23 มี.ค. เวลา 08:22 • กีฬา

ทำไมเกาหลีเหนือ ไม่ยอมให้ญี่ปุ่นเข้าประเทศไปเตะฟุตบอลโลก เราจะไปอธิบายแบบเข้าใจง่าย

เหตุการณ์สุดมึน ของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก คือจู่ๆ ประเทศเกาหลีเหนือก็ประกาศว่า ไม่ต้อนรับทีมชาติญี่ปุ่นให้มาแข่งขันในกรุงเปียงยาง จนต้องแคนเซิลเกมไปเลยดื้อๆ เรื่องราวเป็นอย่างไรเราจะไปอธิบายกันตั้งแต่แรกนะครับ
2
ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียหนนี้ กลุ่ม B มี 4 ทีม ประกอบด้วย ญี่ปุ่น, ซีเรีย, เกาหลีเหนือ และ เมียนมาร์
ในเกมนัดที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่ม วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม ญี่ปุ่นจะเปิดบ้านเจอเกาหลีเหนือที่โตเกียว และนัดที่ 4 วันอังคารที่ 26 มีนาคม เกาหลีเหนือจะเปิดบ้าน รับมือญี่ปุ่นที่เปียงยาง ก็คือทีมโถ 1 กับ โถ 3 เล่นสองนัดไขว้กันเหมือนไทยกับเกาหลีใต้นั่นเอง
ในภาพใหญ่ของการเมืองโลก ญี่ปุ่นกับเกาหลีเหนือ มีความขัดแย้งกันมานานแล้ว ประเทศหนึ่งปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อีกฝั่งปกครองแบบเผด็จการ นอกจากนั้นฝั่งเกาหลีเหนือยังไม่พอใจ ที่ญี่ปุ่นไปสานสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ และ สหรัฐอเมริกา คอนโทรลอำนาจในคาบสมุทรเกาหลี
2
เราจะสังเกตได้ว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธเป็นว่าเล่น โดยยิงไปในเขตใกล้กับแผ่นดินญี่ปุ่น นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
ความตึงเครียดของสองประเทศ ทำให้สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ออกมาขอร้องแฟนๆ ว่า ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ "อย่าตามไปเชียร์ที่เปียงยาง" เพราะไม่มีทางรู้ว่า เกาหลีเหนือจะทำอะไร แล้วแฟนบอลญี่ปุ่นจะปลอดภัยหรือเปล่า ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
1
การแข่งขันวันที่ 21 มีนาคมจบลงไป ญี่ปุ่นชนะ 1-0 ได้ประตูจากอาโอะ ทานากะ จากนั้นนักเตะก็เตรียมพร้อมไปแข่งนัดต่อไปที่เปียงยาง
แต่ประเด็นคือ โคโซ ทาจิมะ ประธานสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ได้แจ้งมาอย่างกะทันหันว่า เกาหลีเหนือส่งจดหมายถึง AFC ว่าไม่อนุญาตให้จัดการแข่งขันที่กรุงเปียงยาง ในวันที่ 26 มีนาคม
เหตุผลของเกาหลีเหนือคือ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเกิดการระบาดของโรคชื่อ STSS และกลัวว่าจะเอามาแพร่ใส่ประเทศของพวกเขา
โรค STSS คือผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus ซึ่งจะมีอาการเจ็บคอ ผิวหนังเป็นตุ่มพุพอง มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส แขนขาอ่อนแรงจนเกิดอาการกล้ามเนื้อตาย รวมถึงส่งผลให้อวัยวะล้มเหลว และอาจเสียชีวิตได้ สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติของญี่ปุ่นระบุว่า โรคนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 30% ทีเดียว
1
เกาหลีเหนืออ้างถึงเหตุผลนี้ จึงส่งจดหมายอย่างเป็นทางการให้ AFC ระบุว่า แมตช์นี้จะไม่จัดขึ้นที่กรุงเปียงยางอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ต้องการให้คนญี่ปุ่นเข้าประเทศ ทั้งนักเตะ สตาฟฟ์ และแฟนบอล
3
ตั้งแต่เกิดโควิด เกาหลีเหนือยังไม่ได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งกีฬานานาชาติแม้แต่อีเวนต์เดียว และเกมนี้พวกเขาก็ยังไม่พร้อม ถ้าคนญี่ปุ่นเอาเชื้อมาแพร่ใครจะรับผิดชอบ
AFC ส่งคำถามกลับไปที่สมาคมฟุตบอลเกาหลีเหนือว่า งั้นถ้าเตะในเปียงยางไม่ได้ คุณได้เตรียมแผนสองเอาไว้ไหม เตะสนามกลางก็ได้
ทางเกาหลีเหนือ แจ้งไปที่ญี่ปุ่น ขอเตะแมตช์ที่ 4 ในบ้านญี่ปุ่นต่อเนื่องไปเลยได้หรือไม่ คือไหนๆ นักเตะทั้งสองทีมตอนนี้ก็อยู่ญี่ปุ่นแล้ว
แต่ญี่ปุ่นตอบปฏิเสธ เพราะกรอบเวลามันกระชั้นชิดมาก อีก 5 วันก็จะแข่งแล้ว สมาคมยังไม่ได้เตรียมสนาม ไม่ได้ขายบัตร ไม่ได้ประชาสัมพันธ์อะไรเลย ใครจะไปจัดการแข่งได้กะทันหันขนาดนั้น
เมื่อญี่ปุ่นปฏิเสธ เกาหลีเหนือก็พยายามหาสนามของประเทศอื่น แต่ก็หาไม่ได้ ทำให้ทาง AFC ต้องประกาศยกเลิกเกมในวันที่ 26 มีนาคมนี้ไปก่อน และนำเรื่องนี้ไปปรึกษาฟีฟ่าว่าจะทำอย่างไรดี
นั่นคือเหตุผลที่ทีมชาติญี่ปุ่น ปล่อยตัวนักเตะกลับสโมสรทันที วาตารุ เอ็นโด กองกลางของลิเวอร์พูลก็จะเดินทางกลับอังกฤษ เพราะไม่มีเกมให้เล่นแล้ว เช่นเดียวกับ ทาคุมิ มินามิโนะ (โมนาโก), ไดเซ็น มาเอดะ (เซลติค) และ โค อิตาคุระ (มึนเช่นกลัดบัค) ก็จะบินกลับยุโรปทั้งหมด
1
จริงๆ แล้วญี่ปุ่นพร้อมเดินทางไปแข่งที่เปียงยาง ไม่มีปัญหาอะไรเลย โดยครั้งสุดท้ายที่ทีมชาติญี่ปุ่นบินไปเปียงยาง เกิดขึ้นในปี 2011 เพราะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกอยู่กลุ่มเดียวกัน ในเกมนั้นมีแฟนบอลญี่ปุ่น 150 คน บินตามไปเชียร์ด้วย แต่ก็ต้องเชียร์แบบมีเงื่อนไขเยอะมาก เช่น ห้ามเอาโทรศัพท์มือถือเข้าสนาม, ห้ามโบกธงชาติญี่ปุ่น และ ห้ามเชียร์ด้วยเสียงดัง เป็นการเชียร์บอลที่แปลกประหลาดอย่างมาก
3
สำหรับสถานการณ์ในป้จจุบัน ทาง AFC ระบุว่า เกมการแข่งจะยังไม่ยกเลิก แต่แค่ถูกเลื่อนออกไปชั่วคราว จนกว่าเกาหลีเหนือจะหาสนามกลางได้
อย่างไรก็ตามฝั่งญี่ปุ่นไม่ยอม และกดดัน AFC กับฟีฟ่า อย่างหนัก ว่าควรปรับเกาหลีเหนือแพ้ไปเลยสิ ที่ไม่ยอมจัดการแข่งตามโปรแกรม
รวมถึงสื่อมวลชนต่างชาติ ที่มองว่าการขอเลื่อนของเกาหลีเหนือครั้งนี้ ไม่ค่อยมีเหตุผล สตีฟ ไพรซ์ นักข่าวจากนิตยสารฟอร์บส แสดงทรรศนะว่า "ถ้าเกาหลีเหนือกังวลใจเรื่องโรคระบาดในญี่ปุ่น ก็ไม่ควรส่งทีมมาเล่นเกมที่ 3 ในโตเกียวด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้ไม่กลัวนักเตะที่มาญี่ปุ่น จะกลับไปแพร่เชื้อในประเทศบ้างหรือ"
ฝ่ายญี่ปุ่นนั้น ไม่คิดจะเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือ ถ้าคุณเอาเหตุผลเรื่องโรคมาอ้างแบบนี้ กลัวนู่นกลัวนี่ ก็ไม่ต้องแข่งกีฬากันแล้ว
นิคคัง สปอร์ต หนังสือพิมพ์กีฬาในญี่ปุ่นระบุว่า ฟีฟ่าต้องปรับเกาหลีเหนือให้แพ้ไปเลยด้วยสกอร์ 3-0 โทษฐานที่จัดแข่งขันไม่ได้ เป็นการลงโทษให้เห็นว่า ในกีฬาระดับนานาชาติ คุณไม่สามารถเลื่อนอะไรก็ได้ตามใจชอบ คือควรจะเหลือแค่ ญี่ปุ่น, ซีเรีย, เมียนมาร์ สามทีมที่ลุ้นเข้ารอบก็พอในกลุ่มนี้
ถ้าให้เห็นใจเกาหลีเหนือ แล้วมีใครเห็นใจญี่ปุ่นบ้าง ถ้าเลื่อนไปแข่งวันอื่น แล้วจะเอาแมตช์นี้ไปลงตรงไหน ฟีฟ่าเดย์เดือนมิถุนายน ญี่ปุ่นเตะกับเมียนมาร์ และ ซีเรีย จากนั้นฟีฟ่าเดย์รอบต่อไปเดือนกันยายน ก็จะเป็นฟุตบอลโลก รอบ 18 ทีมสุดท้ายแล้ว มันไม่มีสล็อตเวลาว่างเหลืออีกแล้ว
1
หรือจะแทรกๆ ยัดโปรแกรมเข้าไป ในช่วงที่ไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์งั้นหรือ? เกาหลีเหนืออาจจะเกณฑ์นักเตะมาแข่งได้ แต่ญี่ปุ่นจะไปเจรจากับสโมสรให้ยอมปล่อยนักเตะมาเล่นได้อย่างไร
ฝ่ายญี่ปุ่นมองว่านี่เป็นการเมืองอะไรแปลกๆ หรือเปล่า เพราะในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีโปรแกรมคัดโอลิมปิกของทีมฟุตบอลหญิง ซึ่งเกาหลีเหนือ ต้องเปิดบ้านที่เปียงยาง ต้อนรับญี่ปุ่น
1
แต่ก่อนแข่งแค่ 3 วัน จู่ๆ เกาหลีเหนือก็ประกาศว่าจะไม่แข่งที่เปียงยางแล้ว แต่ขอไปใช้สนามกลางที่ซาอุดิอาระเบียแทน ในคราวนั้น ญี่ปุ่นต้องหาตั๋วเครื่องบินกันวุ่น เพื่อไปลงแข่งให้ได้ ชุลมุนกันน่าดูทีเดียว
พอมาคราวนี้ ญี่ปุ่นมองว่า เกาหลีเหนือจะมาโยนภาระให้ประเทศอื่นไม่ได้ ควรโดนปรับแพ้ให้มันจบๆ ไป จะมาอ้างโรคภัยไข้เจ็บอะไร ฟังไม่ขึ้นหรอก
ในเคสนี้ญี่ปุ่นต้องเตรียมตัวจองเครื่องบินเหมาลำ เพื่อบินไปเปียงยาง ค่าใช้จ่ายมากมายเท่าไหร่ แล้วจะมายกเลิกตามใจเพื่อขอเลื่อนไปแข่งวันหลัง เงินทองเหล่านี้ใครจะรับผิดชอบ
เรื่องราวตอนนี้ก็จบลงตรงนี้ครับ ส่วนตัวผมเชื่อว่า ญี่ปุ่นยังไงก็ไม่ยอมหรอก และฟีฟ่าก็จะปรับเกาหลีเหนือแพ้ 3-0 นั่นแหละครับ
เกาหลีเหนืออยากจะไม่เปิดประเทศ ไม่ให้ใครเข้า ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พวกเขาก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่จะตามมาด้วย
ทำไมญี่ปุ่นต้องมารับผิดชอบกับความไม่พร้อมด้านการป้องกันภัยทางสาธารณสุขของเกาหลีเหนือล่ะ จริงไหม
เมื่อเราพูดถึงทีมฟุตบอลเกาหลีเหนือนั้น จริงๆ ถือเป็นทีมที่น่ากลัวในเอเชีย นักเตะแต่ละคนมีความอึด และถึก ก็คล้ายๆ เกาหลีใต้ที่ลดเกรดลงมาเลเวลหนึ่ง เอาเป็นว่า ไม่มีใครอยากจับสลากไปเจอพวกเขาเพราะเป็นทีมที่อันตรายมาก
1
เกาหลีเหนือเคยเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี 1966 และ 2010 หลายๆ ชาติในเอเชีย ยังไม่เคยก้าวไปถึงจุดนี้ได้ แต่พวกเขาทำได้
อย่างไรก็ตามปัญหาการเมืองที่ไม่แน่นอน และการตัดสินใจแปลกๆ ที่ไม่เหมือนชาวบ้าน ทำให้ฟุตบอลเกาหลีเหนือขาดพัฒนาการ และหยุดนิ่งไปเพียงแค่นี้อย่างน่าเสียดายจริงๆ
#unforeseencircumstances
โฆษณา