Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ช. ภูพินิจ
•
ติดตาม
14 มี.ค. 2024 เวลา 13:38 • การศึกษา
เจ้าหน้าที่ผู้ลงมือประหารชีวิตนักโทษในคดีอุกฉกรรจ์ ที่ต้องโทษประหารชีวิต ต้องเป็นผู้ทำหน้าที่นี้กว่าค่อนชีวิตเพื่อหาเลี้ยงชีพ หากอยากจะบรรลุโสดาปัตติผล จะเป็นไปได้หรือไม่ จะให้แนวทางเขาอย่างไรดีคะ ?
ได้สิครับ ยิ่งไปกว่านั้น เหมือนผมจะเคยอ่านเจออยู่ด้วย แต่เรื่องนี้เอาไว้เถอะครับ เพราะคงเปิดหาไม่ได้ (มันมันไฟล์พีดีเอฟ ค้นยาก/ขี้เกียจนั่นแหละมากกว่า 555) แต่เอาเป็นว่า ตอบในความเห็นผมดีกว่า
1
หากเขาสนใจศาสนานี้ สนใจบุญในศาสนานี้ และสนใจอยากที่จะบรรลุความเป็นพระโสดาบันในศาสนานี้ แรกสุดเลยก็ต้องบอกว่าเขามีความอยากที่ดีแล้ว แต่ปัญหาเขามีอยู่แค่อย่างเดียว คือเขาฆ่าคนเป้นอาชีพ แต่ว่า
จริงอยู่ว่าเขาเป็นเพรชฆาต ต้องฆ่าคนอยู่บ่อย ๆ และทำเป็นอาชีพ ศีลข้อห้ามฆ่าจึงเป็นอันว่าเขาทำได้สมบูรณ์ แต่การให้แนวทางแก่เขานั้น ผมเชื่อตัวเอง "อาจ" เพื่อจะให้แนวทางแก่เขาได้ว่า
1
1) ขอเขาจงรู้จัก หนึ่ง คือ พุทธธรรม ขอเขาจงบูชาพุทธธรรมนั่นแหละอย่าง "เหนือเศียรเกล้า" เลยทีเดียว
2) ขอเขาจงรู้จัก สอง คือ 1) หิริ ความละอาย กับ 2) โอตตัปปะ ความกลัวต่อการทำชั่ว และอีกสองอย่างที่เขาต้องรู้คือ 1) รู้ว่าอะไรคือดี 2) รู้ว่าอะไรคือชั่ว และอีกสองอย่างสุดท้ายที่เขาต้องรู้คือ 1) รู้ว่าอะไรคือสุข 2) รู้ว่าอะไรคือทุกข์
3) ขอเขาจงรู้จัก สาม คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม และเขาต้องรู้จักสามนั้นให้แยบคายอย่างนี้ว่า
1
3.1) เมื่อเขาทำกรรมดีด้วยกาย เขาจะได้รับผลดี
3.2) เมื่อเขาทำกรรมดีด้วยวาจา เขาจะได้รับผลดี
3.3) เมื่อเขาทำกรรมดีด้วยใจ เขาจะได้รับผลดี
3.4) เมื่อเขาทำกรรมชั่วด้วยกาย เขาจะได้รับผลชั่ว
3.5) เมื่อเขาทำกรรมชั่วด้วยวาจา เขาจะได้รับผลชั่ว
3.6) เมื่อเขาทำกรรมชั่วด้วยใจ เขาจะได้รับผลชั่ว
และเขาต้องรู้โดยแยบคายอย่างนี้อีกว่า เมื่อเขาทำกรรมดี เขาจะได้รับผลดี เมื่อเขาได้รับผลดี จะทำให้เขามีความสุข และเมื่อเขาทำกรรมชั่ว เขาจะได้รับผลชั่ว และเมื่อได้รับผลชั่ว จะทำให้เขามีความทุกข์ ดังนั้นเขาจึงต้องรู้โดยแยบคายโดยนัยนี้อีกว่า เมื่อเขาทำกรรมดีด้วยกาย เขาจะได้รับผลดี ทำให้เขามีความสุข ฯลฯ เมื่อเขาทำกรรมชั่วด้วยใจ เขาจะได้รับผลชั่ว ทำให้เขามีความทุกข์
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรรู้ต่อไปอย่างนี้อีกว่า ชื่อว่า กรรมให้ผลคือวิบาก นั้น ให้ผลตอนนี้ก็มี ให้ผลในวันข้างหน้าก็มี ให้ผลส่งเสริมกันก็มี ตัดรอนกันก็มี ไม่ให้ผลเลยก็มี เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเขาก็ควรทำในใจอย่างนี้ว่า กรรมใดเป็นความชั่ว เราไม่ควร หากเราทำอยู่ เราควรหยุดทำ หากเราไม่ทำแล้ว เราก็ไม่ควรมีความเยื่อใยที่จะทำต่อไปอีก ส่วนกรรมใดเป็นความดีเราควรทำ และทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ก็ควรคิดได้อย่างนี้ต่อไปอีกว่า ชื่อว่าการประหารคนนี้เป็นความชั่ว เราไม่ควรทำ หากเลิกได้ก็ควรเลิก หากเลิกไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่บังคับ ฯลฯ เขาก็ควรคิดอย่างนี้ว่า การฆ่านักโทษนี้เป็นความชั่ว เราไม่อยากทำ ไม่พอใจทำ ไม่ได้ทำเพื่อความอาฆาต พยาบาท แต่เป็นหน้าที่บังคับเราจึงต้องทำ และคิดได้ต่อไปอีกว่า เมื่อเรา(จำเป็นต้อง)ฆ่าเขาด้วยกาย เราก็ไม่ควรฆ่าเขาด้วยคำพูด และไม่ควรฆ่าเขาด้วยเจตนา เมื่อเขาไม่ฆ่าโดยเจตนา จิตใจเขาย่อมพ้นแล้วจากการฆ่า
และเมื่อเขาคิดได้อย่างนั้น เขาก็ควรถือธรรมอีก 2 อย่าง อย่างแรกคือ "ขันติ" คือความอดกลั้นต่อวิบากอันเป็นทุกข์ใด ๆ ก็ตามที่จะติดตามมาในภายภาคหน้า และอย่างที่สองคือ "เมตตา" เพื่อเป็นการตัดรากของพยาบาท
หากเขาทำได้อย่างนี้ ไม่ว่าจะมีใครพยากรณ์ไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม หากไม่มีผมนี้แหละจะพยากรณ์ว่า
เพรชฆาต ผู้ฆ่าคนอยู่เป็นนิจ
ไม่เยื่อใยในการฆ่า ไม่มีเจตนา
มีศรัทธา(ในพุทธธรรม) ขันติ และเมตตา
อาจพาตนถึงความเป็นพระโสดาบันได้!
1
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย