ้าโว้ย … พวกไอ้ปากเหม็นนี่ มันมีวิธีให้ข้อมูล
แบบ ดักคอ เสี้ยม หรือ วางยา ได้ลึกร้ายกาจมาก …
แบบนี้คุณพี่อิหร่าน จะกล้าทำร้ายมหามิตรที่เพิ่งจับมือคืนดีกันไหม
ฮอร์มุสต้องรอดจากการถูกรัดคอสิ ไม่งั้น เจ้าแจ๊บ เจ้ากิมจิ เหนื่อยแน่
ถ้าไอ้ลูกกระเป๋ง 2 ตัวเหนื่อย …ลูกพี่ใหญ่ของมัน ก็เหนื่อยด้วย
เลยต้องทิ้งลูกดักเอาไว้
แก๊สธรรมชาติ
#########
การ์ต้า คือ ผู้ส่งออกแก๊สธรรมชาติรายใหญ่ อันดับ 2 ของโลก …
คือ ส่งออกประมาณปีละ 90 - 120 ล้านบาเรล
(รองจากอันดับ 1 คือ รัสเซีย … ที่ส่งออกประมาณ
ปีละ 210 ล้านบาเรล โดยรัสเซียส่งผ่านท่อส่งของตนเอง
ไม่ต้องเดือดร้อน ว่าใครจะถูกบีบคอแรงขนาดไหน ตรงไหน
เว้นแต่ผู้ซื้อ …ดัน(เสือก)โง่ บีบคอตัวเอง เช่นพวกอียู )
ส่วน ยูเออี ส่งออกแก๊สธรรมชาติ เพียง 5.5 ล้านบาเรล
ในช่วง มค- ตค ปี คศ 2023 มีการขนส่งแก๊สธรรมชาติ
ผ่านช่องแคบฮอร์มุส ประมาณ 90 ล้านบาเรล
หรือ 20% ของการค้าแก๊สธรรมชาติในโลก
ตลาดใหญ่ของ การ์ต้า กับ ยูเออี …คือ เอเซีย
ประมาณ 80% ของการส่งแก๊สธรรมชาติ ที่ส่งผ่าน
ช่องแคบฮอร์มุส…ปลายทาง คือ เอเซีย
อีก 20 % ไปยุโรป
ถ้าการส่งแก๊สธรรมชาติ ที่ส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุส
ถูกกระตุก หรือถึงกับถูกรัดคอ…
มันคือ หายนะ ของ การ์ต้า และ เอเซีย
เพราะ การ์ต้า ไม่มีเส้นทางอื่นรองรับ
แบบนี้ การ์ต้า ก็คงจะคิดมากไม่น้อย
ลูกค้ารายใหญ่ ของการ์ต้า คือ อินเดีย บังคลาเทศ และปากีสถาน
ซึ่งใช้แก๊สของการ์ต้า ประมาณ 70 % ในการกิจการไฟฟ้า
และ อุตสาหกรรม (และส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุสเท่านั้น)
แหม ทำไมลุงบาบูของผม ติดโผ “ว่าที่” หายนะ หลายเรื่องเลยนะ
คิดใหญ่ทำใหญ่ เกินตัวหรือเปล่าลุงบาบู
พอเห็นความสำคัญของช่องแคบฮอร์มุส
ว่าทำไมเป็นจึง “จุดรัดคอ “ จริงไหมครับ
และ พอเห็นความสำคัญของเจ้าพ่ออิหร่าน
เกี่ยวกับจุดรัดคอ นี้ ไหม ครับ
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
4 มีนาคม 2567
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
โฆษณา