18 มี.ค. เวลา 10:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รู้จักกลยุทธ์ STRADDLE

ใช้ OPTION ทำกำไรได้ แม้ไม่รู้หุ้นจะไปทางไหน !
 
หากใครไม่รู้เรื่อง Option เราแนะนำให้ทำความเข้าใจเรื่อง การซื้อ Call และ Put ก่อนนะครับ เพราะไม่งั้นอ่านบทความนี้แล้วจะงงตาแตก เนื่องจากเป็นเรื่องของ Option ที่ Advance ขึ้น
Straddle ใช้ในสถานการณ์ไหน ?
เคยไหม ไม่รู้ว่าหุ้นจะไปทางไหน รู้แต่ว่า มันไม่ควรอยู่ตรงนี้ ไม่ขึ้นแรงก็ต้องลงแรงแน่นอน !!!
ยกตัวอย่างเช่น พรุ่งนี้งบออก จากราคาปัจจุบัน เราคิดว่าหุ้นจะผันผวนแรงแน่นอน
เวลาแบบนี้แหละ straddle ตอบโจทย์
Straddle เป็นการหาผลตอบแทนจากความผันผวน จัดเป็นกลยุทธ์ด้านความผันผวน (Volatility Strategies) อย่างหนึ่ง สามารถทำกลยุทธ์ได้ทั้ง Long Straddle และ Short Straddle (ตรงกันข้ามกัน) เช่นเดียวกับกลยุทธ์อื่นๆ
Long Straddle เป็นการซื้อ Call และ Put ที่ Strike Price เดียวกันเพื่อหวังสร้างผลกำไร จากความผันผวนที่จะสูงขึ้น หากราคาขึ้น Call Option จะเกิดกำไร และราคา Put Option จะขาดทุน และเมื่อขึ้นจนถึงจุดหนึ่ง Put Option จะไม่ขาดทุนแล้ว เพราะมูลค่าเหลือ 0 แต่ Call จะกำไรบานเบอะ และเพิ่มไปเรื่อยๆ ทำให้เป็นกลยุทธ์ limit loss unlimit profit
ในทางกลับกัน หากราคาลง Put Option จะเกิดกำไร และราคา Call Option จะขาดทุน และถึงจุดหนึ่ง Call Option ก็จะไม่ขาดทุนอีกต่อไป ส่วน Put จะได้กำไรเพิ่มไปเรื่อยๆ ทำให้ผลรวมของกลยุทธ์มีกำไร
โดยการ Long Straddle แบบพื้นฐานจะซื้อราคา Strike Price เท่ากันและจำนวนสัญญาที่เท่ากัน เพื่อให้สมดุล และเวลาคิด จะคิดง่ายๆว่า ราคาต้องวิ่งไปเท่าไหร่ ถึงจะกำไร
พูดแบบนี้อาจจะยังไม่เห็นภาพเราจะลองยกตัวอย่างให้เข้าใจมากขึ้น
โดยเราจะเอาหุ้น Nvidia ที่ทุกคนรู้จัก มาลองทำกลยุทธ์ Straddle กัน ราคาปิดวันก่อนหน้า (วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2023) ของ NVDA อยู่ที่ $464.61
ดังนั้นเราจะเลือกจากราคา Options ที่ใกล้ $464.61 มากที่สุดหรือที่ราคา $465.00 และตัวอย่างนี้เราจะใช้ระยะเวลาสัญญา 1 เดือน โดยทำการซื้อทั้ง Long Put ที่ราคา $23.67 Long Call ที่ราคา $25.45 โดย 1 สัญญา = 100 หุ้น ทำให้ราคาที่เราเห็นจะต้องคูณ 100 ก่อนเสมอ ดังนั้นต้นทุนการเปิดสัญญาจะอยู่ที่ $2,367 + $2,545 + ค่าธรรมเนียมซื้อขายอีกนิดหน่อยราว $1-2 หรือประมาณ $4,914
เมื่อเทียบกลับไปเป็นความผันผวนแล้วราคาในอีก 1 เดือนข้างหน้าต้องออกจากกรอบราคา $465 ±$49.14 เป็นอย่างน้อย (มาจากต้นทุน $4,914 เมื่อเทียบกับความผันผวนต่อจำนวน 100 หุ้นต่อสัญญาจะอยู่ที่ $49.14) หรือก็คือราคาจะต้องลงต่ำกว่า $415.86 เพื่อให้กำไรของฝั่ง Put มากกว่าต้นทุน หรือราคาจะต้องขึ้นมากกว่า $514.14 เพื่อให้กำไรของฝั่ง Call มากกว่าต้นทุน
** Strike Price คือราคาใช้สิทธิ์ การที่ฝั่ง Long จะใช้สิทธิ์ (Exercise) ได้นั้นราคาของหุ้นจะต้องอยู่ในสถานะ In Money กรณีของฝั่ง Put หรือสิทธิ์ขายหาก Strike Price อยู่ที่ $450 ราคาหุ้นต้องอยู่ต่ำกว่า $450 ในกรณีของฝั่ง Long หรือสิทธิ์ซื้อหาก Strike Price อยู่ที่ $450 ราคาหุ้นจะต้องอยู่สูงกว่า $450
แล้วเมื่อไหร่ ควรใช้ Long Straddle??
เวลาที่คิดว่า หุ้นน่าจะวิ่งสักทาง แต่เราไม่แน่ใจทิศทาง เช่น
จะมีการประกาศตัวเลขผลประกอบการ (Earning Call)
มีข่าวอัพเดทเกี่ยวกับการผลิตในโรงงาน หรือสินค้าของบริษัท
หรือจากปัจจัยภายนอก
จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อ
มีเหตุการณ์สำคัญ เช่น FED ประชุม มีให้สัมภาษณ์
ส่วน Short Straddle นั้น ตรงกันข้าม ไว้เล่าถัดไปครับ และบอกได้เลยว่า มันมีประโยชน์มากๆ
.
Bottomliner
โฆษณา