20 มี.ค. เวลา 02:39 • ปรัชญา
ผมมองอย่างนี้นะครับว่า สิ่งต่างๆย่อมเดินทางไปสู่ความไร้ระเบียบยุ่งเหยิงสับสนอลหม่าน ถึงแม้กระนั้นก็ตาม นักฟิสิกส์ก็ยังหาทฤษฎีหรือหลักสูตรในการคำนวณ เพื่อมาอธิบายความยุ่งเหยิง ให้เข้าใจความยุ่งเหยิงอีกที ว่าทำไมมันถึงยุ่งเหยิงสับสน ด้วยเพราะเหตุใด แปลกไหมครับ
อย่างเช่น
ทฤษฎี ความโกลาหล (Chaos theory) ที่จะนำไปสู่ปรากฏการณ์ the butterfly effect มันช่างคล้ายกับ "ปฏิจจสมุปบาท" ซะจริงเลย ความโกลาหลที่มีเหตุผล เมื่อสิ่งนั้นเกิด สิ่งนี้ย่อมเกิด ความโกลาหลสับสนอลหม่านที่มีระเบียบขั้นตอนในการเกิดขึ้น
หรืออย่าง ทฤษฎี Fermi paradox ทฤษฎีโต้แย้งการมีตัวตนของมนุษย์ต่างดาว หรือทฤษฎีอย่าง Time paradox ความขัดแย้งของเวลา ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้วที่ซ้อนกับความเป็นจริงใหม่ ความเป็นจริงที่หายไป กับความเป็นจริงในอดีตที่เคยเกิดขึ้น ความจริงที่คู่ขนานกัน หรือความซับซ้อนของจำนวนดวงดาวที่ steven hawking อธิบายไว้ ก็ยังสามารถหาสูตรคำนวณในทางคณิตศาสตร์มาอธิบายความยุ่งเหยิงจนได้ ว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น
คือ ความยุ่งเหยิงที่สามารถอธิบายได้ มันก็ยังมีระเบียบหรือระบบในการอธิบาย สุดท้ายมนุษย์ก็หาทางอธิบายจนได้อยู่ดี
แม้แต่กระทั่ง ทฤษฎี ความจริงอันประเสริฐที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ที่เป็นความรู้ที่เป็น"ปัจจัตตัง" ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยภาษา แต่พระพุทธเจ้าก็ยังทรงนิยาม และทิ้งแผนที่ไว้ให้กับสัตว์โลก เพื่อเป็นแนวทางในการไปถึงความรู้นั้น เพื่อพิสูจน์ความจริง
ความเป็นจริงที่ไร้ขีดจำกัด จักรวาลมีเป็นอนันต์ ความเป็นจริงจึงมีเป็นอนันต์เช่นกัน ความเป็นจริงจึงยุ่งเหยิงสับสนวุ่นวาย ภายใต้กฎของธรรมชาติที่เป็นระบบ เพื่อที่จะอธิบายว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
1
ขอโทษครับ ผมดูหนังเยอะเกินไป
-doctor strange ภาค 1
-อินเตอร์สเตลลาร์
-the butterfly effect
-ลูซี่ สวยพิฆาต
-the flash
-นิยายวิทยาศาสตร์ ทฤษฎีสมคบคิดแปลกประหลาดพิจิตรพิสดาร
1
โฆษณา