19 มี.ค. เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เวลาจะลงทุนในหุ้น เรามักจะได้ยินว่า การลงทุนที่ดีควรลงทุนในบริษัทที่มีคนซื้อบริการของเขาซ้ำเรื่อย ๆ

ถ้าใครชอบหุ้นแนวนี้ วันนี้เรามีหุ้นที่เรียกได้ว่าเป็น backbone ของหลาย ๆ ประเทศมาให้รู้จัก
Singapore Telecommunications หรือที่หลายคนอาจเรียกติดปากในชื่อ Singtel
เป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของเอเชีย ทำธุรกิจหลากหลายรูปแบบ
ทั้งเครือข่ายมือถือ อินเทอร์เน็ต ขายอุปกรณ์ และอื่น ๆ
ดูผ่าน ๆ ก็แอบคล้าย ๆ AIS / True ของบ้านเราเนี่ยแหละ
แต่บริษัทมีธุรกิจใหม่ ๆ ที่เน้นถึงการเติบโตในโลก digital
อย่างระบบ Cybersecurity, Digital Marketing และ Data Analytic ด้วย
โดย Singtel มีฐานลูกค้ากว่า 770 ล้านราย ใน 21 ประเทศ บน 3 ทวีป
ถ้านึกความใหญ่ไม่ออก
ลองเอามาเทียบกับ TRUE (ซึ่งควบรวม DTAC แล้ว )
มีฐานลูกค้ามากเป็นอันดับ 1 ของไทยที่ 51.9 ล้านหมายเลข
แต่ Singtel ก็ยังมีผู้ใช้บริการมากกว่า TRUE และ DTAC ที่รวมกัน อยู่เกือบ 15 เท่าเลยทีเดียว !
หรือต่อให้นับผู้ใช้งานทั้งหมด โดยการรวม AIS เข้าไปด้วยอีก 45 ล้านหมายเลข
Singtel ก็ยังมีผู้ใช้บริการใหญ่กว่าไทยทั้งประเทศอยู่ 8 เท่า
พอเทียบแบบนี้แล้วใหญ่โคตร!!
ปล. ความจริง Singtel ก็ถือหุ้น AIS และ INTOUCH อยู่ 23% และ 25% ตามลำดับด้วยนะ
เห็นฐานลูกค้าเยอะ ๆ แต่ Singtel ไม่ได้ทำธุรกิจแค่เครือข่ายมือถือนะ
Singtel มีธุรกิจหลากหลายรูปแบบในหลายประเทศมาก ๆ
ซึ่ง BottomLiner สรุปรวมมาให้แล้วว่ารายได้ของ Singtel มาจากไหนบ้าง
(ข้อมูลจากรายงานประจำปีล่าสุด)
#เครือข่ายมือถือ 34%:
ส่วนนี้เป็นแหล่งรายได้หลักของ Singtel มาอย่างยาวนาน มีฐานลูกค้าใหญ่อยู่ในสิงคโปร์และออสเตรเลีย (ผ่านบริษัท Optus ที่ Singtel เป็นเจ้าของ) นอกจากนี้ยังลงทุนในบริษัทเครือข่ายมือถือต่าง ๆ ในภูมิภาค (รวมถึง AIS บ้านเราด้วย)
#อุปกรณ์ต่างๆ 40%
ซึ่งแบ่งเป็น
- Smart Gadget ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ Lifestyle (ICT) 26%:
- Smart Phone/ Tablet และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ 14%:
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มบริการของ Singtel ให้ครบวงจร ช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสซื้อบริการอื่น ๆ ของ Singtel ต่อจากการซื้ออุปกรณ์ด้วย
#บริการ Internet และ Data 21%:
ส่วนนี้ได้ประโยชน์จาก Demand อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการข้อมูลอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
#อื่นๆ 5%:
เช่น รายได้จาก บริการดาวเทียม โทรศัพท์ระหว่างประเทศ การให้เช่าอุปกรณ์และสถานที่ด้านโทรคมนาคม รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มใหม่ ๆ
เนื่องจากมีบริการที่หลากหลาย
กลยุทธ์ของ Singtel จึงเป็นการเน้นขายบริการแบบ Bundle (โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และทีวี) ขายแบบติดสัญญา และบริการเสริมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ต่อลูกค้าและการใช้ซ้ำ
นอกจากนี้ Singtel ยังพยายามออกจากธุรกิจโทรคมนาคมแบบเดิม ๆ มุ่งเน้นไปที่บริการอย่าง Cybersecurity, Cloud และ Digital Marketing ซึ่งจะทำให้ Singtel สามารถเข้าถึงตลาดที่กำลังเติบโต และมีช่องทางหารายได้เพิ่ม
#สิ่งที่น่าสนใจ
และน่าไปทำการบ้านต่อบนหุ้น Singtel คือ
บริษัทในเครือของ Singtel เป็นผู้ให้บริการที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของประเทศที่มีโอกาสเติบโตสูงอย่างอินเดีย และ อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรวัยทำงานสูง และประชากรมีอายุเฉลี่ยเพียง 28 และ 30 ปีตามลำดับเท่านั้น
นอกจากนี้หุ้น Singtel เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลค่อนข้างสูง
(ข้อมูลจาก dividends.sg)
ปี 2022 จ่ายปันผล 4.98%
ปี 2023 จ่ายปันผล 5.44%
ใครที่สนใจหุ้นเน้นมั่นคง แข็งแรง ปันผลเรื่อย ๆ ลองศึกษากันเพิ่มได้เลยครับ
#ซื้อที่ไหน
พอบอกเป็นหุ้นสิงคโปร์ หลายคนอาจจะเบือนหน้าหนี เพราะวุ่นวายเหลือเกิน กว่าจะไปซื้อหุ้นได้
ไหนจะต้องแลกเงิน ทำเรื่องขอลงทุนต่างประเทศต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย
จะบอกว่าใจเย็นก่อน ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะเร็ว ๆ นี้ เราจะสามารถลงทุนในบริษัท Singtel ผ่านตลาดหุ้นไทยได้แล้ว ในรูปแบบของตราสารแสดงสิทธิ์ในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ DR นั่นเอง ซึ่งสามารถใช้พอร์ตหุ้นไทยซื้อขาย SINGTEL DR ได้ในสกุลเงินบาท ไม่ต้องแลกเงินเอง วิธีการซื้อขาย ค่าธรรมเนียมและภาษีเหมือนกับการซื้อขายหุ้นไทยเลย และมีโอกาสได้กำไรจากส่วนต่างราคาและเงินปันผล เสมือนไปลงทุนเองโดยตรง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อ IPO SINGTEL80 ได้ในวันที่ 25 - 27 มีนาคม 2567 นี้ ที่ บล. เมย์แบงก์ โทร 02-658-5050
หรือ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/link/bottomliner-dr-singtel80
#Krungthai #กรุงไทย #DR80 #Singtel80 #SingtelDR #หุ้นต่างประเทศ
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขและความเสี่ยงต่าง ๆ ของตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศก่อนการตัดสินใจลงทุน เช่น ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ต่างประเทศ และ ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากหนังสือชี้ชวนได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. www.sec.or.th
โฆษณา