22 มี.ค. เวลา 07:17

ย้อนผลงานเด่นพระเอกหนังไทยร้อยล้าน เมฆ-วินัย ไกรบุตร

วินัย ไกรบุตร หรือเมฆ นักแสดงเจ้าของฉายา “พระเอกร้อยล้าน” เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2567 ขณะอายุ 54 ปี หลังจากป่วยเป็นโรคตุ่มพองเรื้อรัง 5 ปี ทิ้งไว้เพียงผลงานโดดเด่นอย่างบท “พ่อมาก” ในภาพยนตร์ “นางนาก” ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ทำรายได้จากการขายบัตรชมภาพยนตร์ วัดเฉพาะรายได้ในโรงภาพยนตร์ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทะลุ 150 ล้านบาท ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน Sarakadee Lite ขอพาไปย้อนผลงานเด่นพระเอกหนังไทยร้อยล้าน “เมฆ-วินัย ไกรบุตร” อีกครั้ง
วินัย ไกรบุตร ฉายาพระเอกหนังไทย 100 ล้าน มาจากงานแสดงหนังไทยทะลุหลักร้อยล้าน 2 เรื่องต่อเนื่อง เริ่มจาก นางนาก (2542) และ บางระจัน (2543) โดยบทของ “พี่มาก” หรือ “พ่อมาก” ในภาพยนตร์ นางนาก เป็นผลงานการกำกับของ นนทรีย์ นิมิบุตร เป็นหนังที่ทำเงินได้สูงสุดในยุคหนังไทยกลับมาเฟื่องฟู หลังอุตสาหกรรมหนังไทยซบเซาในยุควิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 นางนาก จัดจำหน่ายโดย ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์
ต่อเนื่องด้วย “บางระจัน” ภาพยนตร์แอ็คชั่นแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ศึกบางระจัน รายได้ทะลุหลัก 100 ล้านบาท งานกำกับของ ธนิตย์ จิตนุกุล สร้างและจัดจำหน่ายโดย ฟิล์มบางกอก ครั้งนั้น วินัย ไกรบุตร รับบทเป็น “อ้ายอิน” หนึ่งในหนุ่มผู้กล้าแห่งทุ่งบางระจันที่นำทัพชาวบ้านต้านข้าศึกในสมัยอยุธยา ถือเป็นหนึ่งหนังไทยปลุกกระแสรักชาติและความเป็นไทย
ในด้านการทำงานนั้น วินัย ถือเป็นนักแสดงที่มี "วินัย" สมชื่อ ซึ่งผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร ได้กล่าวอาลัยถึงพระเอกของเขาต่อหน้าสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ว่า วินัยจะมาตรงเวลา และก่อนเลิกงานจะถามผู้กำกับเสมอว่าวันนี้โอเคไหม พรุ่งนี้จะทำอะไรกัน อีกทั้งนนทรีย์ยังได้บอกเหตุผลที่คัดเลือกวินัยมารับบทพี่มากว่า "เมฆเขามีความซื่อในแววตา ทำให้พี่เชื่อว่าเขาเป็นไอ้มากได้จริงๆ
ส่วนในด้านการทำงานเมฆให้ความร่วมมือมากในการทำงาน เช่นบอกให้ไป (ปั้น) ทำกล้ามมาก็ทำนะ เมฆเป็นคนกล้าเล่น หลายๆ ฉากที่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าเล่น ด้วยความตั้งใจของเขา ในความใส่ใจของเขา มันเป็นส่วนที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ และทำให้ตัวเขาเองมีชื่อเสียงเป็นพระเอกร้อยล้าน" หลังจากเรื่องนางนาก วินัย ไกรบุตร ก็ได้ร่วมงานแสดงในหนังของผู้กำกับนนทรีย์อีกครั้งในหนังแฟนตาซีแอ็คชั่นเรื่อง "ปืนใหญ่ จอมสลัด" ปี 2551
ชื่อของ วินัย ไกรบุตร มักมาพร้อมกับภาพของพระเอกย้อนยุค หนังไสยศาสตร์ และหนังผี หลังความสำเร็จคู่พระ-นาง พี่มากและนางนากในภาพยนตร์ นางนาก (2542) วินัย ไกรบุตร ก็ได้แสดงนำคู่กับ ทราย-อินทิรา เจริญปุระ อีกครั้งในละคร อตีตา (2544) และรอยไถ (2545) ซึ่งทราย-อินทิรา เจริญปุระ ได้โพสต์ข้อความอาลัยทางอินสตาแกรมถึงเบื้องหลังงานแสดงคู่กับ เมฆ-วินัย ครั้งแรกใน นางนาก ไว้ว่า
"นึกไม่ออกเลยนะว่าใครจะมาดูหนังที่คนตัวดำๆ ผมสั้นๆ นุ่งห่มสีมอๆ เล่นกันอยู่แทบจะสองคนทั้งเรื่อง แต่ถ้าจะมีคนมาดู จะบังเอิญซื้อตั๋วหรือได้แจกฟรีมา ก็อย่าให้เขาด่าได้ว่าพระนางมันเล่นแสนจะห่วยแตก เราก็เต็มที่กันเนอะ พี่เมฆเป็นคนเต็มที่จริงๆ ไม่เกี่ยงงอน ตั้งแต่ตอนนางนากแล้ว
และแกบอกว่าทุกเรื่องหลังจากนางนาก คือของขวัญสำหรับแก สำหรับคนที่คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เล่นอะไรในวงการแล้ว จะเรื่องอะไรเข้ามาแกสู้หมด เต็มที่แล้วจริงๆ นะพี่นะ ขอบคุณมากๆ และดีใจอย่างยิ่งที่เราได้ร่วมงานกัน" สำหรับผลงานเรื่องสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้กลับมาเล่นรับเชิญในบทพ่อมากและแม่นาก หนังไทยเรื่อง "แดง พระโขนง" ออกฉายปี 2565
นอกจากภาพยนตร์ไทยแล้ว วินัยยังเคยร่วมงานกับภาพยนตร์สัญชาติกัมพูชาเรื่อง “งูเก็งกอง” คู่กับนางเอกกัมพูชา กำกับโดย ไฟท์ สำอาง ออกฉายเมื่อปี 2544 นอกจากนี้ยังมีบทบาท “ไกรทอง” จากนิทานพื้นบ้านไทยในภาพยนตร์ ไกรทอง ฉบับปี 2544 และธรณีกรรแสง ปี 2545
ผลงานเด่นในปี 2559-2560 ก่อนอาการป่วยรุนแรง ได้แก่ “ผีบุญเพ็ง” เล่าถึงต้นเรื่องของตำนาน “บุญเพ็งหีบเหล็ก” ในซีรีส์ “ดิแองเจิล นางฟ้าล่าผี ปี 2” ทางช่อง MONO 29 (โมโนทเวนตี้ไนน์) ปี 2559 ซึ่งทำให้เขาได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีผลงานที่ฉีกภาพลักษณ์บทชายไทยแท้ที่คุ้นตาของ วินัย ไกรบุตร คือบท “เสือ” หนึ่งในแก๊งกะเทยที่วางแผนปล้นธนาคารในหนังแอ็คชันตลก งานกำกับของ พชร์ อานนท์ ออกฉายปี 2547
วินัย ไกรบุตร เกิดวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2512 เป็นชาวเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ จนจบปริญญาตรีและปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากงานถ่ายแบบ โฆษณา และมิวสิกวิดีโอ ผลงานแสดงในละครโทรทัศน์เรื่องแรกเรื่อง ฉุยฉาย (2536) ทางช่อง 3 ส่วนภาพยนตร์เรื่องแรกได้แก่ หอบรักมาห่มป่า (2537) มีผลงานต่อเนื่องในบทสมทบช่วงปี 2536-2542 ก่อนจะได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง นางนาก
(2554) วินัย แต่งงานกับ เอ๋-ชลรดา และมีทายาทร่วมกัน 3 คน ช่วงท้ายของชีวิต วินัยป่วยเป็นโรคตุ่มน้ำพอง ที่เป็นมีอาการผิดปกติทางผิวหนังเรื้อรัง หลังจากพยายามรักษาแต่ไม่หายขาด โดยคืนวันที่ 20 มีนาคม 2567 วินัยเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จากภาวะความดันตก และติดเชื้อในกระแสเลือด ทิ้งไว้เพียงผลงานให้จดจำในฐานะนักแสดงผู้อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ยุคหนังไทยเฟื่องฟูสร้างรายได้ระดับ 100 ล้านบาทเป็นเรื่องแรก
อ้างอิง : ภาพจากละครซีรี่ส์เรื่อง ดิแองเจิล นางฟ้าล่าผี ปี2 ทางช่องโมโน 29 ปี 2559, วิกิพีเดีย, หอภาพยนตร์ องค์การ มหาชน
โฆษณา