Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Nasron Kongbok
•
ติดตาม
29 มี.ค. 2024 เวลา 14:15 • การศึกษา
รีวิว สอบสัมภาษณ์ ทันตะ มช.💜
Assalamualaikum kub อยากมาเล่าเรื่องสอบสัมภาษณ์คณะทันตะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รอบ portfolio Dek67 เพราะรู้สึกว่าก่อนไปหาแนวทางสอบสัมภาษณ์ของที่นี่ยากมากกก ไม่มีใครให้ถามเลย สอบเสร็จเลยตั้งใจอยากเขียนโพสต์ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับรุ่นน้องหลาย ๆ คน
เริ่มที่ประกาศผล 29/11 สัมภาษณ์ 02/12 กระชั้นชิดแบบนี้ค่าตั๋วก็แพงเอาเรื่องอยู่ (ไปกลับหลักหมื่นอะ🥲) มหาลัยนัดสัมภาษณ์ 8 โมง ไปถึงก็ให้เข้าไปรอในห้อง เก็บอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด อธิบายกฎการสัมภาษณ์แล้วจะเริ่มสัมภาษณ์คิวแรก 9 โมง ระหว่างนั้นก็ได้คุยกับเพื่อนข้าง ๆ จากกรุงเทพบ้าง ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น มหาสารคามก็มี ได้มานั่งรอในห้องนี้ทำให้รู้สึกเปิดโลกมาก ผลงานและการเตรียมตัวของเด็ก วมว.สาธิตสงขลาที่ฟังๆ มาว่าตึงแล้ว ยังห่างกับเด็กที่อื่นเยอะ ภาคกลางนี่ของแทร่เลย (ที่นี้รู้เลยของจริงเป็นไง555)
สิ่งที่ตกใจคือคนที่ได้คุยด้วยเขาเตรียมตัวมาค่อนข้างดี พอจะรู้ว่าต่อไปจะสัมภาษณ์ห้องอะไรบ้าง รู้ว่าคนยื่นพอร์ตมา200+ ผ่านเกณฑ์ 150 แล้วก็เรียกมาสัมภาษณ์ 30 แต่ที่พูดมานี่ไม่รู้เลย สืบไปสืบมาเขาก็ถามรุ่นพี่โรงเรียนเก่าที่เรียนในคณะ แล้วก็มีกรุ๊ปไลน์ของคนที่ยื่นพอร์ทที่นี่แชร์ข้อมูลอยู่ ก่อนหน้านี้ไอเราก็ไม่รู้จะไปถามใคร ได้แต่หารีวิวน้อยนิดตามเน็ตเอา แถมมาถึงอาจารย์ก็ทักอีกว่ายังไม่เคยเห็นใครใส่ชุดโรงเรียนนี้มาสัมภาษณ์เลย
พูดถึงการสอบสัมภาษณ์บ้าง จะแบ่งเป็น 5 ห้อง (ไทย4 Eng1) ห้องละ 7 นาที แล้วแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มละ 5 คน สลับกันเข้าทุกห้องจนครบ
ห้องแรก เป็นห้องภาษาอังกฤษ ห้องนี้ดูเครียดสุดละ เปิดมาจารย์ก็บอก “only speak English” แต่เป็นคนไทยนะ สำเนียงฟังง่าย ห้องนี้คล้ายกับ IELTS speaking section 2 เลย แต่คำถามจะ Academic มากกว่า คือมี 3 คำถามให้เวลาตอบคำถาม ละ 2 นาที ไม่มีแนะนำตัว (อุตส่าห์ท่องมาซะดิบดี) คำถามเท่าที่จำได้แปลไทยก็ประมาณว่า
1. ถ้าคนไข้กลัวการรักษา ในฐานะทันตแพทย์จะรับมือปัญหานี้ยังไง
2. มองอนาคตตัวเองในอาชีพทันตแพทย์ยังไง
3. นิยามของความสำเร็จเป็นยังไง
***อันนี้ไม่ชัวร์นะ ประมาณนี้แหละ***
ห้องที่ 2 ให้ดูคลิปภาษาอังกฤษ 2 คลิป ความยาวคลิปละ 2 นาที ไม่มีซับ + มี iPad ให้ใช้ search ด้วย เป็นโฆษณาน้ำยาบ้วนปากอันนึง อีกอันเป็นโฆษณาแปรงสีฟันไฟฟ้า สำเนียงฟังอย่างยาก พูดเร็วด้วย ทีนี้ก็เข้า google translate รัว ๆ เตรียมข้อมูลไว้ในหัว คิดไว้ว่าเขาคงถามคำถามจากคลิปแหละ
ห้องที่ 3 เปิดเข้าไปเจอรองคณบดีทันตะมาสัมภาษณ์เอง บรรยากาศเครียด ๆ ตึง ๆ กว่าห้องอื่น พูดขึ้นมาคำแรกว่าให้สรุปคลิปทั้ง 2 คลิป ช็อคสิครับรอไร แต่ก็พอถู ๆ ไถ ๆ เท่าที่ได้ จากนั้นเขาก็ถามคำถามจี้ต่อเกี่ยวกับในคลิปนั้นแหละ ประมาณว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้มีข้อดียังไง ข้อเสียยังไง เหมาะกับใครบ้าง โฆษณาน่าเชื่อถือไหม ถ้าเป็นเราจะใช้ผลิตภัณฑ์นี้ไหม
2
ห้องที่ 4 เกี่ยวกับจริยธรรม เรียก medical dilemma ได้มั้ย ให้สุ่มซองคำถามมา 1 ใน 5 เราได้คำถามประมาณว่า
”ถ้าสอบติดคณะทันตะ แต่แม่ไม่สบาย น้องไม่สบาย ไม่มีเงินพอที่ส่งเราให้เรียนคณะนี้แน่ๆ จะทำไง” ส่วนเพื่อนอีกคนได้คำถามว่า “ถ้าเรียนอยู่คณะทันตะปี 4 แล้วรู้ว่าตัวเองเรียนไม่ไหว จะบอกพ่อแม่แล้วแก้ปัญหานี้กันยังไง”
จากนั้นเขาก็จี้ถามต่อไปเรื่อย ๆ จากคำตอบที่เราตอบไป รู้สึกว่าห้องนี้คำถามไม่ได้ยากมาก แต่ที่ยากคือต้องรับมือกับความกดดันของคำถามที่อาจารย์โต้แย้งมา ไม่ว่าจะด้วยสีหน้า คำพูด เพราะด้วยความที่เป็นคำถามปลายเปิด ทุกคำตอบจึงโต้แย้งกันได้ บรรยากาศมันเครียดเพราะอาจารย์ที่ตั้งใจกัดไม่ปล่อยนี่แหละ บันเทิงเลย ถามยันวินาทีสุดท้ายที่เสียงกริ่งดังอะ คำถามสุดท้ายตอบไม่ทันด้วยนะ
ห้องที่ 5 ดูจะชิวสุดละ อาจารย์ใจดีมาก ได้ห้องนี้เป็นห้องแรกคงดี เพราะถ้าเริ่มแบบไม่เครียด คิดว่าน่าจะเพิ่มความมั่นใจในห้องต่อ ๆ ไปได้มากเลย ห้องนี้เขาก็ให้แนะนำตัวสั้น ๆ นี่พูดไปได้ประมาณ 1 นาที อาจารย์เหมือนพยายามเบรครีบพูดให้จบ จากนั้นเขาก็ถามคำถามทั่วไปเลย เช่น จงบอกกิจกรรมที่ประทับใจที่สุด, มองตัวเองในวัย 30 เป็นยังไง, จัดการกับความเครียดและความผิดหวังยังไง, เลือกกิจกรรมนอกพอร์ตมาเล่า 1 อัน, มาเรียนไกลถึงเชียงใหม่จะอยู่ได้มั้ย แล้วเราบอกว่าเราไปเรียนสามจังหวัดเขาเลยถามว่าคิดยังไงกับ กอรม.
***part นี้เตรียมตัวท่องบทแนะนำตัวสั้นๆไป แล้วก็ซ้อมตอบคำถามทั่วไปหาจากในเน็ตได้เลย คิดว่าถ้าดู ๆ คำถามมาแล้วลองตอบกับตัวเองก่อน ตอนเข้าไปสัมภาษณ์จริงน่าจะช่วยได้เยอะ
จะเห็นว่าทุกห้องไม่ได้วัดความรู้เลย เขาน่าจะอยากวัดทัศนคติกับทักษะภาษาอังกฤษ แล้วก็การรับมือกับความกดดัน แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ของแบบนี้มันอยู่ในสายเลือดอยู่ละ555ไม่รู้จะฝึกไง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลย นี่รู้สึกว่าสอบสัมภาษณ์ทุกที่มันเตรียมกันได้อยู่แล้ว
สิ่งที่อยากแนะนำมากที่สุด คือเรื่องการplanอ่านหนังสือ ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าplanไม่ดี จะทำสิ่งที่ตามมาให้ดีมันยากอะ ยื่นพอร์ตคณะนี้มันต้องใช้คะแนนหลายอย่าง อยากให้คิดไว้ตั้งแต่ช่วง ม.5 เลย สายสุขภาพถ้าอยากยื่นพอร์ตก็ควรสอบ IELTS อยู่ละ อย่างที่ทันตะ มช. require IELTS 6.5 (ทันตะที่อื่นส่วนใหญ่ก็ 6.5 แหละ) ที่นี่ไม่ได้บังคับ BMAT แต่คนที่ถามๆมาเขามีกันหมดนะ ยิ่งถ้ามีคะแนน BMAT ตัวเลือกมหาลัยให้ยื่นพอร์ตจะเยอะกว่ามากๆ ที่อยากให้วางแผนดีๆ เพราะค่าสอบทั้งคู่ค่อนข้างแพง บางคนไม่ได้สอบแค่รอบเดียวด้วยซ้ำ
มี plan ของเพื่อนคนนึงที่ได้คุยด้วยแล้วรู้สึกว่าดีมาก ๆ อยากมาแชร์ต่อ คือเขาสอบ IELTS ตั้งแต่ช่วงกุมภา แล้วก็ตะลุยเก็บเนื้อหา ม.ปลายเตรียมสอบ BMAT ช่วงตุลา จากนั้นก็เริ่มอ่าน TGAT TPAT แล้วก็ A-LEVEL ต่อเลย แต่ก็อย่าอ่านแต่หนังสืออย่างเดียวนะ เกรดเฉลี่ยในห้องก็สำคัญ ทันตะทุกที่แหละเขาต้องการค่อนข้างสูง เหมือนที่ มช. นี่ก็ 3.75 เลย
ฝากเป็นข้อมูลให้รุ่นน้องด้วย เชื่อว่าเตรียมตัวดี ๆ วางแผนดี ๆ ตั้งแต่เนิ่น ๆ ยังไงก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ถ้าสงสัยเรื่องไหนเรื่องเรียนหรือไม่ใช่ก็ได้ทักแชทมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ ยินดีแล้วก็อยากแชร์ต่อมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
1 บันทึก
6
1
9
1
6
1
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย