28 มี.ค. เวลา 11:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุป ผลตอบแทน สลากออมสิน ที่มีรางวัลใหญ่สุด 111 ล้านบาท

“สลากออมสิน” ได้รับการพูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่ธนาคารออมสิน ประกาศโครงการฉลองครบรอบ 111 ปี กับแคมเปญสุดยิ่งใหญ่
คือ มอบโชค 111 ล้านบาท แก่ผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากออมสินพิเศษ 1 ปี เฉพาะงวดวันที่ 16 พ.ค. 2567
ซึ่งปกติแล้ว รางวัลที่ 1 ของสลากออมสินพิเศษ 1 ปี จะมีมูลค่า 10 ล้านบาทเท่านั้น
สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนในสลากออมสินนี้ ก็คงจะมีคำถามว่า โอกาสถูกรางวัลที่ 1 ในแต่ละงวด มีมากแค่ไหน ?
แล้วถ้าระหว่างที่ซื้อสลากออมสิน ไม่ถูกรางวัลใหญ่เลย ผลตอบแทนจากการลงทุน จะเป็นเท่าไร ?
วันนี้ MONEY LAB สรุปมาให้เข้าใจแบบง่าย ๆ แล้ว
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจ “สลากออมสินพิเศษ 1 ปี” กันก่อน
สลากออมสินพิเศษ 1 ปี ก็คือสลากออมสินชนิดหนึ่ง ที่ธนาคารออมสินเปิดให้เราซื้อสลากออมเงิน หน่วยละ 100 บาท และมีระยะเวลาการออม คือ 1 ปี
หลังจากครบ 1 ปีแล้ว เราก็จะได้รับเงินต้นคืน พร้อมดอกเบี้ย 0.35% หรือก็คือหน่วยละ 35 สตางค์
ยกตัวอย่าง ถ้าเราซื้อสลากจำนวน 1 ล้านบาท เราก็จะได้รับสลากทั้งหมด 10,000 หน่วย และเมื่อถือจนครบ 1 ปี ก็จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยอีก 3,500 บาท
แต่สิ่งที่พิเศษกว่าการออมเงินทั่วไปก็คือ สลากที่เราซื้อไว้แต่ละหน่วย ก็จะประกอบด้วย งวด, หมวดอักษร และเลข 7 หลักที่ไม่ซ้ำกัน
ให้เราสามารถนำไปลุ้นรางวัลสลากออมสิน ที่ออกเป็นประจำทุกวันที่ 16 ของเดือน ได้ตลอด 1 ปี หรือ 12 งวด
นอกจากนั้น ดอกเบี้ยและเงินรางวัลที่ได้ ก็ไม่ต้องเสียภาษีด้วย
แล้วรางวัลสลากออมสิน มีอะไรบ้าง และเรามีโอกาสถูกรางวัลมากน้อยแค่ไหน ?
- รางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท มี 1 รางวัล
- รางวัลที่ 2 มูลค่า 100,000 บาท มี 1 รางวัล
- รางวัลที่ 3 มูลค่า 10,000 บาท มี 5 รางวัล
- รางวัลที่ 4 มูลค่า 3,000 บาท มี 10 รางวัล
- รางวัลที่ 5 มูลค่า 1,000 บาท มี 15 รางวัล
นอกจากรางวัลใหญ่แล้ว ก็ยังมี
- รางวัลเลขท้าย 4 ตัว มูลค่า 200 บาท
- รางวัลเลขท้าย 3 ตัว มูลค่า 40 บาท
ทีนี้เรามาดูโอกาสในการถูกรางวัลกันบ้าง
1
เนื่องจากสลากออมสิน ประกอบด้วยเลขทั้งหมด 7 หลัก หรือแปลได้ว่า มีเลขที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมด 10 ล้านเลข ทำให้โอกาสในการถูกรางวัลใหญ่ แต่ละรางวัล ก็จะเป็นดังนี้
รางวัลที่ 1 คือ หนึ่งในสิบล้าน หรือ 0.00001%
รางวัลที่ 2 คือ หนึ่งในสิบล้าน หรือ 0.00001%
แต่ทั้งรางวัลที่ 1 และ 2 นอกจากเราจะต้องถูกทั้งเลข 7 หลักแล้ว ยังต้องถูกงวด และถูกหมวดอักษรด้วย
นั่นก็แปลว่า โอกาสถูกรางวัลจึงเหลือไม่ถึง 0.00001%
รางวัลที่ 3 คือ ห้าในสิบล้าน หรือ 0.00005%
รางวัลที่ 4 คือ สิบในสิบล้าน หรือ 0.00010%
รางวัลที่ 5 คือ สิบห้าในสิบล้าน หรือ 0.00015%
เมื่อเห็นโอกาสที่จะถูกรางวัล ที่น้อยริบหรี่แบบนี้แล้ว เราก็คงจะมีคำถามว่า..
ถ้าเราไม่ถูกรางวัลใหญ่พวกนี้เลย เราจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในสลากออมสินเท่าไร​ ?
1
จากตัวอย่างเดิม ถ้าเราซื้อสลากจำนวน 1 ล้านบาท เราก็จะได้รับสลากทั้งหมด 10,000 หน่วย และเป็นเลขที่เรียงกัน 10,000 ตัว เช่น
งวดที่ 604 ก00000001 ถึง ก00010000
1
เนื่องจากเรามีเลขท้าย ที่ไม่ซ้ำกันเลย 10,000 ตัว
เราจึงการันตีได้ว่า จะถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว 1 รางวัล ทุกงวด และจะถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 10 รางวัล ทุกงวด
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เราก็จะสามารถคิดผลตอบแทน จากการลงทุน 1 ปี ได้ดังนี้
- รางวัลเลขท้าย 4 ตัว
มูลค่า 200 บาทต่อเดือน หรือ 2,400 บาทต่อปี
- รางวัลเลขท้าย 3 ตัว
มูลค่า 400 บาทต่อเดือน หรือ 4,800 บาทต่อปี
- ดอกเบี้ย จำนวน 3,500 บาท เมื่อครบ 1 ปี
รวมผลตอบแทนเท่ากับ 10,700 บาท ภายใน 1 ปี จากเงินลงทุน 1 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลตอบแทน 1.07% ต่อปี
ซึ่งถ้าเราเอาไปเทียบกับการฝากประจำ 12 เดือน ที่ปัจจุบันให้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 1.6% - 2.0% ต่อปี
ก็จะพบว่าโดยทั่วไปแล้ว การลงทุนในสลากออมสิน จะได้อัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเสียอีก
แต่เหตุผลที่หลายคนเลือกลงทุนในสลากออมสิน ก็คงเป็นเพราะ มีโอกาส “ได้ลุ้น” รับรางวัลสลากออมสินทุกเดือน คล้าย ๆ กับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล
แถมถ้าไม่ถูกรางวัล เงินก็ไม่หายไปไหนอีกต่างหาก..
โฆษณา