25 มี.ค. เวลา 09:33 • ท่องเที่ยว

ผาหินแกะสลักต้าจู๋ มรดกโลก .. วิถีชาวพุทธพันปีของจีน เมืองต้าจู๋ (Da Zu)

“เมืองฉงชิ่ง” นอกจากบ้านเมืองจะทันสมัยเหมือนเนรมิตขึ้นมาในระยะเวลาน้อยกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาแล้ว …
ที่เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
ประเทศจีนนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นผาหินแกะสลักชื่อดังอยู่หลายแห่ง .. หนึ่งในนั้นก็คือ ผาหินแกะสลักต้าจู๋ (Dazu Rock Carvings /or Dazu Grottoes) ที่เมืองฉงชิ่ง
ซึ่งเป็นผาหินแกะสลักที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1999
.. โดยมีจุดเด่นทางด้านศิลปะความงดงามของการแกะสลักที่ผสมผสานความเชื่อทางศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋า และคำสอนของขงจื๊อเข้าไว้ด้วยกัน
อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและสังคมของชาวจีนในช่วงระยะเวลานั้นด้วย โดยผาหินแห่งนี้มีรูปสลักของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์กว่า 50,000 รูป และรูปสลักอื่นๆ อีกกว่า 100,000 รูป
เราเดินทางจากฉงชิ่ง มุ่งหน้าไปเมืองต้าจู๋ (Da Zu) เพื่อไปชม ผาหินแกะสลักที่ภูเขาเปาติงซาน
เมืองต้าจู๋ ตั้งอยู่ห่างจากฉงชิ่งประมาณ 160 กิโลเมตร มีสมญานามว่า “บ้านเกิดแห่งหินแกะสลัก” เพราะทั่วทั้งเมืองมีศิลปะรูปปั้นหินสลักโบราณอยู่มากมายกว่า 50,000 ชิ้น
นอกจากนี้ยังมีคำจารึกภาษาจีนกว่าหมื่นชิ้น กระจายอยู่ตามหน้าผากว่า 75 จุด ในบริเวณภูเขา 5 ลูกคือ ภูเขาเป่าติงซาน เป่ยซาน หนันซาน สือเหมินซาน และสือจ้วนซาน
เราประมาณผิดเรื่องระยะทางที่ต้องเดินจากประตูทางเข้าไปยังวัดต้าจู๋ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปอีกไกล แต่พอเดินได้ ความจริงมีบริการรถไฟฟ้าเล็กๆ แต่เราไม่นึกว่าจะไกลขนาดนี้ ขาไปยังพอว่า แต่ขากลับนี่ทำเอาขาลากไปเลย
จากที่จอดรถบัสก็เดินตามกันไป จนมาถึงซุ้มประตูวัดแบบจีนเป็นด่านแรก
ศาลาต้อนรับ มีอาหาร ห้องน้ำ ประชาสัมพันธ์ สังเกตดูล้วนเป็นสิ่งปลูกสร้างใหม่เอี่ยม สำหรับส่วนนี้ มีระฆังให้ตีบอกเล่าให้เหล่าเทพรับทราบว้ารามาถึงแล้ว
ระยะทางอีกยาวไกล แต่มีทัศนียภาพที่สวยงามให้กดชัตเตอร์กล้องอยู่บ้าง สองข้างทางมีสวนหย่อมให้ชื่นชม .. ความจริงนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรภรับ-ส่งได้ โดยจ่ายเพียงเล็กน้อย แต่เดินก็มีวิวสวยๆให้ดูค่ะ
อาคารสุดท้ายที่ทุกคนต้องจ่ายค่าเข้าชม .. ขณะเดินไปเรื่อยๆ เราสังเกตุเห็นว่าทิวทัศน์บริเวณนี้เหมือนอยู่เชิงเขา
ทางเดินค่อยๆลาดขึ้นเล็กน้อย .. เดินไม่นาน แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ในที่สุดเราก็มาถึงบริเวณผาที่มีพระพุทธรูปสลัก วัดต้าจู๋ แห่ง เป๋าติ่งซาน
“ผาหินแกะสลักต้าจู๋” นั้นเริ่มสร้างขึ้นในปลายรัชสมัยราชวงศ์ถัง เมื่อปี ค.ศ. 650 และต่อเนื่องไปจนถึงสมัยของราชวงศ์ซ่ง รวมแล้วเป็นเวลานานกว่า 400 ปี
... โดยศิลปะการแกะสลักหินนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียและได้แผ่ขยายอิทธิพลเข้ามายังประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแกะสลักหน้าผาหินขนาดใหญ่ มีทั้งการสลักนูนสูง นูนต่ำ ลอยตัว และฉลุลาย
ผลงานแต่ละชึ้นนั้นมีความปราณีตงดงาม ซึ่งผลงานที่สร้างขึ้นในแต่ละช่วงเวลานั้นก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ผลงานในสมัยราชวงศ์ถังจะเน้นสีเขียวสีน้ำเงินเป็นหลัก ส่วนผลงานในสมัยราชวงศ์ซ่ง สีจะจืดกว่าแต่เน้นความสมจริงเป็นหลัก
งานศิลป์ผาหินแกะสลักในต้าจู๋มีจุดที่เป็นไฮไลท์ที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่อลังการที่สุดและสวยที่สุดนั้นอยู่ที่ภูเขา “เป๋าติ่ง” ซึ่วมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 528 เมตร ประกอบด้วยกลุ่มรูปสลักพระพุทธรูป 13 กลุ่ม
… มีรูปสลักอยูกว่า 10,000 ชิ้น ตามแนวยาวของหน้าผากว่า 500 เมตร … ทั้งหมดเป็นศิลปะการแกะสลักหินในราชวงศ์ซ่ง ไปจนถึงสมัยราชวงศ์ชิง โดยผู้สร้างคนแรกเป็นพระชื่อ “เจ้า ซื่อ เฟิ่ง” ที่เริ่มออกบวชตั้งแต่ 5 ขวบ
ภาพแกะสลักที่นี่ส่วนใหญ่เป็นประติมากรรมนูนสูง ที่แกะกว้านลูกลงไปจนเห็นรูปลักษณะชัดเจน อุดมไปด้วยชีวิตชีวา และลีลาความสวยงาม .. อีกทั้งยังมีการลงสีสันหลากหลาย แถมบางจุดยังมีประติมากรรมลอยตัวให้ยลกันอีกต่างหาก
ทั้งนี้ คนโบราณเชื่อว่า เป๋าติ่งซาน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงมีการแกะสลักขึ้นที่นี่ เพื่อให้เป็นศาสนสถาน ซึ่งมีทั้งความเชื่อของพุทธแบบมหายานและของลัทธิเต๋า
โดยมีภาพเด่นๆ อาทิ ถ้ำปฏิบัติธรรม ที่แกะเป็นภาพพระตัวแทนพระพุทธเจ้ากับสาวกอีก 12 รูป แสดงธรรม
ภาพสลักเทพเจ้าต่างๆ
พระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน ซึ่งเป็นพระนอนองค์โตยาว 32 เมตร สูง 7 เมตร
ภาพคำสอนขงจื้อ
.. วัฏสงสาร หรือวงเวียนชีวิต พระศรีอารยะเมตตรัย ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีการแกะสลักหินเกี่ยวกับ “คุณธรรม” ตางๆที่เป็นหลักของการดำเนินชีวิต … เหล่านี้ เกิดจากความพากเพียรในการแกะสลักหน้าผา เพื่อนำเสนอเรื่องราวทางพุทธศาสนานิกายมหายาน ลัทธิเต๋า และปรัชญาคำสอนของ “ขงจื้อ” ที่ชาวจีนเคารพนับถือ
นอกจากนี้ยังมีภาพแกะสลักเทพเจ้าต่างๆ
.. ภาพนิทานพื้นบ้าน ภาพวิถีชีวิตยุคโบราณ ภาพความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ที่แสดงถึงความเชื่อเรื่องบุญกรรม ที่เมื่อคนเราตายไปก็จะต้องเผชิญหน้ากับผู้ตัดสินความดี-ชั่ว ให้พิจารณาว่าจะส่งต่อไปนรก หรือสวรรค์ ซึ่งมีภาพประกอบเป็นนรกสวรรค์อย่างน่ายล
ภาพไฮไลต์ที่รูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือที่แกะสลักได้อย่างวิจิตรน่าทึ่ง เพียงแต่ว่าช่วงนี้อยู่ในระหว่างปรับปรุง จึงทำให้ให้ไม่ถนัดและยากต่อการหามุมบันทึกภาพ
ด้วยความวิจิตอลังการ และความเพียรพยามอันเป็นเลิศของคนโบราณในการเนรมิตผาหินแห่งนี้ให้กลายมาเป็นแดนธรรมอันน่าทึ่ง .. องค์การยูเนสโกจึงประกาศให้ที่นี่เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1999 เรียกว่าเหมาะสมกับสถานที่อันทรงคุณค่าแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง
โฆษณา