ทำไมพญานาคถึงติดอยู่แต่ในตัณหา?

หลายคนเข้าใจว่าภพภูมิของสัตว์กายสิทธิ์อย่างพญานาค(ไม่ใช่นาค) มีแต่ความสุขสบาย เต็มไปด้วยความสุข ประณีต สวยงาม แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าภพภูมินี้ไม่ค่อยมีความสงบทางใจเท่าใดนักหากตัวพญานาคนั้นไม่คิดแสวงหาความสงบ ก็จะตกเป็นเครื่องมือของอารมณ์ได้ง่าย เผลอๆก็ง่ายกว่ามนุษย์เราเสียอีก
หากใครเคยได้อ่านพระไตรปิฎกจะพบหลายเหตุการณ์มากที่บันทึกถึงพฤติกรรมของพญานาคหรือพระยานาค อาทิเช่น มีนางพญานาคตนหนึ่งเห็นพระสงฆ์หนุ่มรูปงามจึงแปลงกายเป็นสาวงามเข้าไปยั่วยวนพระสงฆ์รูปนั้นจนท่านเกิดกำหนัดอารมณ์ทางเพศ เสพสังวาสกับนางนาคีสาวตนนั้นเสียเลย
แสดงให้เห็นว่าพวกนาคนั้นมีความพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ได้ง่าย(เช่น ความโกรธ อารมณ์ทางเพศ อารมณ์เศร้าโศก เป็นต้น) แถมยังมีความใคร่กับทั่วทุกเผ่าพันธุ์ ในบางเหตุการณ์พญานาคชายก็ไปเสพสมกับนางกินรีบ้าง งูบ้าง ปลาบ้าง มังกรบ้าง จระเข้ก็มี กล่าวคือสามารถแปลงกายไปเสพสมกับสัตว์ชนิดใดก็ได้(รวมมนุษย์ด้วย)
อย่างในตอนหนึ่งของชาดกเรื่องภูริทัตตชาดก ได้มีการพรรณนาเล่าว่าพญานาคนั้นเป็นพวกโกรธง่าย ไม่เหมาะจะอยู่กินกับมนุษย์ เพราะถ้าเกิดเรื่องไม่พอใจ พญานาคก็จะถลึงตาใส่มนุษย์จนเกิดพลังงานดั่งสายฟ้าฟาดทำให้มนุษย์ตายทันที
พวกพญานาคหลายตนที่ไม่ได้ปฏิบัติใจใฝ่ธรรมะจึงล้วนแล้วแต่โดนกระแสแห่งกามฉันทะดึงไป ให้เป็นทาสของอารมณ์ทั้งสิ้น
โดยเฉพาะอารมณ์ในด้านของตัณหา อันประกอบไปด้วย กามตัณหา คือ ความกระหาย ความกระสัน ความใคร่อยาก ความต้องการสัมผัส ต้องการครอบครอง ต้องการได้นั่น ต้องการมีนี่(Wanting things)
ภวตัณหา คือ ความอยากเป็น(Wanting to be) ส่วนตัณหาชนิดสุดท้ายคือวิภวตัณหา คือ ความไม่อยากมี ความไม่อยากเป็น ความไม่อยากเจอและไม่อยากโดนก็รวมอยู่ในวิภวตัณหาด้วย(Doing not to be, Doing not to have)
จึงกล่าวได้ว่านอกจากมนุษย์ปุถุชนแล้วก็มีพวกพญานาคนี่แหละที่มีความอยาก และพ่ายแพ้ต่อตัณหาได้ง่าย แต่พวกพญานาคจะพิเศษกว่ามนุษย์หน่อยตรงที่พญานาคจะไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติ ไม่อยากได้สิ่งของของใคร
แต่ถึงอย่างนั้นพญานาคก็ไม่อาจบรรลุธรรมในอัตภาพพญาอสรพิษใหญ่ได้ ต้องบำเพ็ญเพียรเพื่อให้ตัวเองได้จุติมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้วปฏิบัติทาน,ศีลและภาวนาเพื่อมุ่งสู่การหลุดพ้นเท่านั้น
มนุษย์เราแม้เป็นโลกียชนผู้ยังมีกิเลสเหลือในใจนั้นยังถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่สามารถกล่อมเกลาจิตใจให้สูงส่งได้ง่ายกว่าพญานาค เพราะพญานาคที่ไม่เคยพบพระพุทธเจ้าหรืออริยสงฆ์มาโปรดถึงบาดาลภพ ก็ล้วนไม่รู้จักหลักปฏิบัติทำตนสันโดษ ๓ ประการ
ปฏิบัติสันโดษ ๓ นี้มีในพระไตรปิฎกพุทธวัจนะ อันได้แก่ ๑) การยินดีในสิ่งที่ได้ ได้มาแค่ไหนก็จงพอใจไม่คิดอยากได้อีก ไม่คิดกอบโกยอีก ๒) การยินดีในความสามารถของตน คือ เป็นได้แค่ไหน หรือหามาได้เท่าไร หรือแสวงความสุขได้มากน้อยเท่าใด ก็จงยินดีพึงพอใจเสีย จิตจะได้สบายเบา ๓) การยินดีว่าถึงเราจะต้องเป็นเช่นไร ตกอยู่ในสถานะใดก็พึงใจยอมรับ ไม่ฟุ้งซ่านน้อยใจกับสถานภาพที่ได้รับ
สรุปง่ายๆก็คือ หากเราควบคุมอยาก(ตัณหา)ไม่ได้ ก็เป็นทุกข์หนัก แต่ถ้าควบคุมได้น้อย ก็เป็นทุกข์ไม่มาก และถ้าควบคุมความอยากได้มากถึงมากที่สุด หรือยิ่งไม่รู้สึกอยากเลยได้ก็ยิ่งมีความสุขเบา สบายใจ ไม่ทุกข์อีกต่อไป
การเกิดในโลกมนุษย์นี้องค์พระพุทธเจ้าถือว่าเป็นภพภูมิที่ดีที่สุดใน ๓๑ ภพภูมิเพราะมีทั้งสุขและทุกข์ให้พิจารณา ทำให้เกิดความเบื่อละวางได้ง่าย เพราะมนุษย์ต้องคอยรักษาสถานภาพความสุขไว้ให้ได้ไม่งั้นก็จะตกสู่ความทุกข์ได้
ตัวอย่างเช่น คนรวย ถ้าถลุงทรัพย์โดยไม่ขวนขวายมาเพิ่ม ก็จะตกสู่ความข้นแค้น เพราะพวกคนรวยยิ่งได้มาเยอะก็ยิ่งใช้เยอะ(หรือถึงไม่ใช้ แต่เขาก็จะคอยล่าเงินไปจวบชั่วชีวี) ในขณะที่คนจน ถ้าขยัน ก็ยังพยุงชีพต่อไปได้อยู่ แม้ว่าจะลำบากอยู่ดีเพราะโครงสร้างของประเทศเราไม่เอื้ออำนวยให้คนจนได้มีโอกาสรวยบ้าง
เห็นไหมว่ามองไปทางไหนก็มีแต่กองก้อนแห่งความทุกข์เต็มไปหมด ทั้งที่เห็นแล้วรู้ตัวและเห็นแล้วแต่ไม่รู้ตัว ขึ้นอยู่กับสติปัญญาเฉพาะบุคคล ว่าเห็นรู้แล้วจะฉุกคิดขึ้นมาเพื่อตื่นรู้ได้มากน้อยแค่ไหน
เราเป็นมนุษย์ในมนุษยโลกา มีแบบอย่างความทุกข์ ความสุข ให้เห็นอยู่มากมายดารดาษรอบด้าน โปรดใช้ปัจจัยเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์ในการทำความเข้าใจว่าความสุขที่แท้ ย่อมเป็นอื่นไปมิได้นอกจากความสงบร่มเย็นในอารมณ์ ไม่ปรารถนาปรุงแต่งและทำใจยอมรับว่าทุกอย่างคือธรรม(ธรรมดา) ไม่มีการแบ่งแยกว่านี่คือสุข นี่คือทุกข์
หากทำไม่ได้ หรือฉุกคิดมองเห็นไม่เป็น ต่อให้เราได้มาเกิดในมนุษยโลกาที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบชั้นดีรอบตัวสำหรับใช้ในการปรุงอาหารที่ชื่อนฤพานอยู่เยอะแค่ไหนก็ตาม แต่เราก็คงไม่ต่างอะไรกับพวกพญานาค...
ที่ติดอยู่ในกับดักของอารมณ์ความปรารถนาไม่รู้จบ ดังเช่นในหมู่พวกพญานาคที่เป็นพญานาคนักเสพกามคุณ แม้มีแวดล้อมไปด้วยทรัพย์ทิพย์ ดอกไม้ทิพย์ กลิ่นหอมวิเศษ ถ้ำทอง ปราสาทมณี แต่ก็ยังไม่สิ้นความอยากเสียที เพราะติดใจในความใคร่ไม่เว้นแต่ละวินาที
{บทความนี้เขียนโดยแอดมินนาโค สามารถก็อปปี้บทความไปเป็นธรรมทานได้ฟรี เพียงแต่ให้เครดิตแอดมินนาโค แห่งเฟซบุ๊คเพจ 'ธรรมะแฟนตาซี' เพื่อจะได้ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ}
#พญานาค #ตัณหา #ตัณหา๓ #ธรรมะ #หลักธรรม #พระพุทธศาสนา
โฆษณา