“The Walls of team performance from WFH/WFA”
วันก่อนมีโอกาสประชุมกับน้องๆ บางทีม พบข้อคิดเห็นที่ตกใจสำหรับผม คือ น้องๆ ทำงานร่วมกันในหลักการของ squad มาสักปีนึงได้แล้ว (Squad = คำนิยามของกลุ่มคนที่มาพัฒนา products ประกอบด้วย คนทำหน้าที่ product, คนทำหน้าที่ dev, คนทำหน้าที่ทดสอบ, คนทำหน้าที่ออกแบบประสบการณ์ลูกค้า เป็นต้น) เรามีการปรับให้เขารู้จักการทำงานที่เป็นรอบ (Iteration) และทำ software ให้มีช่วงที่ไปคุยกับลูกค้า sync กับลูกค้าเพื่อให้ได้ feedback บ่อยๆ
โดยมาก company ก็จะจัดให้มี workshop จำลองการทำงาน ซึ่งขอไม่กล่าวถึง แต่กล่าวถึง feedback ที่ทีมงานบอกประทับใจที่สุดคือ “เป็นครั้งแรกนับปีที่ทีมได้เจอหน้ากันจริงๆ เพราะเดิม บางคนอยู่ต่างจังหวัด ไม่เคยได้มีโอกาสพบกันเลย หรือเวลาคุยกันออนไลน์ก็เป็นแค่หน้ารูป Avartar หรืออักษร ดังนั้น มันไม่ไหลลื่น เหมือนพอเรารู้จักกันแล้วความสัมพันธ์ก็ดีขึ้น…”
ทำให้ทราบว่าการทำงาน ที่เราต้องเน้น “สร้างสัมพันธ์และไว้เนื้อเชื่อใจ คนที่เป็นคนวางกรอบ หรือหัวหน้าจะต้องมองเห็นรายละเอียดและจัดสภาพแวดล้อมด้วย…เพราะว่าแค่ทีมงานไม่สนิทกัน เพราะ WFH/WFA มีผลกระทบ ให้พวกเขาคุยงานกันแบบมี กำแพงกัน” ดังนั้น งานตัวเองก็จะไม่ไหลลื่น แน่นอนไม่ต้องพูดถึงเลยจะไหลลื่นกับลูกค้าไหม…
กับกลาย “WFH/WFA” = “กำแพงประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานที่สุด ทั้งๆ ที่มันควรจะช่วยให้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะ tech company”
ดังนั้น หลายๆ company แม้จะเลิก Covid กันมาสักพักมีการเรียกเข้า office ตามสัดส่วน แต่ส่วนใหญ่ยังเป็น mode hybrid คือเข้ามาบ้าง และให้ทำงานบ้านสลับกันไป ไม่งั้น มันก็ไม่ fit กับคนรุ่นใหม่ หรือสภาพแวดล้อมที่มี tool ช่วยมากมาย
แต่การให้แต่ละทีมไปกำหนด protocal เองอาจจะไม่ work เพราะตัวอย่างเคสข้างบน ทีมงานไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาดเลย - ทั้งรู้ตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ, มีตารางงาน, รู้ว่า KPI หรือเป้าหมายคืออะไร? แต่สิ่งที่ตัวทีม (Don’t know what they don’t know) คือ “อ้อ!! เราไม่เคยรู้จักหรือสนิทกันจริงในทีม ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานที่สุดของการสร้างงาน สร้างคนให้สำเร็จนั่นเอง”
WFH/WFA จริงๆ ควรมีต่อไป แต่ต้องมีการกำหนดกฏเกณฑ์ให้ชัดเจน เพราะตัวอย่างปัญหา WFH/WFA แบบไทยๆ เช่น
* บางคนคุยงานกันที่ออฟฟิศมันอยู่ในที่ประชุม แต่บางคน ขับรถ เลี้ยงลูก ช้อปปิ่้ง จ่ายตลาด แล้วก็ฟัง (= เขาไม่ได้มีสมาธิ 100% หรอกสำหรับงานที่ประชุม)
* บางคนไปนั่งตามร้านกาแฟ หรือห้าง ไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุย (ขอนั่งฟังอย่างเดียว) เสียง noise ตาม public place อันนี้ ก็ไม่ทำให้การประชุม หรือทำงานมีประสิทธิภาพ เราจะเห็นคนนั่งเงียบมากมาย
* Log in เข้ามา แต่ไม่มีบทบาทหน้าที่อะไร พอเรียกก็ไม่ทันได้ยิน
* WFH ผ่านเครื่องมือ conference ต่างงๆ มันก็เหมือนจีบสาวสมัยก่อน โทรไปเกี้ยวอย่างเดียว มันก็อาจจะเคลิ้มๆ แต่สุดท้ายมันก็ต้องนัดเดท ได้เห็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่งั้นบางคนป้ออย่างเดียว เจอตัวจริง ตัวเหม็น ปากเหม็น แต่งตัวไม่สะอาด คนก็ไม่ได้อยากเข้าใกล้ แม้จะพูดเก่งใข่ไหม...พอ WFH มันทำให้พนักงานขาดโอกาสในการฝึกการวางตัวพวกนี้โดยปริยาย
ดังนั้น WFH/WFA ควรมีกฏเพื่อลดปัญหาพื้นฐานของการทำงานให้สำเร็จ
* WFH/WFA ที่ดี ไม่ควร 100% (อาจมีการโต้แย้งกันมากมาย แต่เชื่อสิ 100% มันจะดีแค่ indvidual ที่อาจมีเหตุผลต่างๆ มากมาย แต่ไม่ได้ดีในภาพ team-company-user/ลูกค้า
* การให้ WFH/WFA ปัญหาหลักคือ “ทุกคนทำงานได้จริง และไม่เหลวไหล” >> แปลว่าอาจต้องมีการกำหนดเวลาเช่น 8:00-17:00 = “ต้องพร้อมคุยงานได้ตลอดเวลาไม่มีข้ออ้าง
* ใครไม่พร้อมคุยงาน ในเวลาที่กำหนด = “มีผล performance review”
* กำหนด protocol การสื่อสาร และการตัดสินใจในองค์กรให้ชัดเจน แต่ละเรื่องต้อง call/email/ping/communicate ที่ใคร (แบ่งให้ถูกเรื่องเล็ก/กลาง/ใหญ่/ต้องดันขึ้น เป็นต้น”
* “ระบบที่คุยงานที่ดี” มันต้อง บันทึกไว้ และปลอดภัยในองค์กร เช่น แชทๆ ข้อมูลสำคัญมันต้องไม่มี expire (พวกนี้สามาถ drive พฤติกรรมได้จากหัวหน้าลงมาเสมอ)
* หัวหน้างานต้องมี daily or weekly กับทีมตัวเองเสมอ ถ้าบริษัท Activate WFH/WFA ให้กับพนักงาน แล้วหัวหน้าบอกยุ่ง ขอเดือนละครั้ง หรือไตรมาสละครั้งพอ อันนี้บอกเลย หัวหน้าจะล้มเหลวแน่นอน เหมือนตัวอย่างเคสที่ผมกล่าวว่า ทุกคนก็ทำงานตามหน้าที่และระบบ (แต่ทุกคนไม่เคยสนิทหรือรู้จักกันเลย ไม่มีวันเป็น high performance team ได้)
* มี test เรื่อง assignment พิเศษ (อาจจะงง งานที่มีก็เยอะแล้วนิ) - มี protocal ส่งงานด่วน (งานชิ้นเล็กๆ) จากหัวหน้าเพื่อเทสพนักงานระดับล่างประจำวัน ว่าเขา alert หรือพร้อมสำหรับการทำงานไหม ทำงานให้เสร็จ และสำเร็จได้ไหม หรือจริงๆ focus อะไรอยู่?
* ให้ “สุ่ม” เรียกประชุม (ดูจากตารางที่ลงว่าว่าง และไม่ได้บอกลา) อาจจะ 30 นาที checkpoints กัน เพื่อเช็คทีม avaliable สำหรับงานอยู่ไหม
* WFHWFA ไม่ยากในเชิงเทคโนโลยีที่จะใช้ แต่เรื่องยากกว่าคือเรื่อง “บริหาร สร้าง และพัฒนาคน”
ลองดูนะครับ ยุคสมัยเปลี่ยนเป็น Hybrid การบริหารแบบเดิมๆ ในภาวะเศรษฐกิจก็ยากแล้ว แต่บริหารคนภายใต้สภาพแวเล้อมที่ปรับเปลี่ยนยากขึ้นไปอีกด้วยเช่นกัน
#วันละเรื่องสองเรื่อง
Blog archive : yongyuth.medium.com
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
