5 มี.ค. เวลา 17:29 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาพรวม Mar 5, 2024

สำหรับบทความประจำวันนี้เฮียขอเข้ามาเขียนใหม่นะครับเนื่องจากบทความก่อนหน้านี้มีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้กลั่นกรองมาก่อนจึงทำให้คนอื่นสับสนและสร้างความวิตกโดยไม่จำเป็น 🥺 ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่เกิดความผิดพลาด
ภาพรวมตลาดวันนี้มีการลงมาทดสอบระดับ 1,352 จุดที่เป็นจุดต่ำเป็นครั้งที่ 3 ส่วนตัวเฮียกำลังรอการยืนยันภาพนี้เพื่อจะให้เป็น Triple Bottom แต่ดูจากทรงที่ DJIA มีการลงแรงขนาดนี้ในตอนนี้แล้วต้องบอกเลยว่าพรุ่งนี้ตอนเปิดอาจจะเป็นแล้วเซ
เมื่อดูจากกราฟระดับ TF15mins ที่เฮียฝากมาให้ในท้ายบทความวันนี้ เราจะเห็นเลยว่ากราฟมีการบีบอัดมาจนถึงท้ายตลาดและรอเลือกทางในเช้าวันพรุ่งนี้ 😱 ซึ่งหากถ้าเราตีความจากตลาดต่างประเทศในตอนนี้แล้วต้องบอกว่าโอกาสรอดมีไม่เยอะครับ
เฮียมีอธิบายภาพการลงของตลาดรอบนี้ทาง Clubhouse นะครับ หากการลงเป็นการโรยตัวลง(ซึมลง ไม่หนัก) เราขอให้ดูทรงการซึมว่าจะลงไปได้ขนาดไหน เราอยู่ในฝ่ายไม่กลัวการซึมลงในรอบนี้นะครับเพราะตลอดช่วงที่ SET ลงมา 40 จุด เราเห็นแล้วว่าการลงรอบนี้ไม่ใช่การลงแบบทั้งกระดานแต่เป็นการเลือกขายเฉพาะกลุ่มที่อ่อนแอ
มาถึงภาพที่เราไม่อยากให้เกิดกันบ้างคือการลงแบบแรง หรืออาจจะเกิด Panic Sell ซึ่งเราให้น้ำหนักภาพนี้ไม่เยอะมาก แต่ต้องยอมรับว่าตลาดรอบนี้ทำให้เราประหลาดใจหลายอย่างมากๆ ดังนั้นการลงแรงจึงบีบให้เราต้องลดพอร์ต แต่การลดพอร์ตรอบนี้เฮียขอแยกหุ้นออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
กลุ่มแรกคือหุ้นที่้ยังไงก็ควรขายออกไปจากพอร์ต หุ้นกลุ่มนี้จะเป็นหุ้นที่ผลประกอบการอ่อนแอ และเป็นหุ้นกลุ่มที่ถูก corner ขึ้นไปสูงๆในรอบที่แล้วเช่น EA, กลุ่ม JMART, DITTO และพระเอกตลอดกาลอย่าง DELTA ดังนั้นหาก SET ทำทรงหลุด 1350 ลงมาในวันพรุ่งนี้ เฮียคิดว่าคนที่มีหุ้นพวกนี้อยู่ในมือถ้าไม่เด้งขึ้นเลย ก็ควรขายออกมาบางส่วนหรือทั้งหมดแล้วถือเงินสดไว้รอรับใหม่ที่แนวรับ
กลุ่มที่สองคือหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงขายต่างชาติ หุ้นกลุ่มเหล่านี้เฮียคิดว่าไม่จำเป็นต้องขายทิ้งทั้งหมด แต่หากเราถือไว้เต็มจำนวนที่อยากได้ ในกรณีที่ไม่ต้องการเร่งความเสี่ยงให้มากเกินไป เฮียเสนอว่าหุ้นพวกนี้เราสามารถลดจำนวนลง 50% แล้วหากหลุดลงไปจริงๆ ให้กลับเข้าซื้อใหม่อีกรอบ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลงตามที่เรา Short against port ลงมา
ดังนั้นการหลุด 1350 ในวันพรุ่งนี้ การขายจะเป็นขายแบบ Selective Sell โดยเน้นไปที่กลุ่ม Leasing ที่ยังไม่มีแววฟื้นตัวอย่างรุนแรง(ยกเว้น MTC), กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หรือหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ยังดูแล้วยังลงไม่สุด แต่กลุ่มที่เราควรระวังสุดขีดคือหุ้นที่อยู่โซนจ่อหลุดแนวรับใหญ่ทั้งหมด หุ้นเหล่านี้หากหลุดขึ้นมาจริงๆให้ถอยมายืนดูก่อน
เรามีมุมมองว่าถ้าตลาดไม่ Panic (ซึ่งเราคิดว่าไม่น่าลงแรงๆ) ตลาดช่วง 1-2 อาทิตย์นี้น่าจะซึมอยู่ในกรอบ 1340-1370 ไปก่อน หรือแม้แต่การลงแรง ก็จะดีดกลับมาด้วยความรวดเร็วอยู่ดี ดังนั้นการขายหุ้นบางส่วนจึงเป็นเพียงการลดความเสี่ยงเท่านั้น
คนที่เข้ารายการ Clubhosue จะพอทราบมุมมองเฮียนะครับว่าในช่วงปลายไตรมาส 2 หลังจากที่รัฐบาลเริ่มใช้จ่ายผ่านกลไกทางงบประมาณ​(Government Spending) แล้ว เรามีมุมมองที่ดีขึ้นมากต่อการเคลื่อนตัวผ่านจุดต่ำสุดทางเศรษฐกิจ จุดหักเหอาจจะเป็นแนวโน้มตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ที่ควรจะเร่งตัวขึ้นจากระดับ 1.7% ได้พอสมควร โดยทั้งปีเฮียมองว่า GDP ประเทศไทยควรโตในระดับ YoY ได้แบบมีนัยยะ
หุ้นที่เฮียยังสนใจยังคงเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการกลับตัวและมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง เช่นกลุ่มสายการบินที่เราตามมาเรื่อยๆ, กลุ่มประกันชีวิตบางตัวที่เฮียเริ่มแนะนำให้ลูกค้าซื้อมาซักพักแล้ว, หุ้นกลุ่มยางพาราเป็นกลุ่มที่เฮียมองโอเคมากนะครับ โดนขายลงมาเยอะ ไม่ค่อยน่ากลัว จุดคัทชัดเจน
หุ้นเก็งกำไรมีมาเรื่อยๆเลยนะครับทั้งหุ้นที่เฮียลงรูปไว้เมื่อเช้า, หุ้นโรงพยาบาลขนาดเล็ก(ตัวนึงวิ่งไปแล้ว อีกตัวน่าจะวิ่งแรงเร็วๆนี้) หุ้น IPO ที่เพิ่งเข้าตลาดบางตัวก็ทรงสวยครับ ยังน่าเก็งกำไรต่อไปได้อีกซักพัก หุ้นพวกนี้มีแนวโน้มไม่ตามตลาดมาซักพักแล้ว เล่นได้ครับแต่ต้องมีวินัยสูงหน่อยในช่วงตลาดรวมยังดูอ่อนแอ
เฮียยังอยู่ในฝ่ายที่ยังซื้อเล่นในตลาดเรื่อยๆทุกวันนะครับ ตลาดรอบนี้หากเราไม่ได้เล่น S50 ต้องตอบเลยว่าตลาด “เล่นได้ และมีตัวให้เล่นทุกวัน” เพียงแต่การเล่นหากเราซื้อผิดจังหวะก็ต้องมีวินัยแล้วคัทหนีให้ทัน ไม่ว่าตลาดจะ 1350 หรือ 1900 จุด เฮียคิดว่านักลงทุนรายย่อยจำเป็นต้องเจอสภาพการเล่นรอบ และมีจุดตัดขาดทุนที่ชัด ดังนั้นแม้ว่าจะเชียร์ให้เล่นบางตัวแต่ถึงจุดยอมก็ต้องยอมครับ
โฆษณา