23 มี.ค. 2024 เวลา 16:06 • นิยาย เรื่องสั้น
อำเภอแม่ริม

เรียงความของคนสวน - อัญชันพลัดถิ่น

เเสงทอง พ. ใจเวียง
“ชีวิตอย่างมึงเนี่ยนะดี กูสังเวชมึงจริงๆอิน้ำ” น้ำเสียงขุ่นข้องหมองใจกล่าวออกมาเพื่อถ่ายทอดให้เราได้ฟัง ผู้หญิงแต่งตัวอย่างพิมพ์นิยม แต่งหน้าทาตาด้วยเครื่องสำอางราคาย่อมเยาจากประเทศจีน ใบหน้าขาวด้วยแป้งกำลังมีอารมณ์โกรธเคือง “อีภัทรมันว่าพี่แบบนี้ พี่เกลียดมัน พี่จะจองล้างจองผลาญมัน” ญาติของฉันคนนี้กดติดตามเหล่าคนที่เคยกล่าวดูหมิ่นเธอทุกคนในเฟสบุ๊ค
เธอจะต้องพิสูจน์และเอาชนะทุกคนให้ได้ ครั้งหนึ่งเธอบอกฉันว่าเธอจะไปเรียนทำขนม เพราะ เธอเห็นว่าแฟนสาวของลูกพี่ลูกน้องที่เธอไม่ค่อยชอบนักทำขนมหวานได้เก่งกาจ และเธอบอกฉันว่าเธอมีศักยภาพจะเอาชนะทุกคน เธอจะเปิดร้านขายผ้า เพราะเธอเห็นว่าเพื่อนเธอทำได้ เธอจะวาดรูปให้สวยกว่าเพื่อนเธอให้ได้ เธอจะวาดภาพให้ใหญ่กว่าทุกคน ถึงแม้ภาพนั้นจะสำเร็จได้ด้วยการลอกเลียนคนอื่นมาก็ตาม แม้ว่าเธอจะมาจากครอบครัวที่สะพรั่งพร้อม เธอกลับเห็นว่าชัยชนะเหนือคนอื่นเป็นความสำเร็จแห่งชีวิต
เธอบอกฉันด้วยน้ำเสียงอัดอั้นว่าเธอจะต้องชนะทุกคนให้ได้... แต่จริงๆแล้วเธอเคยชนะใครๆด้วยหรือ
ความจริงใจต่อตัวเองและการยอมรับข้อบกพร่องของตัวเองอาจจะเป็นสิ่งที่มีได้ยากที่สุดในวันที่ไม่มีอะไรประสบความสำเร็จเลย ความเป็นอิสระคงจะไม่มีจริง เป็นเช่นนั้นแล้ว ความจริงใจจะอยู่ในส่วนไหน
ชุดสูทผู้ชายสีเทาเข้มที่ดูแล้วน่าจะเป็นความพยายามไปสู่สไตล์แบบ กอมม์ เด การ์ซงแน่ๆ ชุดสูทกำลังจะถูกประดับประดาด้วยหลอดกาแฟ...กลิ่นเคมีชวนแสบจมูกจากหลอดกาแฟพลาสติกสีดำที่ถูกนาบด้วยความร้อนและ กอมม์ เด การ์ซง ที่มาแต่ภาพจำในเวอร์ชั่นราคาถูก ที่ดูแล้วใครๆก็คงรู้ได้ว่ามิได้ถูกศึกษาหรือทำผ่านปรัชญาของเฮาส์นั้นยิ่งทำให้ชีวิตแลดูสิ้นหวัง
หลังจากทำอะไรต่อมิอะไรสำเร็จเสร็จสิ้น ฉันเดินลงมาจากบ้านเพื่อมาดูต้นไม้ของฉัน เป็นต้นฤดูร้อนที่อากาศนั้นแสนอบอวลหนักแน่นจนทำให้ฉันรู้สึกมวนท้องและอยากปล่อยอารมณ์โมโหร้ายใส่คนเดินถนนทุกคน ดอกกุหลาบสีม่วงอ่อนบนต้นของมันกำลังต่อสู้กับไอแดดบนระเบียงสูงสีน้ำเงินเข้มจัด ในโมงยามที่ทุกๆบ้านต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ บ้านของฉันก็เช่นกัน
เสียงคอมเพรสเซอร์หึ่งๆมาพร้อมกับลมร้อนระอุ น้ำกลิ่นสารเคมีที่หยดมาจากตัวเครื่องของมันหยดติ๋งๆลงบนต้นสาวน้อยประแป้งที่พ่อฉันย้ายมาไว้ที่ชายคาบ้านทำให้ฉันได้แต่คิดว่ามันจะน้อยใจในโชคชะตาของมันมั้ย แต่ก็เอาเถอะ ฉันเพียงแต่จะมาดูต้นโหระพาใบยักษ์ที่ฉันปักชำมันเอาไว้
มันเติบโตได้ดีแม้ในสภาวะของดินที่แห้ง แม้ได้น้ำเพียงครั้งคราวมันก็สามารถจะแตกรากและแตกใบให้แม่ฉันเอาไปประกอบอาหารที่ร้านได้ โหระพาเป็นต้นไม้ที่คล้ายวัชพืชมันจึงแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ ฉันรดน้ำจนดินชุ่มชื้น ฉันสบายใจว่ามันจะแข็งแรงไปอีกนาน
“ไม่มีใครอยู่กับกูจริงๆเลยหวะ ทำไมกันวะ กูแค่อยากอยู่กับคนที่พร้อมจะเติบโตไปกับกู”
เสียงเตือนของแชทแพรวามักดังขึ้นเสมอในเวลาที่ฉันกำลังยุ่งเหยิง เป็นคำถามที่ไม่ยากจะตอบ แต่ฉันคงไม่ตอบเธอไป ความคิดที่ว่าด้วยการเติบโตไปด้วยกันกับใครสักคนน่าจะต้องอาศัยความเสียสละไม่น้อย ดังนั้นฉันจึงคิดว่าไอเดียของเธอเช่นนี้กับพฤติกรรมส่วนตัวของเธอรวมๆแล้วดูเหลวไหลสิ้นดี ฉันเพียงแต่คิดว่าเธอไม่เคย หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสัมพันธ์ไว้กับใคร เราคงจะสามารถเก็บเกี่ยวในสิ่งที่เราเพาะปลูกและเฝ้าถนอมไว้แค่นั้น
เธอไม่เคยฟังใคร เธอมีแต่ตัวเองและตัวเอง ครั้งหนึ่งเพื่อนของฉันคนหนึ่งบอกว่า เวลาเราคุยกับใครได้ไม่เบื่อ บางทีเพื่อนคนนั้นอาจจะแค่ทำหน้าที่เป็นผนัง เพราะเมื่อไม่ได้ฟังเรา เขาก็จะไม่มีวันเบื่อ
ในความสัมพันธ์ของฉันและแพรวาน่าจะไม่ได้อยู่ในกฎนี้ เพราะว่าแพรวาช่างเล่าเรื่องตัวเองว่าเธอเป็นคนเก่ง แต่เธอก็ไม่ฟังใครหรืออะไรอีกเลย ฉันจึงไม่รู้เลยว่าใครเป็นผนังกันแน่
หมอดูชื่อดังคนหนึ่งที่ท่าพระจันทร์เคยบอกฉันว่าให้ฉันอยู่ห่างๆเพื่อนผู้หญิงคนนี้เอาไว้ ฉันไม่ค่อยเชื่อนัก จนกระทั่งเธอค่อนข้างมีอิทธิพลต่อความสุขสงบของฉัน ฉันพยายามคิดว่าไม่เห็นจะจริงอย่างที่หมอดูทำนายทายทักไว้เลย แต่เธอแสนจะมีความสามารถในการดูดกลืนพลังงานดีๆของฉันไปเสียหมดโดยที่ฉันก็คิดว่าเธอเองก็คงไม่รู้ตัว
ฉันค้นพบว่าคนรอบตัวของฉันเต็มไปด้วยคนอวดดี ทั้งเพื่อนคนนี้ และญาติคนจีน ถึงกระนั้นฉันเองชอบพูดคุยกับเพื่อนสมัยมัธยมต้นที่สุด งานอดิเรกที่มีคล้ายคลึงกับเพื่อนสมัยมัธยมต้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเอาชนะและชิงดีชิงเด่นกว่าใครทำให้ฉันสบายใจ ฉันเคยคุยกับรุ่นน้องที่อยู่ต่างโรงเรียนคนหนึ่งที่ชื่อว่า ต้อม เขาเป็นลูกชาวนา
ต้อมเป็นนักเรียนเทคนิคไฟฟ้าและมีความสามารถในการซ่อมคอม ปัจจุบันต้อมหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ในขณะเดียวกันก็ไม่โอ้อวดสรรพคุณตัวเองเหมือนกับลูกหลานชาวจีนทั้งหลาย(ไม่ขอเหมารวม ขอรับไว้แต่ตระกูลของฉันแต่เพียงผู้เดียว)ที่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่เรื่อยไปแต่มีพฤติกรรมกดข่มผู้อื่นตลอดเวลาว่าฉันดีฉันเด่นกว่าใคร ทั้งที่แท้จริงก็กำลังฝังกลบปมด้อยที่ว่าตัวเองนั้นแสนจะไร้ความสามารถและไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย นี่เป็นสังคมที่มองดูแล้วคุณคงอยากเอาฝ่าเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก
เป็นเวลาหัวค่ำแล้ว ฉันยังออกมาสูดอากาศบริเวณหน้าบ้านเป็นระยะๆ กลิ่นหอมสะอาดจากดอกขาวใสของบุหงาส่าหรีที่ได้เคยมาแย่งที่เก่าของต้นสาวน้อยประแป้ง กลิ่นใสสะอาดจากดอกนวลละเอียดแหลมแทรกออกมาจากมวลอวลของกลิ่นถังขยะ เป็นกลิ่นแห่งความใฝ่ดีจริงๆ
แม้จะเติบโตใกล้กับสิ่งแวดล้อมของขยะ มันก็สู้ส่งกลิ่นหอมสะอาดสะอ้านได้
ฉันนึกถึงเพื่อนของฉันคนหนึ่งที่เคยพบเจอช่วงฉันเรียนมัธยมปลาย พี่สาวที่รักของเธอเสีย ในขณะเดียวกัน เธอสอบไม่ติดหมอ เธอเล่าให้ฉันฟังว่าพ่อเธอสบถใส่เธอด้วยคำพูดดูถูก พ่อเธอบอกให้เธอไปตายซะ เธอไปเที่ยวกลางคืนจนเมาเหล้าเละเทะเพราะว่าเธอเครียด พ่อเธอเคยทำร้ายร่างกายเธอจนเกิดรอยช้ำให้ฉันเห็น แม้จะเกิดวิกฤตทางการเงินในบ้านเธอเป็นระยะ มีความรุนแรงมากน้อยต่างกันไป เธอยังเห็นว่าพ่อของเธอน่าเคารพเสมอ เธอเห็นว่าพ่อของเธอเป็นไอดอลของเธอ ฉันอยากจะเข้าใจปรากฏการณ์นี้
อากาศร้อนอบอ้าวเคล้าไอแดดเข้มข้นของจังหวัดนครสวรรค์ทำให้ฉันนึกถึงครั้งหนึ่งที่เคยได้ติดตามพ่อของฉันไปที่ตำบลไผ่ท่าโพธิ์ จังหวัดพิจิตร สำหรับฉันไอแดดระอุและมุมมองจากชนบทจึงเป็นความทรงจำในวัยเด็กเสมอมา การได้เที่ยวเล่นเตร็ดเตร่ในวัยเด็กในตำบลเล็กๆเช่นนั้น คือของขวัญแห่งความทรงจำ ฉันเมื่อครั้งยังเด็กมากๆสักประถมสองจึงมีเวลาวันละหลายๆชั่วโมงจ้องมองต้นไม้ต้นไร่โดยไม่ต้องขบคิดอะไรเลย เมื่อฉันเติบโตขึ้นมาฉันค้นพบว่า
ดงวัชพืชสุดแสนรกรุงรังทุกหนทุกแห่งในละแวกบ้านฉันจะต้องมีพุ่มอัญชันสักพุ่มสองพุ่มเสมอ
ดอกมันเป็นสีม่วงหรือไม่ มันก็น่าตื่นเต้นเมื่อมันเป็นดอกสีขาว ฉันคิดได้เมื่อโตขึ้นมาสักอายุ20นิดๆว่า ต้นอัญชันหนะ ไม่มีใครเค้าปลูกกันหรอก แต่ด้วยปมในวัยเด็กที่บ้านอาเหล่าม่ามีพุ่มอัญชันที่งดงามกินใจเอาซะมากๆ ทุกครั้งที่ฉันเดินเล่นแล้วเห็นฝักแก่คาต้นมันที่ไหน ฉันจะยกมือพนมมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางเมื่อมันอยู่ใกล้รั้วบ้านใครสักคน หลังจากมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจแล้ว ฉันจะเด็ดฝักแห้งของมันเก็บใส่กระเป๋ากางเกงของฉัน
เมื่อถึงบ้านฉันจะรีบแกะฝักแก่แล้วนำเมล็ดข้างในของมันโรยใส่ในกระถางดินเปล่าแล้วรดน้ำมันเช้าเย็น
ด้วยเหตุนี้จึงมีเมล็ดอัญชันพลัดถิ่นจากทั่วเมืองที่ขาฉันพอจะเดินไปถึงรวมตัวกันอยู่ที่บ้านของฉัน
ฉันเดินเล่นคนเดียวด้วยความรู้สึกอิสระบนถนนพระอาทิตย์ ถนนสายนี้มีลมอบอุ่นพัดโชยและเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ผมสระหมาดๆทำให้ฉันสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ผมของฉันคงจะแห้งในอีกไม่ช้า ฉันนึกถึงวรรณกรรมภาษาอังกฤษเรื่องหนึ่งที่ถ้าฉันจะแปลชื่อของมันเป็นภาษาไทยได้อย่างง่ายๆด้วยทักษะที่มีและฉันคิดว่ามันจะชื่อว่า “เป็นหนึ่งเดียวในโลกา” เป็นวรรณกรรมเรื่องหนึ่งที่ฉันถูกบังคับให้อ่าน เรื่องราวในยุคแบเลป็อกและรีเจนซี่เป็นสิ่งที่น่าหลงใหลแต่ห่างไกลตัวเรา สิ่งที่ใกล้ตัวเราอาจจะหลงเหลือเพียงแต่ปรัชญาของมัน
ตัวเอกของเรื่องคือชายคนหนึ่งที่พ่อแม่กระเสือกกระสนส่งให้เขาร่ำเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ6ขวบ พ่อแม่และสังคมในเมืองเล็กๆหล่อหลอมให้เขารู้สึกว่าเขาเล่นเปียโนเก่งที่สุดและเขาคืออัจฉริยะทางดนตรี จนกระทั่งเขาได้มีโอกาสไปเรียนต่อในวิทยาลัยดนตรีในเมืองใหญ่ ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เขาประหลาดใจอย่างที่สุดในชีวิต เขาคิดมาตลอดว่าความสามารถทั้งหมดของเขาจะทำให้เขาเป็นนักเปียโนอันดับต้นๆ แต่แล้วเขาก็ค้นพบว่า เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาจำนวนหนึ่งนั้นคือบุคคลที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์
วิทยาลัยแห่งนี้เต็มไปด้วยอัจฉริยะจนเขาอัศจรรย์ใจอย่างถึงที่สุด
อย่างไรก็ตามวรรณกรรมสำหรับเด็กมัธยมเรื่องนี้มิได้สรุปบทเรียนเรื่องความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้นให้กับเราแต่อย่างใด
ฉันประหลาดใจในตอนจบของงานเขียนชิ้นนี้ เขาจบการศึกษามาได้แม้จะต้องเผชิญกับความเครียดและการขบคิดรวมไปถึงความสงสัยในตัวตนอย่างหนัก ท้ายที่สุดเขาสมัครเข้าเป็นครูสอนเปียโนสำหรับเด็ก สำหรับฉัน สิ่งที่น่าสนใจและเป็นวรรคทองที่สุดของงานเขียนชิ้นนี้ คือการปิดจบวรรณกรรมด้วยความหม่นหมองที่ฉันคิดว่ามันคงจากถูกถอดความออกมาเป็นภาษาไทยที่ว่า
“ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นของผมกำลังทัวร์การแสดงเดี่ยวเปียโนในหัวเมืองต่างๆ ผมเริ่มเข้าสอนเป็นครูสอนเปียโนในโรงเรียนแห่งนี้แล้วในวัย20ต้นๆ สิ่งที่ผมเห็นอยู่ภายภาคหน้าของชีวิตคือ ความสิ้นหวังแห่งวัยผู้ใหญ่ที่รอผมอยู่ และการมีอยู่ของผมในตอนนี้มันไม่ต่างอะไรเลยกับขนมปังเก่าอับชื้นค้างคืน...”
ฉันมองดูแคชเชียร์สาวอวบที่อยู่กับลูกสาวน่ารักวัยประมาณ6ขวบที่ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เธอหลบสายตาของฉัน เธอหันหน้าไปทิศทางอื่นเพื่อซ่อนน้ำตา เธอปาดหยดน้ำใสของดวงตาอย่างรวดเร็ว เด็กสาวทำหน้าทะเล้นพลางบอกแม่เธอไม่ให้ร้องไห้และให้เล่นกับเธอ
คงไม่มีใครในโลกนี้ล่วงรู้ถึงชั้นเชิงของความหลากหลายแห่งความเศร้าของทุกคน ฉันหวังว่าเธอคงจะโอเคขึ้นในไม่ช้า ฉันคิดว่าจริงๆแล้วความเศร้าจากการถูกทิ้งไว้ให้มีสภาพเหมือนกับขนมปังขึ้นรานั้นเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ฉันคิดว่าคนเราจะได้ตกตะกอนอะไรมากมายเมื่อรู้ตัวว่าตนเองไม่ได้เป็นที่ต้องการ แต่คงไม่ใช่กับแพรวา มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย มีแต่สร้างเสริมให้อัตตาของเธอนั้นแข็งแกร่งขึ้น
“ผมไม่คิดเลยว่าผมจะได้มาเห็นรูปวาดของคุณโยชิโกะ ยามากุจิที่นี่ ในชนบทของประเทศไทย อัศจรรย์ใจจริงๆครับ” คนญี่ปุ่นพูดภาษาไทยได้กำลังเชยชมภาพเขียนสีสดใสของนักร้องที่คนญี่ปุ่นอย่างเขาคงจะเคยได้รู้จักและฟังเพลงของนักร้องสาวที่เพิ่งเสียชีวิตไปคนนี้ตั้งแต่ยังเด็ก เขายังมีท่าทีที่ตื่นเต้นอยู่เช่นนั้น ฉันคิดว่าฉันจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย
ตึกสีม่วงอ่อนสุดสวยที่เห็นจากไกลๆ ทำให้ฉันนึกถึงสีของดอกอัญชัน เมื่อย่างก้าวเข้าใกล้ตึกโอหังนั้นขึ้นเรื่อยๆ ฉันเห็นคุณป้าสองคนกำลังสนทนากันอย่างสนิทชิดเชื้อ คุณป้าโหนกแก้มสูงแต่งหน้าอย่างกับหลุดออกมาจากยุค40ของเซี่ยงไฮ้อย่างไรอย่างนั้น
เดรสลิตเทิลแบล็คมีส่วนกระโปรงยาวออกอย่างกระโปรงบัลเล่ต์ ผ้าตูลสีดำมีรสนิยมไล่เรียงไปถึงถุงน่องสีเดียวกับกระโปรง ภาพรวมที่ดูน่าสนใจนี้ถูกขมวดรวมด้วยรองเท้าหนังทรงนักบัลเล่ต์ที่ใครๆคงจะต้องสงสัยว่าเธอไปเอารองเท้าแบบนี้จากที่ไหนมา...อาจจะเป็นโกดังของมือสองจากญี่ปุ่น
เธอยืนคุยสนุกสนานกับคุณป้าอีกคนหนึ่ง คุณป้ารุ่นราวคราวเดียวกันมีผิวที่ขาวกว่าคุณป้าชุดดำ
คุณป้าสวมกระโปรงผ้าโบรเคดสีเขียวมีลวดลาย ตัวเสื้อทำจากผ้าลูกไม้สีชมพูคล้ายดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ในหน้าฝนนั้นทำความรู้จักกับกระโปรงสีเขียวได้อย่างน่าสนใจ ก่อนทั้งหมดจะถูกทำให้สงบดั่งชาร้อนที่ประกอบด้วยสมุนไพรหลากหลายด้วยสูทบางๆสีดำเทา ต่างหูกระเบื้องเคลือบสีส้มม่วงยังคงโดดเด่นออกมาจากภาพรวมทั้งหมด เป็นภาพที่ดูจริงใจจริงๆ
สีส้มอยู่กับสีอะไรก็งดงาม เมื่อถูกจับคู่เข้ากับสีม่วงแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกับความเปรี้ยวของกรดน้ำส้มที่กำลังผันแปรกลีบอัญชันจากสีน้ำเงินให้กลายเป็นสีม่วงใสแจ๋ว ฉันคิดถึงอัญชันที่เริงร่าได้ทุกที่เหมือนกับเด็กน้อย
.
.
แสงตะวันเข้มข้นกำลังลอดผ่านทุกช่องบานของหน้าต่างบนอาคารสีขาวถัดจากอาคารใหญ่เดิมนั้น เป็นภาพของประสบการณ์ที่ฉันไม่อยากจะแบ่งปันให้กับใครเพียงแต่จะเก็บไว้ซาบซึ้งรำพันแต่เพียงผู้เดียว ที่โคนเสาของอาคารสีขาวแบบนีโอคลาสสิกนั้น... จุดสีม่วงอมฟ้าบนเถาไม้สีเขียวอ่อนมันกำลังขยับเขยื้อนชูชัน...
โฆษณา