8 มี.ค. เวลา 11:47 • ท่องเที่ยว

นาขั้นบันไดหยวนหยาง .. มรดกโลกแห่งยูุนนาน

หยวนหยาง .. เป็นเมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชัน มีพื้นที่ราบน้อย ดังนั้น การทำการเกษตรทั้งหลายจึงเป็นการเพาะปลูกอยู่บริเวณไหล่เขาและเนินเขา
นาขั้นบันไดหยวนหยาง (Yuanyang Rice Terraces) หรือ “นาข้าวขั้นบันไดฮานิ” ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูเขาไอเหลา(哀牢山) บนฝั่งทางใต้ของแม่น้ำหง บริเวณเขตเมืองหยวนหยาง(元阳县) ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน
.. โดย พื้นที่ของนาขั้นบันไดหยวนหยางนั้นมีบริเวณกว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่หลายหุบเขา โดยมีเนื้อที่กว่า 2,200 ตารางกิโลเมตร
.. ว่ากันว่าหากขึ้นไปบนเขาแล้วมองลงมาจะเห็นนาขั้นบันไดจำนวนกว่า 3,000 ขั้นเป็นลายเส้นเต็มหุบเขา
… ซึ่งถือเป็นทัศนียภาพอันงดงามและเป็นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัส
ประวัติความเป็นมาของระเบียงนาแห่งนี้ มีมายาวนาน ...พื้นที่ทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ 1,000,000 เอเคอร์ใน 4 มณฑล ได้แก่ หยวนหยาง หงเหอ จินปิน และหลู่ชุน แม้ว่าพื้นที่หลักของระเบียงจะตั้งอยู่ในเทศมณฑลหยวนหยางก็ตาม
พื้นที่บริเวณนาขั้นบันไดหยวนหยางนี้เป็นเป็นที่ตั้งถิ่นฐาน มรดกตกทอดทางวัฒนธรรม และ วิถีชีวิตที่สืบทอดกันมาในรุ่นต่อรุ่น จากบรรพบุรุษของชาวเผ่า “ฮานิ” (哈尼族)
โดยย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อน บรรพบุรุษของชาวเผ่าฮานิได้อพยพย้ายถิ่นฐานจากดินแดนทิเบตมายังบริเวณเมืองหยวนหยางแห่งนี้ แต่ต้องประสบกับปัญหาใหญ่ในการดำรงชีวิต คือพื้นที่บริเวณนี้เป็นภูเขาสูงไม่เหมาะแก่การทำการเพาะปลูก
ชาวเผ่าฮาหนีก็ได้คิดค้นระบบชลประทานขึ้นโดยกั้นหินให้เป็นเป็นกำแพงย่อมๆค่อยๆกั้นพื้นที่ในแต่ระดับความสูงของหุบเขา จนทำให้พื้นที่ในความสูงในแต่ระดับแบ่งตัวเป็นชั้นๆ และสามารถทำการเกษตรกรรมได้..
จากนั้นก็ได้ทำการทดน้ำจากภูเขาไหลเข้ามายังพื้นที่เพาะปลูก จนสามารถทำการเพาะปลูกพันธุ์พืชต่างๆได้ พื้นที่ในโซนภูเขาไอเหลานี้ก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงจนเป็น “ผลงานศิลปะ” ในกาลต่อมา
เมื่อเวลาผ่านไป .. พื้นที่นาขั้นบันไดก็ได้ค่อยๆ ขยายบริเวณจนกว้างใหญ่ดั่งเช่นในปัจจุบัน ..
ในปี 2013 พื้นที่ 16,603 เฮกตาร์ของนาข้าวขั้นบันไดหงเหอฮานีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้แสดงถึงความสมดุลระหว่างการเกษตรกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นที่โดดเด่น มีระบบนิเวศวิทยาทางสังคมที่เป็นเอกลักษณ์ และยังแสดงถึงการสอดประสานระหว่างบุคคลกับชุมชนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
จากประตูหลัก - เมืองซินเจี๋ย (新街镇) พื้นที่ชมวิวนาข้าวขั้นบันไดหยวนหยางอันกว้างใหญ่สามารถแยกออกเป็นหลายส่วนได้ และสำหรับนักท่องเที่ยว
ทิวทัศน์ที่ดีที่สุดสามารถพบได้ที่ นาข้าวขั้นบันไดเลาหูซุย (老虎嘴梯田), นาข้าวขั้นบันไดดูยีชู (多依树梯田) และนาข้าวขั้นบันไดบาดา (坝达梯田) นอกจากระเบียงแล้ว หมู่บ้านเล็กๆ แต่น่ารักเหล่านั้นที่มีบ้านทรงเห็ดกระจายอยู่ระหว่างนั้น ยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่ควรไปเยี่ยมชมอีกด้วย
ในบรรดา 5 แหล่งนาข้าวขั้นบันไดในโลกที่องค์การยูเนสโกยอมรับให้เป็นมรดกโลกรวม นาข้าวขั้นบันไดหงเหอฮานีในยูนนานซึ่งมีนาข้าวขั้นบันไดหยวนหยางเป็นแกนกลาง เป็นเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่เราจะพบเห็นได้ในประเทศจีนอันกว้างใหญ่
นาข้าวขั้นบันได Duoyishu - จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุด
นาข้าวขั้นบันไดดูยีชู (多依树梯田) อยู่ห่างจากเมืองซินเจี๋ยไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 23 กม.
แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของนาขั้นบันไดหยวนหยาง แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ไอชุน (爱春), ต้าวาเจ๋อ (大瓦遮) เป็นต้น
ระเบียงนาทั้งหมดที่เราเห็น ได้รับการสลักเสลาตามเส้นขอบดั้งเดิมของภูเขา ทำให้เกิดเป็นภูมิทัศน์อันงดงาม!
แม้ว่าสีของทุ่งนาขั้นบันไดหยวนหยางจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดทุกฤดูกาล .. แต่ช่วงที่สวยที่สุดน่าจะเป็นช่วงก่อนและหลังวันตรุษจีน เพราะจะมีการปล่อยน้ำ และ ทดน้ำเข้าทุ่ง
ในเส้นสายตาที่เรามองออกไป .. จะเห็นเป็น ทุ่งนาขั้นบันไดจากภูเขาลูกต่างๆ ที่แบ่งเป็นชั้นๆไล่ระดับลงมาสุดลูกหูลูกตา
เมื่อดวงอาทิตย์พ้นของภูผา แสงสีส้มเหลือง แดง ทอง ที่สาดส่องลงมา ทำให้ทิวทัศน์ที่สายตาเรามองเห็นมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านสีสัน
Yuanyang Rice Terraces .. จึงเป็นความฝันของช่างภาพและผู้รักการถ่ายภาพ ด้วยขนาดของระเบียงนาที่กว้างขวางเหนือชั้น สีสันอันงดงาม และรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมเอฟเฟกต์ของแสงธรรมชาติ
การมาเที่ยวที่นาขั้นบันไดหยวนหยางของเราในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ .. มีเป้าหมายหลักในการไปเก็บภาพในช่วงอรุณรุ่ง เพื่อให้ได้แสงอาทิตย์สวยๆที่ตกกระทบกับน้ำในช่วงที่เมื่อทุ่งนามรดกโลกเต็มไปด้วยน้ำ
.. ระเบียงนาสันหลังมังกรที่พลาดไม่ได้ในการมาเยือน หยวนหยาง และไม่มีอะไรจะน่าทึ่งไปกว่าการได้ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่แล้ว!
(แม้จะต้องแย่งชิง กระทบกระทั่งกันบ้างกับคนจีน จากการที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง และความแตกต่างระหว่างหลายสิ่ง)
นาข้าวขั้นบันไดบาดา (坝达梯田) Bada Rice Terraces
นาข้าวขั้นบันไดบาดา .. ตั้งอยู่ระหว่างทางขับรถจากเมือง Xinjie ไปยัง Duoyishu โดยมีระยะทางขับรถประมาณ 15 กม. ไปยังเมือง Xinjie และ 8 กม. ไปยัง Duoyishu ลานลาดที่ยาวที่สุดจะพบได้ที่บาดา
ด้วยภูมิประเทศที่ขรุขระเป็นภูเขาและปริมาณน้ำฝนที่สูงในแต่ละปีนำไปสู่การสร้างระบบนาขั้นบันไดที่ซับซ้อนสำหรับการปลูกข้าว เช่นเดียวกับระเบียงนาในที่อื่นๆ
.. มีนาขั้นบันไดมากกว่า 3,000 แห่งระหว่างขอบป่าและพื้นหุบเขา ช่องทางชลประทานและชั้นหินอุ้มน้ำเทียมที่ทำจากหินทรายกระจายน้ำไปทั่วภูมิทัศน์ ระบบนี้ได้รับการบำรุงรักษาและดำเนินการโดยชาวฮานีมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1,300 ปี การเพาะปลูกข้าวเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรม ฮานี เทววิทยา ปฏิทิน และระบบการเมือง
ระเบียงนา .. มีโครงสร้างแนวตั้งที่โดดเด่นซึ่งทำให้ภูมิทัศน์คงอยู่ได้นาน โดยผสมผสานป่า หมู่บ้าน ระเบียงนา และแหล่งน้ำ บนยอดเขา (ที่ระดับความสูงมากกว่า 2,000 เมตร)
.. ป่าไม้ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เพื่อทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำและเพื่อ "เติมพลัง" ให้กับทุ่งนาและระเบียงด้านล่าง ระบบคลองและคูน้ำที่ซับซ้อนเพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำลงสู่ระเบียงเบื้องล่าง
.. หมู่บ้านในภูมิภาคนี้มักจะสร้างขึ้นใต้ป่า ระหว่าง 1,400 ถึง 2,000 ม. ในแหล่งมรดกโลก หมู่บ้าน 82 แห่ง แต่ละหมู่บ้านมี 50-100 ครัวเรือน ได้รับการคุ้มครอง อาคารเหล่านี้มักทำด้วยอิฐดิบและหิน แต่ละครัวเรือนจะมีแปลงระเบียงหนึ่งหรือสองแปลงด้านล่าง มักจะปลูกข้าวแดงและเลี้ยงโค
ว่ากันว่า .. ด้วยโลเคชั่นของระเบียงนาที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก จึงทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุด (ทริปล่าสุด เราไม่ได้รอชมพระอาทิตย์อัสดงที่นี่)
ณ จุดชมวิวนาข้าวขั้นบันไดบาดา เราได้เห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาของนาข้าวขั้นบันไดหยวนหยางที่อลังการมากใรสายตาที่เฝ้ามอง
นาข้าวขั้นบันไดเลาหูซุย (老虎嘴梯田)
นาข้าวขั้นบันไดเลาหูซุยหรือที่รู้จักกันในชื่อ “นาขั้นบันไดปากเสือ” .. ประกอบไปด้วยพื้นที่ “เหมิ่งผิ่น-勐品”, “ต้งผู่-硐浦”.. “อาเหมิ่งค้ง-阿勐控” และ “เป่าซานไจ้-保山寨” รวมเนื้อที่กว่า 3000 ไร่ ตั้งแต่จุดที่เรียกว่าปากเสือจนไปถึง แท่นชมวิว
บรรยากาศ 4 ด้าน จะมี 3 ด้านที่เป็นทุ่งนาขั้นบันไดเรียงรายออกไปในลักษณะสูงต่ำสลับกัน และว่ากันว่า ในตอนที่พระอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้าไปนั้น สี่ของทุ่งนาจะค่อยๆเปลี่ยนไปตามการสะท้อนของระดับขั้นสูงต่ำของทุ่งนาเป็นสีสันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์
“นาขั้นบันไดปากเสือ” โดดเด่นในฐานะนาข้าวขั้นบันไดที่สูงชัน ยิ่งใหญ่ที่สุด ความสูงต่ำลดหลั่นกันไป และงดงามที่สุดในหยวนหยาง มีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ที่สามารถสะกดผู้คนได้ เป็นจุดศูนย์กลางของทุ่งนาขั้นบันไดของชาวเผ่าฮานี
ลักษณะภูมิประเทศของเมืองหยวนหยางส่วนมากจะเป็นภูเขาที่มีลักษณะตั้งสูงชัน ..
ระเบียงนาขั้นบันไดทจึงอยู่ตามไหล่และเนินเขา .. ความชั้นของนาขั้นบันไดหยวนหยางจะมีองศาความชันอยู่ที่ 15-75 องศา
จุดที่สูงที่สุดของทุ่งนาขั้นบันไดหยวนหยางจะมีความสูงถึง 3000 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็นในบรรดาทุ่งนาขั้นบันไดทั่วโลก
ถึงแม้ว่าทุ่งนาขั้นบันไดหยวนหยางจะมีที่มาตั้งแต่สมัยอดีตอันไกลโพ้น, แต่ว่าทุ่งนาขั้นบันไดของชนเผ่าฮานีก็ยังมีระบบนิเวศน์ที่อุดมสมบูรณ์และยังได้รับการพัฒนาต่อมาตามยุคสมัย :
ด้านบนของค่ายหมู่บ้านเป็นป่าอนุรักษ์อันอุดมสมบูรณ์ และมีการปลูกทดแทนส่วนที่ใช้ทำฝืนและถ่าน เพื่อเป็นต้นกำเนิดของทรัพยากร
.. ในวันที่เราไปเยือน นาข้าวขั้นบันไดเลาหูซุย ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนามากจนแทบมองไม่เห็นระเบียงนา
แต่ระหว่างทางเดินลงไปชม มีดอกไม้สีสวยให้ชมตลอดแนวทางเดิน
.. มีเทอเรซ และพร๊อพสวยงามของสถานที่ให้ถ่ายภาพ
เราแวะเก็บภาพส่วนหนึ่งของระเบียงนาข้างทาง ความสวยงามมีไม่น้อยค่ะ
***ภาพเมื่อหลายปีมาแล้ว ช่วงที่ไปรอถ่ายภาพที่ระเบียงนาปากเสือ ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน .. ระเบียงนาขั้นบันไดสวยงามมากมายในสายตา
ด้านล่าง คือทุ่งนาขั้นบันไดที่กว้างใหญ่ไพศาลที่เป็นพื้นที่ในการทำการเกษตรกรรมเพื่อเลี้ยงมวลเหล่าชีวิตของชนเผ่าฮานี ;
ในระดับความสูงเดียวกันกับหมู่บ้านหรือในตัวหมู่บ้าน ชนเผ่าฮานีก็ได้ทำการเพาะปลูกและเลี้ยงเห็ดพันธุ์ต่างๆ เพิ่มเติม
สิ่งเหล่านี้เป็นวิถีชีวิตที่มีความสงบสุขของชนเผ่าฮานี เป็นวิถีชีวิตที่อาศัยพึ่งพาและช่วยเหลือเกื้อกูลกับธรรมชาติ
โดยถูกเรียกเป็น “ปัจจัยสำคัญทั้ง 4” แบ่งเป็น 1 ธารน้ำหงเหอ 2 ป่าไม้ 3 หมู่บ้าน 4 ทุ่งนาขั้นบันได เป็นระบบที่หมุนเวียนในการเกื้อกูลกันระหว่างชาวเผ่าฮานีกับธรรมชาติ
การมาชมระเบียงนาที่นี่ จึงทำให้เราได้ชมนาข้าวขั้นบันไดที่ยิ่งใหญ่ ใต้ก้อนเมฆปกปุย ในช่วงที่มีทะเลหมอก นั้นยังมีทุ่งนา อันเป็นเป็นทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ใจมาก
ว่ากันว่า .. จากจุดสูงสุดของนาข้าวขั้นบันไดเลาหูซุย ในวันที่ท้องฟ้าเปิด เราสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามคล้ายดอกไม้สีขาวบานสะพรั่ง
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ระเบียงจะเปลี่ยนจากสีฟ้าใสที่สะท้อนสภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นสีทองที่เปล่งประกาย
เมื่อแสงแดดสาดส่อง นาข้าวจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดอกกุหลาบ และสีแดงเข้มอย่างรวดเร็ว
ที่นี่ เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดิน .. มีการสร้างจุดชมวิวขนาดใหญ่หลายชั้นขึ้นที่นี่ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
มีเทอเรซให้ชมวิวและถ่ายภาพ .. แต่เหล่สาช่างภาพต้องการได้มุมที่นาข้าวสวย .. น่ากลัวตกเขาเหมือนกัน
โฆษณา