19 มี.ค. เวลา 11:56 • กีฬา

"อาหมัดโดนแบนนัดไหน??" : อธิบายกฎการแบนจากใบเหลือง/ ใบแดงในรายการแข่งขันฟุตบอลของอังกฤษให้กระจ่าง

การโดนใบเหลือง-แดงของ อาหมัด ดิยัลโล่ หลังจากที่อาหมัดดันลืมตัวถอดเสื้อดีใจเมื่อซัดประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพลิกชนะลิเวอร์พูล 4-3 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ในตอนแรกมีหลายคนสับสนกันพอสมควร...
ว่าสรุปแล้วปีกดาวรุ่งทีมชาติไอวอรี่โคสต์จะติดโทษแบนในรายการไหนกันแน่? ระหว่างโดนทันทีในโปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องบุกเยือนเบรนท์ฟอร์ดในช่วงหลังเบรกทีมชาติ หรือจะโดนแบนเฉพาะในรายการนี้ ซึ่งจะทำให้อดช่วยทีมในเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ต้องพบกับ โคเวนทรี ซิตี้ ที่เวมบลีย์
เชื่อว่าตอนนี้หลายคนน่าจะรู้กันดีแล้ว ว่าสรุปแล้ว อาหมัด ดิยัลโล่ จะโดนแบนทันทีในเกมลีกนัดต่อไปกับเบรนท์ฟอร์ด นั่นหมายความว่าเขาจะพร้อมช่วยทีมในเกม เอฟเอ คัพ รอบหน้าได้ตามปกติครับ
หลักการแบนนักเตะจากโทษใบเหลือง-ใบแดงของฟุตบอลอังกฤษ คิดง่ายๆ เลยก็คือ ใบเหลืองนับเฉพาะรายการนั้นเท่านั้น ส่วนการโดนไล่ออกจากสนาม ไม่ว่าจะเป็นการโดนใบแดงโดยตรง หรือโดนใบเหลืองที่สองในเกม จะต้องติดโทษแบนในนัดต่อไปทันที โดยนับรวมทุกรายการในประเทศ
สำหรับกฎการแบนจากใบเหลืองของพรีเมียร์ลีก ถ้าหากสะสมครบ 5 ใบภายใน 19 นัดแรก จะต้องติดโทษแบน 1 นัด และถ้าหากสะสมครบ 10 ใบภายใน 32 นัดแรก จะต้องติดโทษแบน 2 นัด
ถ้าหากใครสะสมใบเหลืองครบ 15 ใบในพรีเมียร์ลีก 1 ซีซั่น จะต้องติดโทษแบนยาว 3 นัด และถ้าใครโดนใบเหลืองมากถึง 20 ครั้งจะต้องถูกเอฟเอตั้งข้อหาว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วย
อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ยังไม่เคยมีนักเตะคนไหนโดนใบเหลืองเกิน 14 ใบในฤดูกาลเดียวกันมาก่อน ซึ่งมีผู้เล่นถึง 9 คนที่เป็นเจ้าของสถิตินี้ร่วม และคนสุดท้ายที่โดนใบเหลืองถึง 14 ใบในพรีเมียร์ลีก 1 ซีซั่นคือ ชูเอา ปาลินญ่า กองกลางของฟูแล่มเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ส่วนกฎการสะสมใบเหลืองในฟุตบอลถ้วย จะโดนแบนก็ต่อเมื่อสะสมใบเหลืองไปครบ 2 ใบในรายการนั้นเท่านั้น และจะล้างใบเหลืองทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดรอบ 8 ทีมสุดท้าย
นั่นหมายความว่านักเตะที่จะติดโทษแบนในฟุตบอลถ้วยนัดชิงชนะเลิศ ต้องเป็นเพราะโดนไล่ออกจากสนามในโปรแกรมแข่งของสโมสรก่อนนัดชิงเท่านั้น
อย่างที่บอกไป การโดนแบนด้วยใบเหลือง จะนับเฉพาะรายการเท่านั้น ไม่มีการข้ามรายการเด็ดขาด
นิโคลัส แจ็คสัน กองหน้าเชลซี คือนักเตะคนแรกที่สะสมใบเหลืองครบ 5 ใบในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่เขาโดนแบน 1 นัดเฉพาะในเกมลีกเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น นิโคลัส แจ็คสัน กองหน้าของเชลซี ที่เป็นนักเตะคนแรกที่โดนใบเหลืองครบ 5 ใบในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (หลักๆ มาจากการประท้วงและกดดันผู้ตัดสินในช่วงต้นซีซั่น) เขาโดนใบเหลืองครบ 5 ใบตั้งแต่เกมลีกนัดที่ 6 ของฤดูกาล นัดที่เชลซีแพ้ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 0-1 เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2023
โปรแกรมของเชลซีหลังจากนัดนั้น คือเกม คาราบาว คัพ รอบ 3 นัดที่ต้องเปิดบ้านพบไบรท์ตันในวันที่ 27 กันยายน 2023 ซึ่งแจ็คสันสามารถลงสนามได้ตามปกติ และเป็นคนทำประตูชัยให้ทีมชนะ 1-0 แต่เขาต้องโดนแบนในเกมนัดถัดมา ที่บุกไปชนะฟูแล่ม 2-0 ซึ่งเป็นโปรแกรมเกมลีกแทน
แล้วเหตุผลที่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ไม่สามารถลงสนามให้เชลซีในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่เปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ ก็เพราะกองกลางทีมชาติอาร์เจนตินาสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบในรายการนี้ไว้ก่อน ใบแรกคือเกมรอบ 4 นัดรีเพลย์ที่บุกไปชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 และใบที่สองคือเกมรอบ 5 ที่เปิดบ้านชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2
แต่สำหรับกรณีการโดนไล่ออกจากสนาม ไม่ว่าจะเป็นการโดนใบแดงโดยตรง หรือโดนใบเหลือง 2 ครั้งในเกมเดียว จะต้องติดโทษแบนในโปรแกรมนัดถัดไปที่เป็นรายการแข่งขันในประเทศทันที ไม่ว่าจะเป็นเกมพรีเมียร์ลีกหรือถ้วยไหนก็ตาม
การโดนใบเหลือง 2 ใบในเกมเดียวกัน เขาจะนับว่าเป็น 1 ใบแดง และแบน 1 นัด โดยไม่นับใบเหลืองแรกที่โดนในเกมนั้นไปสะสม เหมือนอย่างเคสที่ อาหมัด ดิยัลโล่ เพิ่งโดนไปเป็นคนล่าสุด
แต่ถ้าหากเป็นใบแดงโดยตรงจากการเล่นที่รุนแรง เช่นเข้าสกัดอันตรายที่เสี่ยงให้คู่แข่งบาดเจ็บ หรือพฤติกรรมรุนแรง อาจจะต้องโดนแบนถึง 3 นัด
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว คาเซมิโร่ กองกลางตัวรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนใบแดงโดยตรงในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ทีมปีศาจแดงเปิดบ้านชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 เมื่อวีเออาร์เช็คภาพช้าแล้วมองว่ากองกลางทีมชาติบราซิลมี "พฤติกรรมรุนแรง (violent conduct)" จากการใช้ 2 มือไปจับคอของ วิลล์ ฮิวจ์ส
ซึ่งถึงแม้ตัวคาเซมิโร่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายร่างกาย วิลล์ ฮิวจ์ส เลย โดยแค่พยายามห้ามปรามจังหวะมีเรื่องกันในสนามเท่านั้น แต่พอผู้ตัดสินยืนยันที่จะให้ใบแดงโดยตรง เพราะชี้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ดูรุนแรงจริงๆ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจยอมรับโทษแบน 3 นัดของคาเซมิโร่ในพรีเมียร์ลีกไปโดยไม่ยื่นอุทธรณ์ จะได้ให้นักเตะพ้นโทษกลับมาลงเล่นในเกม คาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศได้พอดี
ในช่วงระหว่างนั้น คาเซมิโร่สามารถลงสนามในเกม ยูโรปา ลีก กับบาร์เซโลน่าได้ตามปกติ เพราะโทษแบนจะมีผลเฉพาะ "ทุกรายการในประเทศ" เท่านั้น ไม่นับรวมในฟุตบอลยุโรป แล้วพอคาเซมิโร่กลับมาลงเล่นในรายการของอังกฤษได้อีกครั้ง เขาก็ช่วยทีมเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 ในนัดชิง คาราบาว คัพ ได้อีก โดยเป็นคนโหม่งทำประตูขึ้นนำ 1-0 ให้ทีม
เคสของ โรดรี้ มิดฟิลด์ตัวรับคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โดนใบแดงโดยตรงในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ทีมเรือใบสีฟ้าเปิดบ้านชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-0 ในช่วงต้นซีซั่นก็เช่นกัน เขาโดนแบน 3 นัดในรายการในประเทศด้วยข้อหา violent conduct
3 นัดที่โรดรี้โดนแบนไปในตอนต้นฤดูกาล แมนฯ ซิตี้ แพ้รวดทั้ง 3 เกม ประกอบด้วยเกม คาราบาว คัพ รอบ 3 ที่บุกแพ้นิวคาสเซิ่ล 1-0 และเกมพรีเมียร์ลีกอีก 2 นัด ที่บุกแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 และบุกแพ้อาร์เซน่อล 1-0
แต่ในช่วงระหว่างนั้น กองกลางตัวหลักทีมชาติสเปนลงช่วยทีมในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างไม่มีปัญหา และจนถึงตอนนี้ โรดรี้ทำสถิติลงสนามให้ แมนฯ ซิตี้ แล้วไร้พ่ายนานถึง 62 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการเข้าไปแล้ว
สำหรับใบแดงโดยตรงจากจังหวะตั้งใจขัดขวางโอกาสทำประตูอย่างจะแจ้งของคู่แข่ง (ภาษาอังกฤษเรียกสั้นๆ ว่า DOGSO ย่อมาจาก Denying an Obvious Goal-Scoring Opportunity) ที่อาจไม่ใช่การฟาวล์ที่รุนแรง จะติดโทษแบนแค่ 1 นัดเท่านั้น
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว วิลเลี่ยนโดนใบแดงจากจังหวะตั้งใจทำแฮนด์บอลป้องกันลูกยิงเข้ากรอบของ แมนฯ ยูไนเต็ด ใน เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่จังหวะนี้ถือว่าแบน 1 นัด และโดนในโปรแกรมนัดถัดไปในรายการในประเทศทันที
ตัวอย่างเช่น วิลเลี่ยน ปีกของฟูแล่ม ที่โดนใบแดงโดยตรงใน เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายฤดูกาลที่แล้ว จากจังหวะเจตนาทำแฮนด์บอลเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกยิงของ เจดอน ซานโช่ พุ่งเข้าประตู เขาถูกแบนแค่นัดเดียวในพรีเมียร์ลีกนัดถัดมา แล้วหลังจากนั้นก็ลงสนามให้ทีมเจ้าสัวน้อยได้ตามปกติ
หวังว่าโพสต์นี้จะช่วยอธิบายให้กระจ่างเข้าใจตรงกันนะครับ ว่าเมื่อเห็นนักเตะของทีมในพรีเมียร์ลีกสะสมใบเหลืองครบโควตาในรายการไหน หรือโดนไล่ออกจากสนามในเกมไหน จะต้องโดนแบนในนัดไหนกันแน่
#เสียบสามเหลี่ยม #อาหมัด #อาหมัดดิยัลโล่ #กติกาฟุตบอล #เอฟเอคัพ #พรีเมียร์ลีก #ใบแดง #กฎใบเหลืองใบแดง #ฟุตบอลอังกฤษ
โฆษณา