27 มี.ค. เวลา 17:14 • กีฬา

EP.28 อเบล ซาเวียร์ - ท่านฤาษี

- เรื่องของแฟชั่นกับนักฟุตบอลเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างนานแสนนาน โดยนักฟุตบอลบางรายที่มีผู้คนจดจำได้เป็นอย่างดีอาจจะไม่ใช่ว่าพวกเขาโดดเด่นในเรื่องฝีเท้าหรือมีความสามารถเกินผู้เล่นคนอื่นๆ แต่พวกเขากลับมีความโดดเด่นในเรื่องของแฟชั่นไม่ว่าจะบนศีรษะหรือแฟชั่นบนใบหน้าและสรีระในส่วนต่างๆของร่างกาย
- โดยในวงการฟุตบอลตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันต่างก็มีนักเตะหลายคนที่มีภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ บางคนอาจจะมาในแนวฮิปปี้ บางคนอาจจะมาในแนวฮิพฮอพ บางคนอาจจะมาในแนวเร็กเก้ ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้ทำให้พวกเขาถูกจดจำมากกว่าในเรื่องของฝีเท้า
- หนึ่งในนักเตะที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่สะดุดตาก็คือ อเบล ซาเวียร์ อดีตกองหลังทีมชาติโปรตุเกสซึ่งจุดเด่นของเขาอยู่ที่เรื่องของทรงผมและหนวดเคราจนถูกสื่อไทยต่างขนานนามกันไปว่า พระเจ้าตา / ปู่ฤาษีไปจนถึงท่านฤาษี
- อเบล ซาเวียร์ (Abel Xavier) เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 1972 ที่เมืองนัมปูลา ประเทศโมซัมบิกซึ่งในอดีตเคยเป็นอาณานิคมของประเทศโปรตุเกส โดยซาเวียร์ย้ายมาอยู่ในโปรตุเกสตั้งแต่สมัยเด็กและได้เซ็นสัญญาเป็นเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสร เอสเตรลา ซึ่งเขาลงเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คทางด้านขวาและมีผลงานที่ดีนั่นจึงทำให้เขาได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรที่ใหญ่กว่าอย่าง เบนฟิกา ในปี 1993
- เบนฟิกา มีฉายาว่าเหยี่ยวลิสบอน คือ ทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศโปรตุเกสซึ่งประสบความสำเร็จมาอย่างมากมาย โดยการมาเล่นให้กับทีมดังของเมืองหลวงทำให้เขาได้แชมป์ลีกร่วมกับทีมในปี 1994 โดยเจ้าตัวเล่นให้กับเบนฟิกาอยู่ 2 ฤดูกาล ก่อนที่จะถูก บารี ทีมในอิตาลียืมตัวไปใช้งาน 1 ซีซั่น ก่อนที่เขาจะถูกขายไปให้กับทีมจากสเปนอย่าง เรอัล โอเบียโด้
- ซาเวียร์ อยู่ค้าแข้งในสเปนได้ 2 ฤดูกาลก่อนที่จะย้ายทีมอีกครั้งโดยคราวนี้เขาได้ไปร่วมทัพ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ยักษ์ใหญ่ของประเทศเนเธอร์แลนด์แต่เจ้าตัวก็ค้าแข้งให้กับทีมจากแดนกังหันลมแค่ปีเดียวเท่านั้น
- ในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา ซาเวียร์ย้ายทีมเป็นว่าเล่นและในปี 1999 เขาก็ได้ย้ายทีมอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็น เอฟเวอร์ตัน จากศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ตัดสินใจดึงแบ็คขวาเคราดกผู้นี้ไปร่วมทีมซึ่งค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้อยู่ที่ราวๆ 1.5 ล้านปอนด์ โดยการมาเล่นในอังกฤษกลายเป็นจุดสนใจจากแฟนบอลซึ่งไม่ได้มาจากเรื่องฝีเท้าแต่มาจากภาพลักษณ์ของเจ้าตัวที่ในช่วงนั้นเขาตัดสินใจย้อมผมและย้อมหนวดเคราเป็นสีทอง ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูเหมือนพวกผู้ทรงศีลหรือพวกฤาษีอย่างไงอย่างงั้น
- ซาเวียร์ ลงเล่นให้เอฟเวอร์ตันไปร่วมๆเกือบ 50 นัดตลอดช่วงเกือบ 3 ฤดูกาล แค่ในเดือนมกราคมของปี 2002 ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นคู่ปรับร่วมเมืองของเอฟเวอร์ตันได้ตัดสินใจยื่นเงินจำนวน 8 แสนปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของซาเวียร์ โดยที่เอฟเวอร์ตันก็ยอมตกลงรับข้อเสนอนี้ นั่นจึงทำให้เขาได้ย้ายข้ามฟากจากฝั่งสีน้ำเงินไปสวมเสื้อของฝั่งสีแดง
- การย้ายทีมแบบโดยตรงระหว่าง เอฟเวอร์ตันกับลิเวอร์พูล เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งและเมื่อซาเวียร์ย้ายไปสวมเสื้อทีมหงส์แดงก็ย่อมทำให้เขาตกเป็นที่เกลียดชังจากบรรดาสาวกเอฟเวอร์โตเนียน โดยการที่ลิเวอร์พูลดึงซาเวียร์มาร่วมทีมก็เพื่อทดแทนการหายไปของ มาร์คุส บับเบิล ที่มีอาการป่วย โดยครึ่งฤดูกาลแรกของเขากับลิเวอร์พูลนั้นจบด้วยการเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีก
- เมื่อฤดูกาล 2002/2003 เริ่มเปิดฉากมาได้ 4 นัดทางด้านของซาเวียร์ก็ได้มีปัญหาขัดแย้งกับ เชราร์ อุลลิเยร์ กุนซือของลิเวอร์พูลซึ่งผลจากการมีปัญหากับผู้จัดการทีม ทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกอีกเลยและได้ลงเล่นในเฉพาะเกมลีกคัพที่เสมอกับ ฮิปสวิช ทาวน์
- ช่วงต้นปี 2003 เขาถูกลิเวอร์พูลปล่อยยืมตัวไปให้กับ กาลาตาซาราย ในลีกตุรกีโดยมีออปชั่นในการซื้อขาด แต่สุดท้ายทางกาลาตาซารายก็เลือกไม่เซ็นสัญญากับซาเวียร์ แต่ทางลิเวอร์พูลก็ไม่คิดจะเก็บแบ็คขวาทรงฤาษีรายนี้อีกต่อไป โดยในช่วงกลางปี 2003 เขาก็ถูกปล่อยตัวไปให้กับ ฮันโนเวอร์ ทีมในเยอรมัน
- ซาเวียร์ ย้ายไปเล่นให้ทั้งฮันโนเวอร์และ โรม่า ในช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่จะกลับมายังที่อังกฤษอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็น มิดเดิลสโบรห์ ทีมจากแดนอีสานของศึกพรีเมียร์ลีกที่ได้ตัวเขาไปร่วมทีม โดยหลังเกม ยูฟ่าคัพ ที่ทีมสิงห์แดงเอาชนะ สโกดา ซานธี ของกรีซ ซาเวียร์ก็ถูกตรวจว่าได้มีการใช้กระตุ้นประเภทสเตียร์รอยด์ โดยในช่วงแรกเจ้าตัวออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เมื่อผลออกมายืนยันชัดเจนนั่นทำให้เขาต้องยอมรับกับผลที่ออกมา
- ซาเวียร์ ยอมรับว่าได้ใช้สเตียร์รอยด์จากยาต้านไวรัสที่นำเข้ามาจาก สหรัฐอเมริกา ซึ่งบทลงโทษที่เจ้าตัวได้รับก็คือการถูกโทษแบนห้ามลงสนามเป็นเวลา 1 ปีเต็มซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ถูกโทษแบนจากการใช้สารกระตุ้น
- ช่วงปลายปี 2006 ซาเวียร์พ้นโทษแบนและสามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง โดยที่เขาทำประตูแรกให้กับมิดเดิลสโบรห์ได้ในเกมที่่เปิดบ้านเอาชนะ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ไป 5-1
- ในเดือนพฤษภาคมของปี 2007 มีการประกาศว่าซาเวียร์จะย้ายไปค้าแข้งในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ของสหรัฐฯ โดยจะไปร่วมทีม แอลเอ แกแล็คซี่ จนในเดือนมิถุนายนเขาก็ย้ายไปค้าแข้งในอเมริกาและได้เล่นอยู่ทีมเดียวกับ เดวิด เบ็คแฮม อดีตซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติอังกฤษ
- แม้ว่าอายุจะล่วงเลยมาถึงวัย 30 กว่าๆแต่ซาเวียร์ก็ยังคงมีปัญหาขัดแย้งกับโค้ชเหมือนสมัยตอนอยู่กับลิเวอร์พูล โดยคราวนี้เขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รุท กุลลิท กุนซือของแอลเอ แกแล็คซี่ จนกระทั่งในช่วงปลายปี 2009 เขาก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดด้วยวัย 37 ปี
- ขณะที่เส้นทางในทีมชาติโปรตุเกส ซาเวียร์ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมชาติชุดที่ได้อันดับ 3 ในฟุตบอลชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก่อนที่ในปี 1991 เขาจะมาคว้าแชมป์โลกรุ่นยู 20 กับทีมชาติโปรตุเกสโดยสมาชิกทีมในชุดนั้นนอกจากซาเวียร์แล้วก็ยังมีทั้ง หลุยส์ ฟิโก้ / รุย คอสต้า และเจา ปินโต้ ซึ่งต่อมาล้วนแต่เป็นขุมกำลังหลักของทีมฝอยทองกันทุกคน
- ซาเวียร์ มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลระดับทัวร์นาเมนต์กับทีมชาติโปรตุเกสเป็นครั้งแรกในศึกยูโร 2000 โดยตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์เขาคือหนึ่งในแผงหลังตัวหลักและก็ทำผลงานได้ดีจนมีส่วนพาโปรตุเกสเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ
- ในเกมรอบรองชนะเลิศ โปรตุเกสเข้าไปเจอกับทีมแชมป์โลกอย่าง ฝรั่งเศส ซึ่งนัดนี้ซาเวียร์กลายเป็นคนทำเสียจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลในเขตโทษและ ซีเนอดีน ซีดาน ก็ซัดจุดโทษเข้าไปกลายเป็นประตูชัยให้ฝรั่งเศสผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ส่วนโปรตุเกสต้องหยุดเส้นทางเพียงแค่รอบรองชนะเลิศ
- ฟุตบอลโลก 2002 ฉบับเอเชียที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซาเวียร์ยังเป็นหนึ่งในขุนพลของทีมฝอยทอง แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้เขาไม่ได้เป็นตัวหลักและได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมที่แพ้ เกาหลีใต้ 0-1 และโปรตุเกสก็จอดเพียงแค่รอบแรกและหลังจากนั้นเขาก็หลุดไปจากสารบบทีมชาติซึ่งนั่นทำให้เขาทำสถิติรับใช้ทีมชาติโปรตุเกสไป 20 นัดและทำไปได้ 2 ประตู
- ขณะที่ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด ซาเวียร์ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามและเป็นเปลี่ยนชื่อเป็น ไฟซาล ซาเวียร์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังให้สัมภาษณ์ว่าจะเรียกเขาว่า ไฟซาลหรืออเบล เหมือนเดิมก็ได้
- ตั้งแต่ปี 2013 เขาได้มีโอกาสประเดิมงานโค้ชด้วยการคุมทีมระดับกลางไปถึงเล็กของโปรตุเกสทั้ง โอฮาเนนเซ่ / ฟาเรนเซ / อาเวส แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักสโมสร ขณะที่ในปี 2016 เขาได้เซ็นสัญญาเข้าคุมทีมชาติโมซัมบิกซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิด แต่ก็ล้มเหลวในการเล่นรอบคัดเลือกของศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2019 ด้วยการถูก กินี-บิสเซา ตีเสมอในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน โดยหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกสมาคมฟุตบอลของโมซัมบิกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ
#อเบลซาเวียร์
#โปรตุเกส
#ลิเวอร์พูล
#เอฟเวอร์ตัน
#แฟชั่นนักฟุตบอล
อเบล ซาเวียร์ เป็นกองหลังทีมชาติโปรตุเกสที่เกิดในโมซัมบิก โดยเขาเคยผ่านการค้าแข้งให้กับเบนฟิกาในช่วงต้นยุค 90
ตอนมาเล่นให้เอฟเวอร์ตันซึ่งเจ้าตัวตัดสินใจย้อมผมและหนวดเคราเป็นสีทอง ทำให้มีภาพลักษณ์ดูเหมือนกับพวกฤาษี
ย้ายข้ามฟากโดยตรงไปอยู่กับลิเวอร์พูล โดยถึงแม้จะเล่นให้หงส์แดงไม่กี่นัด แต่เขาก็ถูกจดจำในสีเสื้อลิเวอร์พูลมากกว่าเอฟเวอร์ตัน
ช่วงบั้นปลายอาชีพได้ไปค้าแข้งในอเมริกากับ แอลเอ แกแล็คซี่
ผลงานโดดเด่นสุดๆในยูโร 2000 แต่จากฮีโร่ก็กลายเป็นซีโร่เมื่อเป็นคนทำเสียจุดโทษในเกมรอบรองกับฝรั่งเศส
ลีลาการคุมทีมข้างสนามสมัยที่คุมทีมชาติโมซัมบิก แต่ไม่สามารถพาโมซัมบิกเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพปี 2019 ได้
โฆษณา