5 เม.ย. เวลา 02:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ

คน 3 กลุ่มในตลาดหุ้น

คน 3 กลุ่มในตลาดหุ้น ที่เราจะได้พบเจอ ได้เห็นกันเป็นประจำ สำคัญนะที่ต้องแยกให้ออก แบ่งให้ถูก เพราะแต่ละกลุ่มนั้นมีแนวคิด วิธีการที่ต่างกันชัดเจน ถ้าไม่เข้าใจก็อาจจะหลงทางเอาได้
1. นักเทรด นักเก็งกำไร นักเล่นหุ้น
กลุ่มนี้เป็นคนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้น แนวคิดหลักเขาเล่นกับราคาหุ้น คาดหวังว่าหุ้นจะขึ้นตลอด ซื้อแล้วต้องกำไร
กลุ่มนี้พบเจอได้ง่ายทั่วไป เว็บบอร์ดต่างๆ หุ้นขึ้นก็ดีใจ หุ้นลงก็ด่า ไม่ได้สนใจงบบริษัทดีร้ายยังไงก็แล้วแต่ มีความเชื่อว่าราคาหุ้นบอกทุกอย่าง หุ้นขึ้นคือบริษัทเทพ หุ้นตกคือบริษัทจะเจ๊ง จะปั่นหรือทุบหุ้นก็ไม่สนใจ
ก็เข้าใจแหละ งบมันออกสามเดือนครั้ง ปีละ 4 รอบ จะซื้อขายเล่นกันแค่นั้นแล้วจะเอาอะไรกินละ ระหว่างนั้นก็ต้องเล่นข่าวลือ เล่นตามความคาดหวังกันไป
กลุ่มนี้ส่วนตัวมองว่าเหมือนเล่นพนันซะมากกว่า แทงขึ้น แทงลง แต่เปลี่ยนมาแทงที่หุ้นแทน น่าจะเพราะแบบนี้จึงเป็นที่มาของคำว่า เล่นหุ้น
2. นักวิเคราะห์
กลุ่มนี้มีจำนวนน้อย หลักสิบหลักร้อย แต่ส่งผลต่อตลาดเยอะมาก เพราะนักเทรดกลุ่มแรกก็ผลงานมาจากกลุ่มนี้
กลุ่มนี้มีความรู้ เข้าใจธุรกิจในระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากหน้าที่ ด้วยธุรกิจบริษัทที่เขาอยู่มีรายได้จากการซื้อขาย หน้าที่เขาคือให้ข้อมูล และต้องทำให้เกิดการซื้อขาย
ถ้าทุกคนซื้อหุ้นแล้วถือเก็บไว้ ไม่ค่อยซื้อ ไม่ค่อยขาย มันก็ไม่มีสภาพคล่อง ถ้าเป็นบ่อนมันก็เป็นบ่อนที่คนเล่นนั่งดู มันก็ไม่สนุก ไม่น่าเล่น บ่อนไม่ได้เงิน เช่นเดียวกับบริษัทหลักทรัพย์ก็รายได้น้อยสิ
กลุ่มนี้เป้าเขาจึงเป็น ต้องทำให้เกิดการซื้อขายเยอะๆ เพราะรายได้เขาไม่ได้มาจากการซื้อแล้วถือ แต่ต้องซื้อๆขายๆ ยิ่งซื้อๆขายๆ เยอะ ค่าคอมเยอะ กำไรดี โบนัสเขาก็เยอะตาม มันมีผลประโยชน์ขัดแย้งกันอยู่
สำคัญนะที่ต้องแยกคนกลุ่มนี้ให้ออก เวลาที่ดูบทวิเคราะห์ต่างๆ ต้องแยกข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญของบริษัท ออกจากคำแนะนำซื้อขายที่เป็นผลประโยชน์ของนักวิเคราะห์
3. นักลงทุน
กลุ่มนี้มีไม่ค่อยเยอะ หรือเยอะแต่ไม่ค่อยเปิดเผยตัว มีมุมมองเหมือนเจ้าของธุรกิจ อยากทำกิจการ ก็เอาเงินมาลงทุน
สมมติอยากทำร้าน 7-11 คุณมี 2-3 ทางเลือก
- เปิดเอง ทำเอง คุมร้านเอง เหนื่อย แต่ก็รับเต็มกำไร-ขาดทุน
- หุ้นส่วนกับเพื่อนเปิด เพื่อนทำแล้วแบ่งกำไรตามสัดส่วน
- ซื้อหุ้นบริษัทเขา ให้คนอื่นบริหารแทน จะคล้ายกับอันบน แต่สเกลใหญ่กว่า และมืออาชีพกว่า มีการจัดการที่ดีกว่า
การลงทุนโดยหุ้นกับคนอื่น ก็แล้วแต่ว่าคนนั้นทำได้ดีไหม จัดการบัญชีดีไหม โกงเราไหม กับคนรู้จักก็คงมีแค่ความไว้ใจ แต่กับบริษัทจดทะเบียนก็จะมีการควบคุมโดย ตลท มีการสอบบัญชี มีผู้บริหารที่น่าจะมีความสามารถ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่โกง ไม่ขาดทุนนะครับ อยู่ที่การเลือก
กลุ่มนี้อยู่ในตลาดแบบเงียบๆ ก็ลองนึกถึงเจ้าของกิจการ เขาซื้อๆขายๆ หุ้นบ่อยไหม ถ้าคนไหนที่บ่อยก็อาจจะเป็นนักเทรดมากกว่านักลงทุน กำไรมาจากการเทรดมากกว่าการบริหาร
แต่ละกลุ่มเขาก็มีมุมมองต่อตลาดแตกต่างกัน
ถ้าหุ้นลง
สำหรับนักเทรด คือหายนะ
สำหรับนักลงทุน คือโอกาสซื้อของถูก
สำหรับนักวิเคราะห์ เฉยๆ แนะนำคนอื่นแต่ไม่ได้ถืออยู่แล้ว
ถ้าตัวคุณเป็นนักลงทุน แต่ฟังและคล้อยตามนักเทรด หรือนักวิเคราะห์ มันก็อาจจะผิดกับเป้าของคุณ หลงทางซื้อๆขายๆ แทนที่จะถือยาวลงทุน เพราะงั้นเลยต้องแยกตัวเองออกมาให้คงความเป็นนักลงทุนไว้อยู่ ไม่หวั่นไหวไปตามนักเทรดหรือนักวิเคราะห์ที่เขามีเป้าหมายต่างกันไป
โดยส่วนตัวลุงเป็นคนไม่เก่ง ไม่ชอบงานบริหารเลย ถ้าให้เปิดกิจการ ทำธุรกิจเอง คิดว่าไม่รอดแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นก็เอาเงินไปลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญ คนที่บริหารบริษัทดีๆ ทำธุรกิจได้ดี ให้เขาทำแทนเราดีกว่า
ลุงคิดแค่นี้แหละ
โฆษณา