25 มี.ค. เวลา 03:02 • นิยาย เรื่องสั้น

นวนิยายเรื่อง หมู่บ้านหนองควายเฒ่า (จบในตอนเดียว)

นวนิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของทหารไทยสมัยก่อนตัวละครและสถานที่เขียนขึ้นมาเองโดย ประยูร ทองผดุง
เสียงสัตว์น้อยใหญ่ร้องในกลางป่ามีกลุ่มทหารซุ่มอยู่ประมาณราว150คนเห็นจะได้หนึ่งในนั้นมีนายยืนกับนายยงเป็นทหารวังหน้าเพื่อดักปล้นเสบียงของข้าศึก
นายยืนกับนายยงเป็นนายทหารของหมู่บ้านหนองควายเฒ่าเรียกว่าทั้ง2คนจัดเจนในเรื่องรบมาก
และยังมีอีก2คนคือนายคงกับนายอยู่เป็นนายทหารวังหลังที่มีฝีมือในเชิงดาบและเชิงมวยเก่งมากแถมนายคงนายอยู่ยังเป็นครูมวยและครูดาบให้กับชาวบ้านหนองควายเฒ่าเพื่อออกศึกปกป้องหมู่บ้านอีก
และแล้วก็มีเสียงคนวิ่งมานั่นคือไอ้วิงไอ้วังทหารสอดแนมที่เก่งในเรื่องความเร็วและเด็ดขาดในการจัดการศัตรูโดยทั้ง2คนชำนานการใช้มีดสั้นคู่
ไอ้วิงไอ้วังวิ่งมาด้วยความเหนื่อยเพื่อมาบอกข่าวไอ้วิงเอ่ยขึ้นพี่ยืนกับพี่ยงจ๊ะ
ฉันกับไอ้วังเห็นพวกข้าศึกกำลังขนเสบียงเพื่อจะผ่านมาทางนี้นายยืนแล้วพวกเอ็งรู้หรือไม่ว่าพวกมันมีจำนวนกี่คน
ราวๆ100คนจ่ะพี่ยืนนั่นคือเสียงไอ้วิงเอ่ยตอบ
นายยงพูดขึ้นทุกคนเตรียมตัวและระวังตัวกันด้วย
ทุกคนต่างพูดเสียงเดียวกัน
ได้จ่ะ พี่ยงพวกฉันจะระวังและจะไม่ประมาท
นายยืนทวนคำพวกเอ็งจำคำที่ข้าสอนได้หรือไม่
พวกฉันจำได้จ่ะแล้วทุกคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน
สู้ไม่ได้ให้หนี หนีไม่ได้อย่าให้เจ็บ เจ็บได้อย่าให้ตาย
เสียงนายยืนบอกทุกคนรีบมาขนเสบียงไปไว้ส่วนพวกที่เหลือนำคนเจ็บไปรักษา
นายคงกับนายอยู่เดินมาก่อนเอ่ยถามเป็นไงบ้างวะไอ้ยืนไอ้ยง
คนของเราเจ็บไป8ไม่มีใครตาย
นายคงเอ่ยถามต่อ.....แล้วพวกข้าศึกล่ะ
ไอ้วิงไอ้วังวิ่งมาก่อนพูดพร้อมกันพวกข้าศึกตายหมดจ่ะพี่คง
นายยืนกับนายยงพูดฝากเอ็งดูทางนี้ด้วยนะไอ้คงไอ้อยู่ข้าจะไปหาหลวงพ่อ
ณ วัดหลวงพ่อรบหมู่บ้านหนองควายเฒ่า
กราบนมัสการขอรับหลวงพ่อ
ว่าไงไอ้ยืนไอ้ยงการรบครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง
นายยืนไม่มีผู้ใดตายขอรับหลวงพ่อศึกครั้งนี้เราชนะและเรายังได้เสบียงของข้าศึกมาเพิ่มอีกเยอะเลยชาวบ้านคงจะไม่ขาดแคลนเรื่องการกินไปอีกหลายเดือน
นายยงเพราะมีหลวงพ่อรบแห่งบ้านหนองควายเฒ่าเป็นขวัญกำลังใจเราถึงรบชนะทั้ง3ครั้งมิแพ้ผู้ใด
หลวงพ่อรบเอ็งอย่าประมาทไปเชียวนะไอ้ยงเหนือฟ้ายังมีฟ้าครั้ง1หมู่บ้านจันรบ7ครั้งไม่แพ้ผู้ใดแต่สุดท้ายก็ยังโดนตีแตกเอ็งจงจำคำข้าไว้
ขอรับหลวงพ่อกระผมจะจำคำนี้ให้ขึ้นใจ
ดีแล้วไอ้ยง
ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าจะนั่งสมาธิพวกเอ็งก็กลับไปพักได้แล้ว
ถ้างั้นพวกฉันกราบลานะจ๊ะหลวงพ่อ
เออๆโชคดี
1ปีผ่านไปในวันที่29ปลายเดือน10 ปีมะเมีย พ.ศ2429
ในขณะที่หมู่บ้านหนองควายเฒ่ากำลังเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวช่วงนี้ยังดีที่ข้าศึกไม่รุกราน
ไอ้วิงไอ้วังพูดขึ้น พี่ ยืน พี่ ยง และ พี่ คง พี่ อยู่ จ๊ะฉันว่าวันพรุ่งข้าวที่เกี่ยวก็หน้าจะเสร็จ
นายยืนก็คงประมาณนั้นแต่ถ้าพวกเอ็งยังมัวแต่คุยไม่รีบทำวันพรุ่งก็มิเสร็จดอก
ไอ้วิงกับไอ้วังยิ้มให้กันไม่คุยแล้วจ่ะพี่ยืน
รีบเกี่ยวสิวะไอ้วิง
เออๆข้ารู้แล้วหน่ะ
นายยงพูดกับชาวบ้านผู้ใดที่พักดื่มน้ำแล้วก็มาทำต่อส่วนพวกที่ยังไม่ได้พักดื่มน้ำก็ไปพักก่อนเสีย
เสียงชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้ว นายยง ไม่พักเหรอจ๊ะ
นายยงข้ากับไอ้ยืนไอ้คงไอ้อยู่ยังมิเหนื่อยดอก
เสียงนายคงและนายอยู่พวกลุงๆป้าๆไปพักดื่มน้ำกันก่อนเถิด
ปัดเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งกันพอดี
ส่วนทางนี้ให้ไอ้วิงกับไอ้วังมันเกี่ยวต่อ
ไอ้วังพูดแย้งฉันก็อยากพักเหมือนกันนะพี่คง
ไอ้วิงใช่ๆพี่คงฉันก็อยากจะพัก
นายอยู่ไม่ต้องมาพูดเลยพวกเอ็ง2คนเกี่ยวข้าวช้ากว่าคนอื่นนายอยู่ทำท่าจะเตะก้นไอ้วิงไอ้วัง
จนมันทั้ง2คนต้องวิ่งไปหลบที่หลังนายคง
ชาวบ้านหนองควายเฒ่า ทั้งเด็กหนุ่ม ทั้งคนแก่ พี่ ป้า น้า ลุง ต่างหัวเราะชอบใจ
และในที่สุดการเก็บเกี่ยวข้าวก็เป็นอันเสร็จ
พอเสร็จจากการเก็บเกี่ยวข้าว
ชายหนุ่มในหมู่บ้านก็ต้องมาทำอาวุธเพื่อป้องกันหมู่บ้าน
บางคนก็ตีดาบบางคนก็ทำธนูส่วนที่เหลือก็มาซ้อมเพลงดาบเพลงมวยกับครูคงครูอยู่
ไอ้วังวันนี้ข้าอยากแกงเผ็ดหมูป่าว่ะถ้าได้สักตัวคงดีเออข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันกับเอ็งข้าก็อยากจะลองธนูที่ข้าทำมาใหม่ว่าจะพอใช้จัดการหมูป่าได้ไหม
แต่ถ้าไม่ได้ก็คงจะเอาไปสู้กับข้าศึกไม่ได้แน่ๆ
ใจเย็นเย็นสิวะไอ้วังถ้าข้าหาหมูป่าเจอรับรองเอ็งได้ใช้ธนูที่เอ็งทำมาเป็นแน่
ข้าว่าเราเดินไปทางน้ำตกดีกว่า
ได้สิวะไอ้วิง
ข้าว่าเราหาที่พักรอยิงสัตว์ดีกว่าไอ้วิง
งั้นเราขึ้นไปรอบนต้นไม้ต้นนี้ดีไหมไอ้วังเผื่อสัตว์ป่าจะแวะมากินน้ำแถวนี้
เออเอ็งพูดมาก็เข้าท่าดีว่ะไอ้วิง
ครูคง ครูอยู่จ๊ะ พี่ ยืน กับ พี่ ยง อยู่ไหมนายคงกล่าวถามเอ็งมีอะไรวะไอ้ทิ้งวิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว
ไอ้ทิ้งพูดติดๆขัดๆเพราะร่างกายหอบเหนื่อย ก็ ก็ ข้าศึกมันยกไพร่พลมาและกำลังมุ่งหน้ามาทางหมู่บ้านของเรา
เสียงนายอยู่นี่พวกเอ็งหาน้ำหาท่าให้ไอ้ทิ้งด้วยส่วนข้าจะไปบอกไอ้ยืนไอ้ยง
ได้จ่ะครูอยู่
ด้านนายคงคว้าดาบที่วางไว้แล้วรีบบอกให้ทุกคนมารวมตัว
เอ็งจงรีบนำข่าวไปบอกให้ทุกคนรู้ว่าข้าศึกกำลังจะเข้าตีหมู่บ้านเรา
ได้จ่ะครูคง
ส่วนเอ็งไอ้ทิ้งเอ็งพอจะเห็นหรือไม่ว่าข้าศึกมาประมาณเท่าไหร่
ฉันเห็นไม่ถนัดดอกจ่ะพอฉันรู้ว่าเป็นข้าศึกฉันก็รีบวิ่งมาบอก
ทหารนายหนึ่งพูดแทรกขึ้นแล้วเอ็งพอจะเดาได้หรือไม่ว่าพวกมันมากันเท่าใด
ก็หน้าจะประมาณราวๆ200คน
นายคงไพร่พลของมันอยู่ไกลจากหมู่บ้านเราแค่ไหนหรือไอ้ทิ้ง
2ก้านธูปหมดก็หน้าจะถึงสายน้ำรำจวนจ่ะครูคง
ครูคงฉันไปเกณฑ์คนมาแล้วจ่ะ
เสียงชาวบ้านพวกเราพร้อมที่จะรบแล้วพี่คงใช่พวกฉันก็ด้วยจ่ะครูคง
ทางด้านนายอยู่ก็มาพร้อมกับนายยืนนายยงและชาวบ้านหนองควายเฒ่าอีกจำนวนหนึ่ง
นายยืนทหารวังหน้าพูดศึกครานี้เราต้องปกป้องหมู่บ้านไว้ให้จงได้
นายยงกล่าวถามไอ้วิงไอ้วังหายไปไหน
ทหารนายหนึ่งเอ่ยตอบพวกมันออกไปล่าสัตว์ยังมิกลับเลยจ่ะ
งั้นหรือ
แต่ช่างมันเถอะเรามาวางแผนกันดีกว่า
นายคงพูดเอ็งมีแผนอะไรไอ้ยืนว่ามา
ถ้าไอ้ทิ้งมันเดาว่าข้าศึกมีจำนวนราวๆ200คนแต่พวกเรามีทหารประมาณ140ร่วมกับทหารที่เป็นหญิงอีก20คนรวมเป็น160คน
เราจะแบ่งเป็น4แถวซ้ายขวา
แถวที่1ฝั่งซ้ายของสายน้ำรำจวน30คนมือธนูและฝั่งขวา30คนมือธนูเหมือนกัน
ส่วนแถวที่2ซ้ายขวาฝั่งละ20คนใช้ระเบิดควัน
และแถวที่3ประมาณ40คนใช้จังหวะที่มันโดนระเบิดควันมองไม่เห็นเรา
รีบวิ่งเข้าไปใช้หอกทิ่มแทงศัตรูหลังจากนั้นพอควันระเบิดจางหายทหารแถวที่4อีก40คนก็ใช้ดาบเข้าโจมตีได้เลย
การรบครั้งที่4หมู่บ้านหนองควายเฒ่าโดนข้าศึกบุกมาโจมตีแต่ข้าศึกก็ต้องถอยทัพกลับไปถึงแม้ชาวบ้านหนองควายเฒ่าจะต้องสูญเสียนายทหารวังหน้ากับนายทหารวังหลังไป
นั่นก็คือนายยงและนายคงการรับมือกับข้าศึกในครั้งนี้ทำให้มีทหารล้มตายไป20คน
รวมกับทหารวังหน้าคือนายยงและทหารวังหลังคือนายคงนายคงเป็นหัวใจหลักของหมู่บ้านเพราะเป็นครูมวยครูดาบแต่ก็ต้องมาเสียชีวิตเพื่อปกป้องชาวบ้านและหมู่บ้านจากข้าศึก
แสงจันทร์สาดส่องท้องฟ้าโปร่งใสแต่เหตุไฉนถึงมีเม็ดฝนแห่งความโศกเศร้าไหลรินหยดลงผืนดินผู้คนรวมตัวกันมากมายท่ามกลางกองไฟที่ลุกโซนต่างคนร้องไห้เสียใจจากการสูญเสียคนที่รักจากไป
นายยืนนายอยู่และไอ้วิงไอ้วังที่พึ่งกลับมาจากการออกไปล่าสัตว์พูดขึ้นด้วยความโกรธที่ไม่ได้อยู่ร่วมรบในศึกครั้งนี้
พี่ยืนพี่อยู่ฉันกับไอ้วังขอโทษด้วยนะจ๊ะที่พวกฉันออกไปล่าสัตว์จึงมิได้มาช่วยร่วมรบจนทำให้ พี่ ยง และพี่คง รวมทั้งชาวบ้านอีก18คนยอมสละชีพเพื่อหมู่บ้านของเราพี่ยืนพี่อยู่โปรดลงโทษพวกฉันทั้ง2คนเถิด
ไอ้วังหลั่งน้ำตาจนแทบจะเป็นสายเลือดก่อนจะเดินไปที่แคร่ไม้จับมีดสั้นคู่ฉันจะไปฆ่าพวกมันให้หมดเพื่อแก้แค้นให้พี่น้องของเรา
หลวงพ่อรบเดินมาหยุดนะไอ้วังถ้าเอ็งขืนดื้อรั้นจะไปแก้แค้นเพียงคนเดียวในตอนนี้ข้าว่าเอ็งมีแต่ตายกับตาย
ฉันไม่กลัวตายหรอกจ่ะหลวงตาไอ้วังหันหน้ามายกมือไหว้หลวงพ่อรบขอบพระคุณที่ชุบเลี้ยงฉันมานะจ๊ะหลวงตา
เดิมทีก่อนที่หลวงพ่อรบจะมาอยู่ที่บ้านหนองควายเฒ่า ตอนนั้นท่านกำลังเดินธุดงค์อยู่ในป่าเผอิญท่านได้ไปเจอเด็ก2คนและผู้เป็นพ่อของเด็กกำลังถูกทหารข้าศึก6-7คนไล่ตาม
ผู้เป็นพ่อของเด็กได้มาเจอหลวงพ่อรบเลยฝากให้ท่านเลี้ยงดูเด็ก2คนนี้แทน
ก่อนจะล่อให้ข้าศึกไปอีกทางและได้สู้กันจนข้าศึกทั้ง6-7คนตายและพ่อของเด็กทั้ง2คนก็สิ้นใจตายเหมือนกันถึงแม้นายยืนนายยงนายคงนายอยู่จะมาช่วยแต่ก็ยื้อชีวิตพ่อของเด็ก2คนนี้ไว้ไม่ได้
เอ็งคิดให้ดีก่อนนะไอ้วังวันที่พ่อเอ็งตายไอ้ยงและไอ้คงก็อยู่ด้วยถ้าไอ้ยงไอ้คงมันรู้ว่าเอ็งจะไปตายมันทั้ง2คนคงตายตาไม่หลับเป็นแน่
ไอ้วังได้ยินดังนั้นมันเริ่มเดินกลับมาหาหลวงพ่อรบฉันเข้าใจแล้วจ่ะหลวงตาฉันขอโทษที่ใช้แต่อารมณ์โกรธจนฉันลืมไปว่ายังเหลือพี่น้องที่เคยร่วมสุขร่วมรบกับฉัน
หลวงพ่อรบยกไม้เท้าชี้ไปที่กองไฟแล้วพูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหากพวกมึงใส่ใจดูแลกันเหมือนกับกองฟืนกองนี้หากมันมีฟืนเพียงท่อนเดียวไฟมันก็ไหม้หมดเร็วแต่ถ้าหากมันมีหลายท่อนรวมกันมากๆเข้า
ไฟมันก็ต้องใช้ เพ ลา ในการเผาผานนานขึ้นและถ้าหากเราโชคดีคืนนี้น้ำค้างตกหนักไฟก็ยิ่งใช้ เพ ลา ในการมอดไหม้ช้าลงเหลือทิ้งไว้แต่เพียงเท่าถ่านพวกเอ็งทุกคนจงจำคำข้าไว้เถิด
หลวงพ่อรบกล่าวเสร็จก็เดินหันหลังกลับไปที่กุฏิของท่าน
รุ่งเช้าอากาศแจ่มใสมีแสงพระอาทิตย์โผล่ขึ้นสะท้อนกับก้อนเมฆเปล่งแสงประกายสีเหลืองทองสวยงามบ้านหนองควายเฒ่าต่างคนทำหน้าที่ของตนเพื่อหุงหาอาหารทำกับข้าว
นายยืนกับนายอยู่และชาวบ้านที่เป็นทหารประมาณ10กว่าคนส่วนไอ้วิงและไอ้วังออกไปสอดแนมเผื่อข้าศึกบุกมาจะได้ตั้งรับได้ทันท่วงที
ไอ้วังเอ่ยกับไอ้วิงถ้าเสร็จกิจรบครานี้ข้าจะหาที่สักแปลงไว้ทำไร่ทำนาแล้วเอ็งล่ะว่าไงวะไอ้วิงข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันกับเอ็งถ้าชนะศึกครั้งนี้และปกป้องหมู่บ้านไว้ได้
ไม่มีไอ้ยงไอ้คงแล้วเอ็งจะทำเช่นใดต่อวะไอ้ยืน
ไอ้อยู่เอ่ยถามก่อนยกไหเหล้าเข้าปาก
ตอนนี้เราเหลือทหารราวๆ100คนถ้าพวกข้าศึกมันยกไพร่พลเพื่อมาแก้แค้นครานั้นที่มันตีหมู่บ้านเรามิได้ข้ากลัวแต่ว่าศึกครั้งนี้อาจจะเป็นศึกครั้งสุดท้ายของพวกเรา
ทหารนายหนึ่งที่เป็นทหารของหมู่บ้านหนองควายเฒ่าได้พูดขึ้นกับนายยืนนายอยู่ว่าฉันห่วงก็แต่ชาวบ้านที่เหลือทั้งเด็กคนแก่และผู้หญิงที่ไม่ได้ฝึกการรบส่วนจะแพ้หรือชนะฉันไม่รู้ดอก
ไอ้วิงไอ้วังวิ่งมาบอกนายยืนพี่ยืนจ๊ะพี่ยืนฉันกับไอ้วังเห็นพวกข้าศึกประมาณ300คนยกไพร่พลมาตั้งทัพที่ข้างสายน้ำรำจวนไอ้วังฉันคิดว่ารุ่งเช้าวันพรุ่งมันต้องบุกเราแน่แท้
นายอยู่มันคงแค้นใจในศึกครานั้นที่ตีหมู่บ้านเรามิได้ถึงได้ยกไพร่พลมาเยอะเยี่ยงนี้พวกเอ็งใครก็ได้ไปบอกชาวบ้านทำกับข้าวไว้เยอะๆ
ศึกครานี้ไม่เหมือน 4ครั้ง ที่ผ่านมาเพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของหมู่บ้านหนองควายเฒ่าก็เป็นได้
ณ กลางหมู่บ้านที่มีคบไฟตั้งเป็นแถวยาวให้แสงสว่างท่ามกลางคนหมู่มากที่นั่งล้อมวงกินข้าวมองดูสีหน้าของแต่ละคนก็คงคิดว่าวันพรุ่งศึกครานี้จะจบยังไง
จะมีชัยหรือเปล่าเพราะทุกคนต่างก็รู้ในใจดีอยู่แล้วว่ายังไงตนก็มิอาจจะชนะข้าศึกที่ยกไพร่พลมามากขนาดนี้ได้
ต่างคนต่างกินข้าวกันไม่ค่อยลงเพราะคิดว่าวันพรุ่งตัวเองจะมีชีวิตรอดหรือไม่อย่างใด
นายยืนจ้องมองอยู่นานที่เห็นพี่น้องของตนเสียกำลังใจจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงเพื่อปลุกกำลังใจทุกคนพวกเอ็งจงฟังข้า
ข้ามิรู้ดอกว่าศึกพรุ่งนี้จะมีชัยหรือไม่แต่ตอนนี้พวกเอ็งจงกินให้อิ่มนายยืนเอ่ยย้ำ....กิน....กิน.....กินให้อิ่ม วันพรุ่งเราจะสู้จนตัวตาย
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป ไร้กังวล ชาวบ้านทุกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันใช่......ใช่....เราจะสู้......สู้ให้พี่น้องของเราที่จากไปได้รู้ว่า......เราจะไม่ยอมแพ้แม้ข้าศึกจะมีมาก
เพ ลา ยามสาม นายอยู่พูดขึ้นได้น้ำมนต์ที่หลวงพ่อรบพรมให้รู้สึกมีขวัญกำลังใจขึ้นเยอะเลย
ว่าแต่เอ็งมีแผน ที่จะรบเช่นใดวะไอ้ยืน
นายยืนเอ่ยถามพวกชาวบ้านที่ข้าให้พวกเอ็งไปทำเสร็จแล้วหรือยัง
เสียงชาวบ้านเสร็จแล้วจ่ะ
นายยืนกล่าวบอกไอ้วิงไอ้วังเอ็งทั้ง2คนมีความคล่องตัวไวตอนที่มันข้ามสายน้ำรำจวนมาได้เอ็ง2คนออกไปปะกับพวกมันแล้วล่อพวกมันให้ตามเข้ามาในหมู่บ้าน
ข้าจะเป็นคนจุดระเบิดที่เราร่วมกันทำไว้อย่างน้อยพวกมันก็ต้องเสียไพร่พลไปไม่มากก็น้อย
พอข้าจุดระเบิดเสร็จให้มือธนูประมาณ30คนยิงธนูใส่จนกว่าลูกธนูจะหมด
ส่วนเอ็งไอ้อยู่พาทหาร10กว่าคนขว้างระเบิดควันไปเรื่อยๆ...จนกว่าจะหมด
เพื่อไม่ให้ข้าศึกมองไม่เห็นมือธนูที่อยู่บนต้นไม้
ส่วนข้านายยืนและทหารที่เหลือจะจัดการข้าศึกที่บุกผ่านด่านธนูและระเบิดควันมาได้เอง
สิ้นชีพให้แผ่นดินได้จารึก
ถึงแม้ศึกครานี้หนีไม่พ้น
ขอยืนหยัดสู้โดยไม่กลัวคน
แม้ไพร่พลมีน้อยขอยอมตาย
การรบครั้งที่5ครั้งสุดท้ายเมื่อนายยงไม่อยู่แล้วเราก็ต้องให้นายอยู่มาคู่กับนายยืนเพื่อเป็นทหารวังหน้านำทหารราว135คนไปรบกับข้าศึก
ส่วนผู้ชายที่ไม่รู้จักการรบให้ พา เด็ก คนแก่ และผู้หญิง หนีไปให้รอด เพื่อสืบทอดว่าครั้งหนึ่งชาวบ้านหนองควายเฒ่าเคยเสียเลือดเนื้อเพื่อแผ่นดินเกิดเหมือนกับหมู่บ้านจันได้เคยกระทำไว้ในอดีต
ทหารบ้านหนองควายเฒ่าสู้กับพวกข้าศึกจนล้มตายกันไปเกือบหมดส่วนพวกข้าศึกก็ตายไปมิใช่น้อยพวกข้าศึกเหลือแค่เพียงประมาณไม่ถึง40-50คน
ที่กำลังปิดล้อมนายยืนกับนายอยู่และไอ้วิงไอ้วังไว้แต่ทั้ง4คนก็สู้จนลมหายใจสุดท้ายโดยไม่ยอมแพ้จนตัวตาย
จบบริบูรณ์เพิ่มพูนทรัพย์ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านมาฟังกดไลค์กดแชร์ให้กระผมด้วยนะขอรับ
โฆษณา