16 มี.ค. เวลา 04:50 • คริปโทเคอร์เรนซี

🧠 การจัดการความเสี่ยง ในการลงทุนที่เหมาะสมกับคริปโต 📈📉 - บทความจาก Binance TH 📊

✍️ ส่วนของแอด EarthDeFIRE จะเขียนไว้ตอนท้ายนะครับ
👉 Intro:
การซื้อ Bitcoin (BTC), Ether (ETH) หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ นักลงทุนบางคนชอบซื้อและถือครองคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุด ในขณะที่คนอื่นๆ เลือกที่จะลงทุนกับเหรียญ Altcoin
แต่แบบไหนที่เหมาะสมที่สุด คุณจะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นเมื่อจัดสรรสินทรัพย์โดยไตร่ตรองอย่างรอบคอบ และปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอคริปโต เป็นประจำ
***
👉 การจัดสรรสินทรัพย์และการกระจายการลงทุน:
การจัดสรรสินทรัพย์ หมายถึง การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (เช่น คริปโทเคอร์เรนซี หุ้น พันธบัตร โลหะมีค่า และเงินสดเป็นต้น) กลยุทธ์ทั้ง ช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของคุณได้
ในทางเทคนิค คริปโทเคอร์เรนซีสกุลต่างๆ ถูกจัดเป็นกลุ่มสินทรัพย์ที่อยู่ในประเภทเดียวกัน แต่ในพอร์ตโฟลิโอของคริปโทเคอร์เรนซีนั้น คุณสามารถกระจายการลงทุนไปในผลิตภัณฑ์ ได้
เช่น Bitcoin 40%, Stablecoin 30%, NFT 15% และ Altcoin 15%
พอร์ตที่มีการกระจายการลงทุนจะช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนโดยรวมได้ ความเสียหายสามารถชดเชยด้วยผลตอบแทนและการรักษา Position ของคุณให้มั่นคง
***
👉 การจัดการความเสี่ยงมีขั้นตอนอย่างไร:
1. การตั้งวัตถุประสงค์
2. การระบุความเสี่ยง
3. การประเมินความเสี่ยง
4. การกำหนดแผนรับมือ
5. การเฝ้าติดตาม
***
👉 กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงทั่วไป:
📌 กฎการเทรด 1%
เป็นวิธีที่นักเทรดใช้เพื่อจำกัดการสูญเสียให้มากที่สุดเพียง 1% จากทุนการเทรดต่อการเทรดแต่ละครั้ง ซึ่งหมายความว่าจะสามารถซื้อขายด้วย 1% ของพอร์ตโฟลิโอต่อการเทรด หรือด้วย Order ที่ใหญ่กว่าโดยมีจุด Stop-Lossเท่ากับ 1% ของมูลค่าพอร์ตโฟลิโอ
📌 ใช้ Stop-Loss และ Take-Profit กับ Order
การใช้ Stop-Loss กับ Order จะช่วยให้นักเทรดจำกัดความสูญเสียเมื่อการเทรดเริ่มไม่ปกติ การ Take-Profit กับ Order จะรับรองว่า Order จะได้กำไรเมื่อการเทรดเป็นไปได้ดี
ตามหลักการแล้ว ควรกำหนดราคา Stop-Loss และ Take-Profit ก่อนเข้าสู่ Position และควรกำหนด Order ทันทีที่เปิดการเทรด
📌 Hedging (การป้องกันความเสี่ยง)
เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่นักเทรดเดอร์และนักลงทุนใช้ลดความเสี่ยงทางการเงิน ประกอบด้วยการเปิด Position สองตำแหน่งที่ชดเชยกันและกัน
พูดง่ายๆ ก็คือ นักเทรดจะป้องกันความเสี่ยงจากการเทรดด้วยการซื้อเทรดคู่ฝ่ายตรงข้ามที่มีขนาดใกล้เคียงกันหรือเทียบเท่ากัน
อาจฟังดูขัดกับสัญชาตญาณที่ต้องเข้า Position ในทิศทางตรงกันข้าม แต่หากทำอย่างถูกต้อง การป้องกันความเสี่ยงจะช่วยลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของตลาดได้
ยกตัวอย่างเช่น ลองจินตนาการว่าคุณถือ BTC ไว้นานและถือเอาไว้ใน Wallet ส่วนตัว หากตลาดเข้าสู่ช่วงขาลง คุณสามารถใช้ Short Position เพื่อชดเชย Long Position ได้โดยไม่ต้องย้าย BTC นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่ากลยุทธ์ที่เป็นกลางทางตลาด
📌 Diversification (การกระจายการลงทุน)
ดังคำโบราณที่บอกไว้ว่า อย่าเก็บไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว กล่าวอีกนัยหนึ่ง
หากคุณถือสินทรัพย์คริปโตในพอร์ตโฟลิโอไว้อย่างหลากหลาย ความเสียหายสูงสุดที่คุณจะได้รับหากราคาร่วงลงคือพอร์ตโฟลิโอบางส่วนเท่านั้น
📌 อัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทน
การคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทนของการเทรดที่คุณกำลังพิจารณา หากจุด Stop-Loss ของคุณอยู่ที่ 5% และเป้าหมายของคุณคือกำไร 15% อัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทนจะเป็น 1:3 ซึ่งหมายความว่ากำไรที่อาจเกิดขึ้นจะสูงกว่าความเสี่ยงถึงสามเท่า
***
👉 วิธีสร้างพอร์ตโฟลิโอคริปโตให้สมดุล:
1. แบ่งพอร์ตการลงทุนของคุณออกเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ปานกลาง และความเสี่ยงต่ำ โดยแบ่งน้ำหนักความสำคัญให้เหมาะสม พอร์ตโฟลิโอที่มีการลงทุนความเสี่ยงสูงเป็นสัดส่วนใหญ่จะไม่ทำให้พอร์ตสมดุลแน่นอน แม้แนวทางนี้มีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่อาจทำให้เกิดการสูญเสียมากขึ้นเช่นกัน
2. ถือเหรียญ Stablecoin เพื่อช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณมีสภาพคล่อง Stablecoin เป็นกุญแจสำคัญสำหรับแพลตฟอร์ม DeFi จำนวนมาก
3. ปรับสมดุลให้ฟอร์ตโฟลิโอบ้าง หากจำเป็น ตลาดคริปโตมีความผันผวนมาก และการตัดสินใจของคุณควรปรับเปลี่ยนตามให้ท่วงทันสถานการณ์
4. ใช้กลยุทธ์จัดสรรเงินทุนใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการให้น้ำหนักเกินกับส่วนใดส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน ผลตอบแทนมหาศาลจากเหรียญเพียงชนิดเดียวที่คุณเพิ่งได้มาอาจเป็นการดึงดูดให้คุณลงทุนเพิ่ม อย่าปล่อยให้ความโลภเข้ามาแทรกแซง
5. ศึกษาข้อมูลต่างๆ ด้วยตัวคุณเอง เถียงไม่ได้ว่าคำแนะนำนี้เป็นประโยชน์เสมอ คุณกำลังลงทุนด้วยเงินของตัวคุณเอง ดังนั้น อย่าพึ่งพาคำแนะนำของผู้อื่นเพียงอย่างเดียว
6. ลงทุนเฉพาะเงินในส่วนที่คุณสามารถยอมรับการสูญเสียได้เท่านั้น หากคุณยังรู้สึกเครียด หมายความว่าพอร์ตโฟลิโอของคุณยังไม่สมดุลจริง
***
👉 ความเห็นส่วนตัวของ แอด #EarthDeFIRE
ฝากด้วยจ้า ลิงค์ผมคืนเงิน ค่าธรรมเนียมเทรดโทเคน 30% ครับ จากค่าธรรมเนียม 0.1% เหลือ 0.07% จ้า! #BinanceTH !!
📌 มองเกมการลงทุนให้ยาว (1-5 ปี+) อย่ามองเกมสั้นครับ (ถ้าคุณหวังรวยเร็วภายใน 1-3 เดือนนั่นละ พอร์ตคุณจะไม่รอด
📌 DCA = win in long term ไม่ว่า BTC จะราคา 20,000$ หรือ 70,000$ ผมบอกเลยว่า อีก 10-20 ปี ข้างหน้า ราคานี้ ถัวเท่าไรก็คุ้มครับ ผมกล้าบอกให้คนที่บ้านและเพื่อนพ้องที่สนิทของผม ผมกล้าในตลาดคริปโตมา หลายปีแล้ว (ส่วนเขาจะทำยังไงต่อ อันนี้แล้วแต่เขาครับ)
📌 ส่วนตัวผมใช้ Leverage / Future เทรดเพียง 2-8% ของพอร์ตเท่านั้น ช่วงตลาดหมี ผมเล่นแค่ 2% แต่ช่วงตลาดกระทิง ผมย้ายสัดส่วนมาเป็น 8% เมื่อผมได้ 12-15% เมื่อไร ผมจะลด ให้เหลือ 8% เหมือนเดิม
ในขณะที่ถ้าเล่นฝืมือไม่ดีพอ 2-8% ที่เสียไป ผมจะไปนั่งทบทวนใหม่ 2-3 เดือน ว่าวิธีการเราเข้าผิดถูกอย่างไร
📌 แปลว่า เงินส่วนใหญ่ผม 90% + มักอยู่ใน Spot / Hardware Wallet / ในส่วน Earn / Liquidity Providing
📌 ยังมีแบบเงินประมาณ 2-5% ผมมักนำไป ปล่อยล่า airdrop บ้าง ลุ้นของแถมบ้าง (ดึงมาจาก ก้อน 90% ด้านบนนั่นละ โดยมาก เมื่อไรพอร์ตโต กำไร นำส่วนนี้มาต่อยอด)
📌 เพิ่มเติม เดี๋ยวผมจะแปะลิ้งค์เสริม:
บทเรียน 22 ข้อ จากตลาดคริปโตปี 2022 และ ป้องกันตัวเองยังไงต่อใน 2023?!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก บทความ Binance TH
#EarthDeFIRE รายงาน 16/03/2024
*** คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ***
***
Ref:
วิธีสร้างพอร์ตโฟลิโอคริปโตให้สมดุล
คู่มือเริ่มต้นสำหรับการจัดการความเสี่ยง
***
BinanceTH ก็มีเหรียญเพียบๆ ให้เข้า โอนเงินเข้า โอนเงินออก เชื่อมธนาคารไทยได้ กลต. รับรอง ครับ!
ลิงค์ผมคืนเงิน ค่าธรรมเนียมเทรดโทเคน 30% ครับ จากค่าธรรมเนียม 0.1% เหลือ 0.07% จ้า! #BinanceTH !!
โฆษณา