14 มี.ค. เวลา 03:39 • การเมือง

ส.ว.ชุดใหม่จะได้พิจารณา 2 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหมดวาระปลายปี

เดือนพฤษภาคมนี้ สว.250 คนที่แต่งตั้งโดย คสช.จะหมดวาระ และจะต้องมีการเลือกตั้งโดยอ้อมตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนจึงจะได้ สว.ชุดใหม่ ซึ่งจะเป็นผู้โหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบขั้นสุดท้ายสำหรับตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ตำแหน่งที่หมดวาระลงช่วงปลายปีนี้
📌 การเลือกตั้ง สว.กลางปีนี้เป็นที่จับตาของสังคมอย่างมาก เนื่องจากเปิดให้ผู้สนใจและมีคุณสมบัติตรงตามกฎหมายกำหนด สามารถสมัครเพื่อคัดเลือกกันเองได้ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ เพื่อเฟ้นหาสว.ใหม่ 200 คน ที่จะมาทำหน้าที่และมีบทบาทหลายอย่างในทางการเมือง
📌 แม้ สว.ชุดใหม่นี้จะไม่มีอำนาจโหวตนายกฯ แล้ว แต่อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ก็ยังมีอีกมาก เช่น
-โหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญ
-โหวตร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)
-พิจารณากฎหมายทั่วไป, ร่างกฎหมายงบประมาณ, อนุมัติพระราชกำหนด
-ให้ความเห็นชอบบุคคลในหลายองค์กร เช่น กกต. ป.ป.ช. อัยการสูงสุด ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน, ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
-ตั้งกระทู้ถามรัฐบาล
-เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ
📌 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน 7 คน มีสถานะดังนี้
◾ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ตุลาการที่เพิ่งได้รับโหวตจากที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญให้นั่งประธาน เมื่อ 10 ม.ค.2567 แทนวรวิทย์ กังศศิเทียม ที่หมดวาระ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอการโปรดเกล้าฯ
◾ สุเมธ รอยกุลเจริญ อดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด คือ ตุลาการคนใหม่ที่วุฒิสภาเพิ่งโหวตรับรองเมื่อ 12 ธ.ค.2566 อยู่ในขั้นตอนรอโปรดเกล้าฯ
◾ มีตุลาการ 2 คน ที่จะหมดวาระในเดือน พ.ย.2567 นี้คือ นครินทร์ และปัญญา อุดชาชน ซึ่งทั้งคู่ได้รับแต่งตั้งจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปี 2558
◾ ส่วนที่เหลือ 5 คนซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดย 250 สว.ที่สรรหาโดย คสช.นั้น จะหมดวาระในปี 2570
◾ อุดม รัฐอมฤต คือตุลาการที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อ ม.ค.2566 ในสายผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติศาสตร์ เขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับมีชัย ฤชุพันธุ์ (กรธ.) ด้วย
#ประวัติศาสตร์ศาลรัฐธรรมนูญโดยย่อ
📌 ศาลรัฐธรรมนูญ เกิดเป็นรูปเป็นร่างจากรัฐธรรมนูญ 2540 ท่ามกลางกระแสปฏิรูปการเมือง มีการออกแบบให้ฝ่ายบริหารเข้มแข็งไปพร้อมๆ กับระบบการตรวจสอบที่เข้มข้น
📌 ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่หลักในการดู ‘กฎหมาย’ และ ‘การกระทำขององค์กรต่างๆ’ ว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
📌 ก่อนหน้านั้น ประเทศไทยก็มีองค์กรทำหน้าที่ลักษณะเหมือนกัน แต่ไม่ใช่รูปแบบของศาลเฉพาะ
◾ รัฐสภา ทำหน้าที่ตีความรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 จนถึงปี 2489
◾ ศาลยุติธรรม เป็นระบบเช่นเดียวสหรัฐอเมริกา แคนาดา คิวบา ญี่ปุ่น ฯลฯ ไทยเคยใช้ระบบนี้ช่วงปี 2489
◾ ตุลาการรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรกึ่งการเมือง ลักษณะเช่นเดียวกับฝรั่งเศส เกาหลี ฯลฯ รัฐธรรมนูญไทย ปี 2534, 2539 ใช้ระบบนี้ องค์ประกอบคือ ประธานรัฐสภา, ประธาานวุฒิสภา, ประธานศาลฎีกา, อัยการสูงสุด
📌 นับตั้งแต่เริ่มมีศาลรัฐธรรมนูญ ประเทศไทยเปลี่ยนรัฐธรรมนูญแล้ว 3 ฉบับ ทั้ง 3 ฉบับกำหนดรายละเอียดศาลรัฐธรรมนูญไว้แตกต่างกันไล่เรียงจาก ปี 2540 / 2550 / 2560 ดังนี้
◾ จำนวน : 15 คน / 9 คน / 7 คน
◾ วาระดำรงตำแหน่ง: 9 ปี / 7 ปี / 7 ปี
◾ เพดานอายุ : 70 ปี / 70 ปี / 75 ปี
◾ ที่มา สว.ผู้อนุมัติสุดท้าย : เลือกตั้งล้วน/ เลือกตั้ง+สรรหา/ สรรหาล้วน
◾ สัดส่วนโควตาแต่ละสาย มีรายละเอียดดังนี้
#รัฐธรรมนูญ2540 : รวม 15 คน
5 ผู้พิพากษาศาลฎีกา
2 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
5 ผู้ทรงคุณวุฒิสายนิติศาสตร์
3 ผู้ทรงคุณวุฒิสายรัฐศาสตร์
#รัฐธรรมนูญ2550 : รวม 9 คน
3 ผู้พิพากษาศาลฎีกา
2 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
2 ผู้ทรงคุณวุฒิสายนิติศาสตร์
2 ผู้ทรงคุณวุฒิสายรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์อื่น
#รัฐธรรมนูญ2560 : รวม 7 คน
​3 ผู้พิพากษาศาลฎีกา
2 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
2 ผู้ทรงคุณวุฒิสายราชการ
1 ผู้ทรงคุณวุฒิสายนิติศาสตร์
1 ผู้ทรงคุณวุฒิสายรัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์
📌 ข้อสังเกตเรื่องสัดส่วน หากแยกหยาบๆ แบ่งเป็นสายศาลกับสายผู้ทรงคุณวุฒิ สัดส่วนสายศาลเพิ่มขึ้นเกินครึ่งในช่วงหลัง จาก 7:8 เป็น 5:4 ขณะที่สายผู้ทรงคุณวุฒิแบ่งเป็นสายนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ รัฐธรรมนูญ 2540 กำหนดไว้จำนวนมาก ต่อมารัฐธรรมนูญ 2550 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุด รัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งสองสายเหลืออย่างละเพียง 1 คน และเพิ่มสายข้าราชการ 2 คนซึ่งไม่มีในรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้
📌 แล้วใครเป็นผู้สรรหาตุลาการจากสายต่างๆ ก่อนที่ สว.จะเป็นผู้ไฟเขียว-ไฟแดงในขั้นสุดท้าย คำตอบก็คือ #คณะกรรมการสรรหา ซึ่งประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา, ประธานศาลปกครองสูงสุด, ประธานสภาผู้แทนราษฎร, ผู้นำฝ่ายค้าน และตัวแทนที่องค์กรอิสระแต่งตั้ง
ข้อสังเกตที่น่าสนใจของกรรมการสรรหาคือ
-ในรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่มีตัวแทนจาก 'องค์กรอิสระ' รัฐธรรมนูญ 2550 ให้มีตัวแทนองค์กรอิสระ 1 คน, รัฐธรรมนูญ 2560 มีตัวแทนองค์กรอิสระต่างๆ แห่งละคน รวมเป็น 5 คน
-รัฐธรรมนูญ 2540 ให้มีตัวแทนของทุกพรรคการเมืองตามสัดส่วนที่นั่งในสภา และมีคณบดีจากสถาบันการศึกษาร่วมเป็นกรรมการสรรหาด้วย เรียกได้ว่าเปิดกว้างกว่าปัจจุบันที่อยู่ในแวดวงศาลและองค์กรอิสระเป็นหลัก
📌 ความยาวนานของการดำรงตำแหน่งก็น่าสนใจ จากเดิมกำหนด 9 ปี เหลือ 7 ปี แต่ก็มีตุลาการ 5 คนที่ดำรงตำแหน่งถึง 12 ปี คือ นุรักษ์ มาประณีต, ชัช ชลวร, บุญส่ง กุลบุปผา, อุดมศักดิ์ นิติมนตรี และจรัญ ภักดีธนากุล ตั้งแต่ 2551-2563 นั่นเพราะมีรัฐประหาร 2557 มาคั่น และ คสช.ได้ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 24/2560 ระงับการสรรหาตุลาการที่หมดวาระและให้คนเดิมทำหน้าที่ต่อ จนกระทั่งมีรัฐธรรมนูญ 2560 และ พ.ร.ป.ออกมาจึงเริ่มกระบวนการปกติ ซึ่งขั้นตอนการสรรหาก็เป็นไปอย่างล่าช้าอยู่ดี
📌 ตุลาการ 5 คนที่ครองตำแหน่ง 'นานพิเศษ' ดังกล่าว มีบทบาทในการตัดสินคดีสำคัญทางการเมือง เช่น ตัดสินคดีทั้งยุบพรรคพลังประชาชน ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ยุบพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งการสั่งให้การเลือกตั้งปี 2557 เป็นโมฆะ
โฆษณา