28 มี.ค. เวลา 08:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิดประตูการลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กับกองทุน TLFVMR-ASIAX

เมื่อพูดถึงเทรนด์การลงทุนในปัจจุบัน ชั่วโมงนี้ใคร ๆ ก็มองมาที่เอเชีย ภูมิภาคที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยบริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพสูง
แต่การจะลงทุนในประเทศใดประเทศเดียวนั้นก็อาจจะเป็นความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนอย่างเรา ๆ ได้ ทำไมไม่กระจายลงทุนในหุ้นประเทศชั้นนำไปเลยล่ะ อย่างเช่นประเทศเหล่านี้
✅ อินเดีย
✅ อินโดนีเซีย
✅ ออสเตรเลีย
✅ เกาหลีใต้
✅ มาเลเซีย
✅ ฟิลิปปินส์
✅ สิงคโปร์
✅ ไต้หวัน
✅ ไทย
เพราะเราสามารถลงทุนในบริษัทชั้นนำของประเทศเหล่านี้ได้ง่าย ๆ ผ่านการกองทุนรวมที่ชื่อว่า กองทุนเปิดทาลิส FVMR เอเชียแปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน เอ็กซ์ ไชน่า หรือ TLFVMR-ASIAX
โดยกองทุน TLFVMR-ASIAX เป็นกองทุนที่บริหารจัดการโดย บลจ. ทาลิส จำกัด มีนโยบายลงทุนในหน่วย CIS และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศ ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่นและสาธารณรัฐประชาชนจีน และฮ่องกง โดยปัจจุบันกองทุนจะลงทุนในประเทศออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย
ซึ่งกองทุนใช้กระบวนการวิเคราะห์ทั้งเชิงปริมาณ (Quantitative) และการวิเคราะห์เชิงพื้นฐาน (Fundamental) โดยพิจารณาในมิติของ Fundamentals, Valuation, Momentum, Risk (FVMR) รวมถึงปัจจัยอื่นในการพิจารณาถึงความน่าสนใจและการกระจายการลงทุนไปยังแต่ละประเทศด้วย
=====
📍 FVMR คืออะไร ?
คือ การลงทุนที่ใช้ปัจจัย Fundamental, Valuation, Momentum, Risk มาเป็นหลักในการคัดเลือกการลงทุน ซึ่งผู้ที่นำหลักการนี้มาใช้เริ่มแรกคือ Dr. Andrew Stotz, CFA ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ A. Stotz Investment Research ผู้มีประสบการณ์ในสายงานด้านการเงินการลงทุนมากว่า 20 ปี ทั้งยังคร่ำหวอดในสายงานนักวิเคราะห์มาอย่างยาวนาน
=====
📍 แล้วลงทุนในเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่นและจีน) น่าสนใจอย่างไร?
เอเชียแปซิฟิกเป็นพื้นที่ขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทั่วโลกในปี 2566 โดย IMF คาดว่าเติบโตร้อยละ 4.6 ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.9 ในปี 2565 และสำหรับปี 2567 IMF คาดว่าจะชะลอตัวลงเป็นร้อยละ 4.2 และร้อยละ 3.9 ในระยะกลาง เนื่องจากการชะลอตัวเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจจีน
📍 ตัวอย่างเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่าจะลงทุน
ออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลียเป็นเศรษฐกิจขนาดที่ 13 ของโลกตามมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP)ในปี 2566 ด้วยประมาณ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ประเทศนี้ถือเสถียรภาพสูงสุดสำหรับการเติบโตของ GDP โดยไม่มีการขัดจังหวะเกือบ 30 ปี ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญของออสเตรเลียคือภาคบริการ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 62.43% ของ GDP ในปี 2565 นอกจากนี้ บริการทางการเงินการดูแลสุขภาพและการศึกษา เหมืองแร่ การก่อสร้าง และการผลิต ถือเป็นภาคการเติบโตชั้นนำของเศรษฐกิจออสเตรเลีย
อินเดีย
ในปี 2024 อินเดียได้รับการจัดอันดับที่ 5 ในการจัดอันดับ GDP ของโลก ประเทศอินเดียมีเศรษฐกิจที่หลากหลายและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการเปลี่ยนแปลงด้วยส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ บริการ การเกษตร และอุตสาหกรรม ประเทศนี้ได้ประโยชน์จากตลาดในประเทศที่มีขนาดใหญ่ และ แรงงานที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีและอายุน้อย และการขยายตัวของชนชั้นกลาง
อินโดนีเซีย
เป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ของโลกและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงและเป็นสมาชิกของกลุ่ม G20 อินโดนีเซียถูกจัดเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของโลกและมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 10 ในแง่ของความเท่าเทียมกันของกำลังซื้อ นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากการลดลงของอัตราความยากจน
เกาหลีใต้
กาหลีใต้ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว รวมถึงการลดความยากจนอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เติบโตโดยเฉลี่ย 4.9% ต่อปีระหว่างปี 2531 ถึง 2565 ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของการส่งออกประจำปี เฉลี่ย 8.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน
มาเลเซีย
Bank Negara Malaysia คาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 2567 จะอยู่ในช่วง 4-5%การเติบโตของปีที่แล้วได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวทั้งจากภาครัฐและเอกชน ตัวอย่างเช่น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาถึง 70% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด โดยได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวในภูมิภาคจากสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทยเป็นหลัก ด้วยรายรับด้านการท่องเที่ยวของไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 88% ของค่าเฉลี่ยรายไตรมาสปี 2562
1
📍 จุดเด่นของกองทุน
Diversification
กระจายการลงทุนในหลายภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ลดความเสี่ยงในการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่มีขนาดใหญ่
Growth Opportunities
มีศักยภาพในการเติบโต จากการพัฒนาของเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น อินเดีย อินโดนีเซียและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
FVMR Methodology
ค้นหาความน่าสนใจของแต่ละตลาดโดยใช้ปัจจัย Fundamentals, Valuation, Momentum, and Risk
FOF Feature
ลงทุนใน Index ETF ที่จดทะเบียนในประเทศสหรัฐฯ ของหุ้นในประเทศกลุ่ม Asia Pacific ที่ได้มีการคัดเลือกมาแล้วว่าเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ และมีสภาพคล่องสูง
🚀 กองทุน TLFVMR-ASIAX เปิดเสนอขายครั้งแรก 25 มี.ค. – 1 เม.ย. 67
ซื้อขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท
ซื้อครั้งต่อไปเริ่มต้น 1 บาท
ลงทุนได้ง่าย ๆ ตั้งแต่วันนี้ผ่านแอปพลิเคชัน Dime!
ที่มา: บลจ. ทาลิส จำกัด ข้อมูล ณ วันที่ 26 มี.ค. 67
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
หนังสือชี้ชวน : https://www.talisam.co.th/tlfvmr-asiax
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
════════════════════
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
 
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
โฆษณา