15 มี.ค. เวลา 11:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ

4 สิ่งที่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยง ก่อนใช้ Option Trading

พื้นฐานกลยุทธ์การใช้ Option นั้นจะมี 4 แบบ
Long Call มองว่า หุ้นจะขึ้น
Long Put มองว่า หุ้นจะลง
Short Call มองว่า หุ้นจะไม่ขึ้นมาก จึงขายสัญญาเพื่อได้ Premium
Short Put มองว่า หุ้นจะไม่ลงมาก จึงขายสัญญาเพื่อได้ Premium
ด้วยความรู้กลยุทธ์พื้นฐานนี้ก็สามารถทำให้เราหากำไร และ เก็บ Yield จากตลาดหุ้นได้มากพอ แต่ต้องเลือกหุ้นได้ดี และถูกตัวมาประกอบด้วย ตัวอย่างเช่น วันก่อนประกาศงบของหุ้นอย่าง Nvidia ในไตรมาสก่อน เมื่อเรามองว่ามีโอกาสขึ้น ก็ใช้กลยุทธ์ Long Call (แต่ต้องดู Premium ด้วยว่าสูงเกินไปหรือเปล่า)
หรือ Long Put Enphase เมื่อมองว่าประกาศงบออกมาแล้วจะแย่ ซึ่งก็เป็นอะไรที่ตรงตัว แต่เมื่อเราคิดว่าราคาหลังประกาศจะไม่ได้ขึ้นลงแรงเกิน 5%-10% การอยู่ในฝั่งขา Long อย่างใช้ Long Put หรือ Long Call ก็จะได้กำไรไม่เยอะ เพราะเรามีต้นทุนต้องเสียค่า Premium ไปแล้ว
ข้อควรเลี่ยงอย่างที่ 1
หลีกเลี่ยงเปิดสัญญาขา Short ก่อนประกาศงบ
เมื่อเราเปิดสัญญาทั้ง Short Put หรือ Short Call แม้ว่าเราจะได้ Premium มา แต่หลังจากหุ้นประกาศงบ มีโอกาสที่หุ้นจะดีดขึ้นลงแรงได้ ซึ่งถ้าเลือกไว้ถูกทางก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าผิดทางจะทำให้พอร์ตขาดทุนแบบจุกๆได้เลย เพราะขา Short นั้นกำไรมีจำกัด แต่ขาดทุนไม่มีจำกัด
#Casestudy
Maxeon หุ้นกลุ่ม Solar ที่ตลาดคาดหวังว่าสร้างโรงงานผลิตแผงดำในสหรัฐและจะได้รับ IRA จากรัฐบาลเข้ามาช่วย และในช่วงประกาศงบคาดว่าราคาหุ้นจะไม่ขยับขึ้นลงมาก แต่หลังหุ้นประกาศงบออกมาทำราคาร่วง -32% เลย ลองคิดว่าถ้าเราถือสัญญา Short Put ไว้ถึงแม้จะได้ Premium มาแต่ก็จะขาดทุนหนักมากอยู่ดี ฉะนั้นเราจึงไม่แนะนำให้เปิดสัญญา Short ก่อนวันประกาศงบเพราะเราอาจจะแทงผิดทาง เพราะช่วงประกาศงบมีปัจจัยหลายอย่าง มากกว่าแค่ตัวเลขรายได้
ข้อควรเลี่ยงอย่างที่ 2
มือใหม่พยายามอย่าซื้อสัญญาต่ำกว่า 1 เดือน
เนื่องจากสัญญา Option นั้นมี Time Decay หรือค่าเวลาการซื้อสัญญาระยะสั้นนั้นจะทำให้มูลค่าของสัญญาลดลงอย่างรวดเร็ว (ยิ่งถ้าน้อยกว่า 1 เดือนยิ่งหนัก) ทำให้เวลาเราแทงผิดทาง เช่น คิดว่าหุ้น NIO ประกาศงบครั้งนี้คาดว่าจะขึ้นจึงซื้อสัญญา Long Call แต่หลังประกาศหุ้นกลับร่วงแทน ในเคสนี้ถ้าเราซื้อสัญญาระยะสั้นยาว 3 เดือนจะทำให้มีโอกาสว่าราคาหุ้นอาจพอคืนกลับมาได้บางส่วน (ยกเว้นผิดทางขึ้นลง 20-30% เลย)
3. หลีกเลี่ยงการซื้อสัญญา Out the money (OTM)
การซื้อสัญญา Option นั้นมีค่า Premium ที่ต้องจ่ายสำหรับขา Long การที่เราซื้อสัญญา OTM และไม่สามารถคาดเดาทิศทางราคาได้แม่นยำจะทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้มากขึ้น หรือเทียบได้กับว่าขาดทุนตั้งแต่ตอนซื้อสัญญาเลย ดังนั้นเราจึงแนะนำว่าให้ซื้อสัญญา At the money หรือ In the Money(เลื่อน Strike Price ไป 1 ช่องเทียบกับราคาปัจจุบันไปเลย)
4. อย่าเสี่ยงซื้อสัญญาจนหมดพอร์ต
อันนี้เป็นข้อสำคัญที่สุด เลยครับ การซื้อสัญญา Option หมดทั้งพอร์ตจะทำให้ความเสี่ยงที่จะขาดทุนหนักมีสูงมาก เนื่องจากสัญญา Option การขึ้นลง 30% ไม่ใช่เรื่องแปลก ลองคิดในกรณีที่เราแทงผิดทางสุดๆ ทำให้สัญญานั้นขาดทุน 80% จะส่งผลให้พอร์ตเราเสียหายหนักและนำกลับคืนมาได้ยาก
Bottomliner แนะนำว่าซื้อหนึ่งสัญญาเพียง 1% ของพอร์ตก็พอสำหรับมือใหม่ แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้มากขึ้นก็สามารถขยับขึ้นมาเป็น 2%-3% ของพอร์ตได้ครับ ตัวอย่างเช่น พอร์ตเรามีเงินอยู่ $10,000 เราจะแนะนำว่าควรซื้อไม่เกิน $300 เพื่อกันความเสี่ยงไปผิดทาง หรือไม่ควรน้อยกว่า $100 เพราะถ้าเราได้กำไรก็ไม่ได้มีผลกับพอร์ตมากนัก
หลายคนอาจจะคิดว่าการใช้ Option ดูมีกฏเกณฑ์และข้อระวังที่วุ่นวาย แต่จริงๆแล้ว เมื่อเรามีประสบการณ์และวิเคราะห์มาดีพอ จะทำให้ Option เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พอร์ตเติบโตได้ดีขึ้น เหมือนที่เรานำ Option
มาใช้ใน OMTE ที่เป็นกลยุทธ์หลักในบริการ NOVA ตัวอย่างเช่นใช้ Option ให้ Advance ขึ้น โดยเอามาผสมกัน และมาเพิ่มอย่าง Credit Spread หรือ Straddle ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นได้ แม้ช่วงเวลาตลาดหุ้นตก
โฆษณา