อธิบายดราม่าเลสเตอร์ ซิตี้ อาจโดนตัดแต้มแบบเข้าใจง่าย
เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังเจอวิกฤติอย่างหนัก เรื่องฟอร์มการเล่น จากที่เคยนำเป็นจ่าฝูงใสๆ สิบกว่าแต้มในแชมเปี้ยนชิพ เหมือนจะแบเบอร์เลื่อนชั้น ไปๆ มาๆ ตอนนี้อยู่อันดับ 2 ในตารางซะแล้ว หนทางการเลื่อนชั้น ดูไม่สดใสอย่างที่คิดไว้
ส่วนอีกเรื่องที่น่ากังวลใจไม่แพ้กัน คือพรีเมียร์ลีกแจ้งว่า ต้องการ "ตัดแต้ม" เลสเตอร์ เพราะทำผิดกฎการเงินของฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งทางเลสเตอร์ ตอบโต้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้โดนลงโทษได้
เรื่องราวเป็นอย่างไร เราจะไปลำดับเหตุการณ์อย่างเข้าใจง่ายนะครับ
ในพรีเมียร์ลีก จะมีกฎหนึ่งข้อชื่อ PSR (Profit and Sustainability Rules) อธิบายคือ สโมสรห้ามขาดทุนเกิน 105 ล้านปอนด์ ในช่วงวงรอบ 3 ฤดูกาล ถ้าหากใครไม่สามารถคุมงบได้ และขาดทุนเกินตัวเลขที่กำหนด ก็จะถูกลงโทษด้วยการปรับแต้ม
ที่เอฟเวอร์ตัน กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เพิ่งโดนไป ก็กฎ PSR นี่ล่ะครับ สโมสรระดับกลางๆ ค่อนไปทางล่าง จะมีปัญหามากๆ กับกฎนี้ เพราะต้องลงทุนเยอะเพื่อให้อยู่รอด แต่ก็ไม่มีสปอนเซอร์มากมาย หากเทียบกับทีมใหญ่ของลีก
ในช่วง 3 ฤดูกาล (2020-21, 2021-22, 2022-23) เลสเตอร์ ไม่สามารถคุมงบประมาณได้ และ ขาดทุนเกิน 105 ล้านปอนด์ สาเหตุหลักมี 4 อย่างคือ
1) ในฤดูกาล 2020-21 เป็นซีซั่นโควิด สโมสรต้องลงแข่งแบบไม่มีคนดูตลอดทั้งซีซั่น เงินรายได้ ที่ควรจะมี ก็หายวับไปเลย
2) ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2021 สโมสรซื้อนักเตะไป 92 ล้านปอนด์ แต่ไม่ได้ขายใครให้บาลานซ์บัญชี และนักเตะที่ซื้อมาก็ใช้การไม่ค่อยได้ อย่างบูบาการี่ ซูมาเร่ ซื้อมาจากลิลล์ 17 ล้านปอนด์ แต่เล่นไม่ออก จะขายก็ไม่มีใครซื้อ ล่าสุดต้องปล่อยให้เซบีญ่ายืมตัวเพื่อลดค่าใช้จ่าย
3) จบฤดูกาล 2021-22 เลสเตอร์ ได้อันดับ 8 พลาดสิทธิ์ลงแข่งในรายการยุโรป คือถ้าได้เล่นในยูโรป้าลีก แบบปีก่อนๆ สโมสรยังพอมีรายได้เพิ่มเข้ามาบ้าง จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และบัตรเข้าชมในสนาม แต่อันนี้เงินก็หายไปเลย
4) เลสเตอร์สร้างสนามซ้อมระดับโลก "ซีเกรฟ" โดยใช้งบในการสร้างมากถึง 100 ล้านปอนด์ สนามสวยงาม และถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ของอังกฤษก็จริง แต่มันก็แลกมากับค่าใช้จ่ายที่มหาศาลตามไปด้วย จนแทบไม่มีงบซื้อนักเตะ พอไม่มีนักเตะใหม่ๆ ที่ดีพอ ทีมก็อ่อนแอลงมาก จนส่อแววร่วงตกชั้นในซีซั่น 2022-23
จริงๆ ถ้าหากเลสเตอร์ ซิตี้ อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไป ทุกอย่างจะไม่มีปัญหาเลย เพราะค่าถ่ายทอดสดปีละร้อยล้าน คัฟเวอร์ทุกอย่างได้หมด
แต่พอพวกเขาร่วงตกชั้นปั๊บ นั่นทำให้ ไม่มีรายรับเข้ามาบาลานซ์บัญชี สุดท้ายค่าใช้จ่ายในช่วง 3 ซีซั่น ก็เลยขาดทุนเกิน 105 ล้านปอนด์ในที่สุด
สื่ออังกฤษ วิเคราะห์ตรงกันว่า เลสเตอร์โดนตัดแต้มแน่ เพราะทำผิดกฎ PSR จริงๆ แต่คำถามคือจะตัดฤดูกาลนี้เลย หรือ ตัดฤดูกาลหน้า
ฝั่งเลสเตอร์ ยอมไม่ได้ ที่จะให้ตัดแต้มในซีซั่นนี้ (2023-24) เพราะอันดับในตารางคะแนนแชมเปี้ยนชิพตอนนี้เบียดกันมาก
อันดับ 1 ลีดส์ แข่ง 38 นัด มี 82 แต้ม ลูกได้เสีย +42
อันดับ 2 เลสเตอร์ แข่ง 37 นัด มี 82 แต้ม ลูกได้เสีย +41
อันดับ 3 อิปสวิช แข่ง 38 นัด มี 81 แต้ม ลูกได้เสีย +31
จะมีแค่ 2 ทีมเท่านั้น ที่ได้เลื่อนชั้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีกแบบอัตโนมัติ ถ้าหากเลสเตอร์ โดนตัด ไม่ว่าจะกี่แต้ม เป็นไปได้สูงมาก ที่พวกเขาจะพลาดการเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติ แล้วพอหล่นไปอยู่อันดับ 3-6 ก็ต้องไปลุ้นเตะเพลย์ออฟ ซึ่งบอลแบบน็อกเอาต์อย่างนั้น ไม่มีอะไรการันตีว่าพวกเขาจะเอาชนะได้
สำหรับดราม่า ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ คือพรีเมียร์ลีก แจ้งว่าต้องการให้บทลงโทษ เกิดขึ้นทันทีในฤดูกาลนี้ (2023-24)
สาเหตุที่พรีเมียร์ลีกอยากให้บทลงโทษเกิดขึ้นทันที เพราะในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ทั้ง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกได้ประชุมกัน และมีข้อตกลงร่วมกันว่า สโมสรไหนก็ตาม ที่ทำผิดกฎ PSR ต้องถูกลงโทษทันที ภายในปีนั้น ไม่ให้ยืดเยื้อ แบบไม่มีจุดหมาย
ตัวอย่างเช่น เอฟเวอร์ตัน ทำผิดกฎ PSR ในช่วงปี 2019-20, 2020-21, 2021-22 ถ้าตามหลักแล้ว บทลงโทษตัดแต้ม ก็ควรถูกนำมาใช้ ในฤดูกาลต่อไป นั่นคือ 2022-23 แต่คณะกรรมการ ก็พิจารณาไม่เสร็จเสียที สุดท้ายเอฟเวอร์ตันเลยได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ รอดตกชั้นได้อย่างหวุดหวิด
ในฤดูกาล 2022-23 เอฟเวอร์ตัน มี 36 แต้ม จบอันดับ 17 ของตาราง มีแต้มมากกว่าอันดับ 18 เลสเตอร์ อยู่ 2 แต้ม คือถ้ามีการตัดแต้มเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ป่านนี้เอฟเวอร์ตันตกชั้นไปแล้ว
ดังนั้นในซัมเมอร์ปี 2023 พรีเมียร์ลีกจึงออกกฎหนึ่งข้อชื่อ Fast-track financial breaches นั่นคือถ้าทำผิดกฎ PSR ปั๊บ ในซีซั่นต่อมา ต้องโดนลงโทษปรับแต้มทันที จะไม่มีการลากให้ยืดเยื้อ เหมือนเคสของเอฟเวอร์ตันอีกแล้ว
สำหรับเรื่องของเลสเตอร์ ที่พวกเขาพยายามประท้วงอยู่ตอนนี้คือ
1- กฎ Fast-track ถูกนำมาใช้ในซัมเมอร์ปี 2023 แต่เคสของเลสเตอร์ ทำผิดก่อนที่กฎนี้จะถูกระบุขึ้นมา คำถามคือ สามารถนำมา Apply ใช้กับเลสเตอร์ที่ทำผิดไปก่อนหน้านั้นได้หรือ
2- พรีเมียร์ลีก มีอำนาจลงโทษทีมในลีกสูงสุด แล้วสามารถปรับแต้มพวกเขาที่อยู่ในแชมเปี้ยนชิพได้หรือ เป็นการใช้อำนาจเกินตัวหรือเปล่า
3- ทีมอื่นก็ทำผิดกฎเรื่องการเงินเยอะแยะ ทำไมต้องมาเร่งรัดเลสเตอร์ทีมเดียวด้วย เลือกปฏิบัติกันเกินไปไหม
พรีเมียร์ลีก ต้องการให้บทลงโทษมีขึ้นก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของเลสเตอร์ ในฤดูกาลนี้
แต่เลสเตอร์ เปิดหน้าสู้เต็มที่ ใช้พลังทุกอย่างในมือ ล่าสุด มี ส.ส.ของเมืองเลสเตอร์ ชื่อโจนาธาน แอชเวิร์ธ ออกมาแถลงการณ์ช่วยซัพพอร์ทสโมสรด้วย
เอาเป็นว่าถ้าพรีเมียร์ลีกจะกดดันตัดแต้มให้ได้ในฤดูกาลนี้ ก็ขึ้นศาลกันเลย รู้ดำรู้แดงกันไป เลสเตอร์ไม่ยอมหรอก เพราะทุกแต้มตอนนี้สำคัญกับการเลื่อนชั้นทั้งหมด
สโมสรเลสเตอร์ ยอมรับบทลงโทษแน่ๆ อยู่แล้ว แต่พวกเขาใช้คำว่า "at the right time" คือต้องลงโทษในเวลาที่ถูกต้องด้วย ไม่ใช่มากระชากแต้ม ตอนที่กำลังจะเลื่อนชั้นไปเล่นลีกสูงสุดแบบนี้
ความซับซ้อนของเรื่องนี้ มีอีกหนึ่งอย่างคือ พรีเมียร์ลีก (EPL) จะมีบทลงโทษเลสเตอร์ เพราะขาดทุน 105 ล้านปอนด์ ในวงรอบสามปี 2020 ถึง 2023
แต่ในขณะเดียวกัน พรีเมียร์ลีก และ ฟุตบอลลีก (EFL) ก็ตั้งใจจะลงโทษเลสเตอร์เหมือนกัน ในวงรอบสามปี อีกวงหนึ่ง 2021 ถึง 2024 ซึ่งเลสเตอร์ ก็โวยว่า จะมาลงโทษอะไรกันได้ยังไง ฤดูกาลนี้ยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ มีเวลาอีก 3 เดือน ที่เลสเตอร์จะบาลานซ์บัญชี ให้ไม่ขาดทุนเกินลิมิต
นั่นคือเหตุผลที่อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ใช้คำว่า "โดนรุม" จากทั้ง EPL และ EFL คือไม่มีใครซัพพอร์ทเลสเตอร์เลย เหมือนจะเล่นงานให้จมดินให้ได้ตอนนี้
บทสรุปของเรื่องนี้ เลสเตอร์ โดนปรับแต้มแน่ๆ เพราะความผิดมันสำเร็จไปแล้ว แต่เลสเตอร์พยายามต่อสู้เต็มที่ ไม่ให้โดนตัดแต้มในเวลานี้ที่กำลังมีลุ้นเลื่อนชั้น
เพราะถ้าแต้มที่หายไป ทำให้ทีมพลาดการเลื่อนชั้น เงินค่าถ่ายทอดสด มากกว่า 100 ล้านปอนด์ จะหายวับไปเลย รวมถึงสปอนเซอร์ในอนาคตด้วย ทุกอย่างจะเสียหายมหาศาลมาก แบบจินตนาการไม่ได้เลย
เอาเป็นว่า เลสเตอร์ยอมโดนตัดแต้มในฤดูกาลหน้าบนลีกสูงสุดดีกว่า ตัดไปนิดหน่อยหลักหน่วย ก็ไม่เป็นไร ดูอย่างเอฟเวอร์ตัน โดนตัด 6 แต้มในปีนี้ แต่ยังมีแต้มเหนือโซนสีแดงตั้ง 4 คะแนน น่าจะรอดตกชั้นได้สำเร็จ
ตอนนี้สื่อมวลชนที่อังกฤษเองก็วิเคราะห์กันอยู่เช่นกันว่า เลสเตอร์ จะรอดไหม แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่ารอด
หนังสือพิมพ์เดลี่ เมล พาดหัวว่า "เลสเตอร์ค้นพบช่องว่างขนาดใหญ่ในกฎการเงิน และจะรอดการโดนลงโทษในฤดูกาลนี้"
ขณะที่คาเวห์ โซลเฮโคล หัวหน้านักข่าวกีฬาของสกายสปอร์ต อธิบายว่า "สโมสรพรีเมียร์ลีกโหวตใช้ระบบ Fast-Track ก็จริง แต่เลสเตอร์ร่วงตกชั้นก่อนที่กฎนี้จะใช้งาน ดังนั้น คณะกรรมการต้องหยิบจุดนี้มาพิจารณาด้วย ว่าจะลงโทษกันในปีนี้จริงๆ หรือ"
ร็อบ ดอร์เซ็ตต์ นักข่าวของสกายสปอร์ตอีกคน ใช้คำว่า "เลสเตอร์โกรธเป็นไฟ เพราะในอดีตสโมสรที่โดนโทษ PSR ไม่เคยมีปากเสียงอะไรเลย ยอมรับการโดนตัดแต้มไปเลย แต่ในเคสของเลสเตอร์ พวกเขาสู้เต็มที่ แสดงให้เห็นถึงความโกรธเกรี้ยว และเมื่อมีคำขู่เรื่องการฟ้องร้องทางกฎหมาย การตัดสินเคสนี้จะยืดเยื้อมาก และจะไม่จบในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน"
เรื่องราวก็จบลงตรงนี้ครับ การลงโทษต้องมีแน่ เลสเตอร์จะโดนตัดแต้มเหมือนที่น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ เอฟเวอร์ตันโดนนั่นแหละ แต่ผมเชื่อว่า ในฤดูกาลนี้มันเร็วเกินไป สโมสรมีเดิมพันสูงมากในการเลื่อนชั้น ยังไงก็ไม่มีวันยอม
อย่างไรก็ตาม คนตัดสินใจว่าจะชี้เป็นชี้ตาย ขั้นสุดท้ายคือคณะกรรมการอิสระ ซึ่งอีกไม่นานนี้ เราก็จะรู้คำตอบ ว่าจะ "ตัดแต้มปีนี้" หรือ "ตัดแต้มปีหน้า" ครับ
ท้ายที่สุด สิ่งที่ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ เลยในเรื่องนี้ คือท่าทีของอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร ที่ปกติจะอยู่เงียบๆ และพูดอะไรในเชิงบวกอยู่ตลอด แต่ในเคสนี้ โจมตีใส่ทั้งพรีเมียร์ลีก และ ฟุตบอลลีกแบบตรงไปตรงมา
มันทำให้เห็นว่าผู้นำบริษัท แม้บุคลิกภายนอกจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ แต่พอองค์กรของตัวเองกำลังจะโดนเล่นงาน บางครั้งก็ต้องมีท่าทีแข็งกร้าว แสดงให้ได้เห็นว่า เราก็ไม่ยอมโดนเล่นง่ายๆ เหมือนกัน
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
