30 มี.ค. เวลา 02:05 • กีฬา

ไทย vs จีน เกมสุดสำคัญ ขอแค่ไม่แพ้ ไทยมีโอกาสเข้ารอบฟุตบอลโลก

วันที่ไทยแพ้จีนคาบ้าน ในแมตช์เดย์ที่ 1 ของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ใครๆ ก็ฟันธงว่า ไทยตกรอบแบ่งกลุ่มแน่นอน มองไม่เห็นทางจริงๆ ที่เราจะพลิกสถานการณ์แล้วเข้ารอบได้
แต่ในแมตช์เดย์ 3 เมื่อไทยเสมอเกาหลีใต้ได้อย่างน่าทึ่ง ส่วนจีนทำแต้มหลุดมือในเกมเยือนสิงคโปร์ ทั้งๆ ที่นำไปก่อน 2 ประตู
เหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตรทันที จากที่ไทยดูแทบไม่มีหวัง ตอนนี้สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้แล้ว
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฟุตบอลสโมสรจะกลับมาเพื่อลงแข่งในช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว ดังนั้น ก่อนที่เราจะอำลาฟีฟ่าเดย์รอบนี้ ผมขอสรุปภาพรวมของไทย ก่อนจะเจอกับจีน ในนัดต่อไป นัดที่ 5 ของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นเกมชี้ชะตาเพื่อลุ้นเข้ารอบฟุตบอลโลก
เมื่ออ่านจบแล้วทุกคนจะเข้าใจทันทีว่า ความฝันที่จะไปบอลโลกของเรา ยังคงสดใสอยู่มากเลยทีเดียว
------------------
[ 1- หนึ่งแต้มที่ไทยได้จากเกาหลีใต้ มีค่ามหาศาลมาก ]
อันดับในกลุ่มซี ของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย หลังจบนัดที่ 4 เป็นแบบนี้คือ
อันดับ 1 เกาหลีใต้
10 แต้ม ลูกได้เสีย +11
อันดับ 2 จีน
7 แต้ม ลูกได้เสีย +1
อันดับ 3 ไทย
4 แต้ม ลูกได้เสีย -2
อันดับ 4 สิงคโปร์
1 แต้ม ลูกได้เสีย -10
การที่ไทยได้ 1 แต้มจากเกาหลีใต้ มันพลิกสถานการณ์ของไทยอย่างสิ้นเชิง เพราะมันทำให้เรามีอ็อปชั่น 2 อย่าง ในการเข้ารอบ นั่นคือ "เสมอจีน" หรือ "ชนะจีน"
อ็อปชั่น 1 - ถ้าเราบุกไป "ชนะจีน" ได้ในนัดที่ 5 กลับมาเจอสิงคโปร์ในบ้านนัดที่ 6 ถ้าชนะได้อีก ในทางปฏิบัติ ยังไงก็เข้ารอบ
อ็อปชั่น 2 - ถ้าเราบุกไป "เสมอจีน" ได้ในนัดที่ 5 เราต้องชนะสิงคโปร์ให้ขาด แล้วภาวนาให้เกาหลีใต้ชนะจีนในกรุงโซล นัดที่ 6
ไม่ว่าจะอ็อปชั่นไหน ขอแค่ไม่แพ้จีนในนัดต่อไป โอกาสเข้ารอบของไทยก็ยังเปิดกว้างมากๆ อยู่
ลองคิดดูนะครับ ว่าถ้าเราไม่มีแต้มจากเกาหลีใต้ที่กรุงโซล ตอนนี้เราจะมีแค่ 3 แต้ม และอ็อปชั่น "บุกไปเสมอจีน" จะไม่เกิดขึ้น คือเราจะต้องไปเยือนจีน ด้วยการเล่นให้ชนะอย่างเดียว
1
เมื่อไม่มีอ็อปชั่นยันเสมอ แบบนั้นจีนจะรับมือเราง่ายมาก เพราะรู้ว่าเราต้องโหมบุกเข้าใส่อยู่แล้ว พวกเขาสามารถตั้งรับแข็งๆ แล้วรอสวนก็ได้ แต่เมื่อเราได้แต้มจากเกาหลีใต้ปั๊บ ส่งผลให้จีนต้องคิดหนักเลยว่า จะเอายังไงดี ในเกมที่เจอไทย
จีนต้องสับสนว่า เอ๊ะ ถ้าเล่นเพื่อเสมอไทย แล้วนัดหน้าไปโดนเกาหลีถล่มล่ะ จะทำยังไง หรือจะบุกลุยเต็มเหนี่ยวเพื่อเอาชนะไทยไปเลย แต่ถ้าโดนไทยโต้กลับจนแพ้ล่ะ มีเรื่องให้ต้องคิดอย่างปวดหัวมาก ว่าจะเล่นหมากไหน
------------------
[ 2- เกาหลีใต้จะเอาจริงแน่นอน ในการเจอจีน ]
ณ เวลานี้ เกาหลีใต้เข้ารอบไปแล้ว 99.99% ต่อให้แพ้อีก 2 เกมที่เหลือก็น่าจะเข้ารอบอยู่ดี หลายคนจึงสงสัยว่า แล้วทำไมพวกเขาต้องเอาจริงด้วย ในการเจอจีน เกมที่ 6 ของรอบแบ่งกลุ่ม
เหตุผลแรกสุดเลยคือ ฟีฟ่าเวิลด์แรงค์กิ้ง ตอนนี้เกาหลีใต้ อยู่อันดับ 3 ของเอเชีย มีแต้มนำหน้า ออสเตรเลีย อันดับ 4 ของเอเชีย อยู่แค่ 7 แต้มนิดๆ แปลว่า ถ้าหลุดเสมอ หรือ แพ้จีนขึ้นมา อาจโดนออสเตรเลียทำแต้มแซงขึ้นมาได้เลย
การจับสลากรอบต่อไปของโซนเอเชีย จะเอา 18 ทีม แบ่งออกเป็น 6 โถ ตามเวิลด์แรงกิ้ง แปลว่า ตอนนี้เกาหลีใต้อยู่โถ 1 ร่วมกับ ญี่ปุ่น (อันดับ 1) และ อิหร่าน (อันดับ 2) ถ้าเกาหลีใต้พลาดท่าร่วงไปอยู่อันดับ 4 ปั๊บ พวกเขาจะหล่นไปอยู่โถ 2 มีโอกาสจับสลากมาเจอญี่ปุ่นในรอบต่อไปทันที คือถ้าอยู่โถ 1 จับเจอ ออสเตรเลีย, ซาอุฯ พวกนี้ เกาหลีใต้สู้ไหว เอเชียนคัพ ก็ชนะมาแล้ว แต่การเจอญี่ปุ่น มันสาหัสมาก ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า
1
นอกจากนั้น จีน ยังมีภาวะที่ชื่อ Koreaphobia (โรคกลัวเกาหลี) คือเจอกันทีไร แพ้ตลอด จนบั่นทอนสุขภาพจิต ตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมฟุตบอลมา จีน ยังไม่เคยชนะเกาหลีใต้ ที่กรุงโซลได้เลยแม้แต่เกมเดียว
สถิติไร้พ่ายต่อเนื่องยาวนาน นักเตะเกาหลีใต้คงไม่อยากให้สถิติเหล่านี้มาพัง ในยุคของเขาแน่
และอีกประเด็นที่น่าสนใจเช่นกัน คือในเดือนมิถุนายน เกาหลีใต้จะแต่งตั้งโค้ชคนใหม่ การเจอจีน คือการลงเล่นในบ้านนัดแรกของโค้ชคนนั้น เขาคงอยากเปิดตัวให้สวย ไม่ใช่พังคาบ้านแน่ๆ
ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลย เกาหลีใต้จะเดินหน้าเอาชนะจีนให้ได้ ในเกมที่ 6 แม้พวกเขาจะเข้ารอบไปแล้วก็ตาม ดังนั้นถ้าไทยเราเสมอจีนในนัดที่ 5 โอกาสเข้ารอบ ก็ยังคงเปิดกว้างอยู่ ขอแค่กลับมาถล่มสิงคโปร์ในบ้านให้ได้ 3 ลูกก็พอแล้ว
1
------------------
[ 3- จีนยังลังเลใจว่าจะใช้แผนไหนดี ]
1
แผนที่จีนใช้ถล่มสิงคโปร์ 4-1 ที่เมืองเทียนจิน คือแผน 4-4-2 แบบไดอามอนด์ เน้นป้องกันตรงกลางให้แน่น แต่สื่อมวลชนจีน ตั้งคำถามว่าแผนนั้นจะเวิร์กหรือไม่ ถ้าต้องเจอกับไทยในนัดต่อไป
2
สื่อจีน ไททัน สปอร์ต อธิบายว่า "โค้ชบรังโก้ อีวานโควิชของเรา ย่อมเข้าใจความแข็งแกร่งของชนาธิป สรงกระสินธิ์อยู่แล้ว พลังกระชากบอลของชนาธิปยังมีความน่ากลัวอยู่ แต่พอมาซาทาดะ อิชิอิ เข้ามาคุมทีม 3 นักเตะที่เกิดหลังปี 1997 ศุภชัย, สุภโชค และ ศุภณัฏฐ์ ถูกใช้งานต่อเนื่อง นักเตะกลุ่มนี้ ทำให้ทีมอย่างโอมาน ยังเล่นได้ยากลำบากมาก ในเอเชียนคัพ" (Note : อีวานโควิช เป็นโค้ชทีมชาติโอมานที่เสมอไทย 0-0 ในเอเชียนคัพต้นปี)
ความหมายคือ 4-4-2 แบบไดอามอนด์ จะใช้งานได้ดี ถ้าคู่แข่งตั้งใจจะเจาะตรงกลางเป็นหลัก เพราะมีกองกลางแพ็กแน่น แต่แผนนี้จะมีจุดอ่อนคือริมเส้น เพราะมีแต่ฟูลแบ็กคนเดียว ไม่มีปีกคอยช่วยซ้อน ซึ่งฝั่งจีนก็กังวลใจเพราะไทยเล่นริมเส้นได้ดีมาก ถ้าใช้แผนแบบเดิม อาจโดนทะลวงด้านข้างก็ได้
เกมที่จีนชนะสิงคโปร์ 4-1 ประตูที่เสีย ก็โดนสิงคโปร์ เปิดบอลด้านขวาให้กองหน้าโหม่ง ดังนั้นในการเจอไทย ที่มีเกมริมเส้นน่ากลัวกว่าสิงคโปร์อีก ถ้าไม่ระวังจุดนี้ อาจโดนยิงได้
------------------
[ 4- จีนขาดอู๋ เล่ย กองหน้าอันดับหนึ่ง ]
1
อู๋ เล่ย คือนักเตะจีนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงได้ในลาลีกา คลาสบอลของเขาเหนือกว่าใครทั้งหมด ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่จีนลงเล่นมา 4 นัด ยิงได้ทั้งหมด 8 ประตู อู๋ เล่ย ยิง 5 แอสซิสต์ 1 คือถ้าไม่มีเขาสักคน ประตูจะหายไป 75%
ในสายตาของเพื่อนๆ ทีมชาติจีน มองอู๋ เล่ย เป็นพระเจ้า ที่สามารถพลิกเกมได้ในพริบตา ดังนั้น จึงเป็นโชคดีของไทยมากๆ ที่อู๋ เล่ย ได้รับใบเหลืองครบ และโดนแบนในเกมเจอไทยพอดี
หวัง เซียวรุย คอลัมนิสต์ชาวจีน ตั้งคำถามว่า "เราจะทดแทนอู๋ เล่ย อย่างไร หรือเราจะเปลี่ยนแผนการเล่นไปเลยในการเจอไทย การขาดคีย์แมนระดับนี้ไป เป็นปัญหาที่ยากมากที่จะแก้"
แน่นอน จีนยังมีอาวุธอย่างอื่นอีก แต่การขาดหัวหอกเบอร์หนึ่งไป ย่อมส่งผลต่อไอเดียในการเล่นเกมรุกแน่นอน
ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งที่โดนแบนเช่นกันคือ หลี หยวนหยี จากทีมชานตง ไทชาน ที่โดนใบแดงในเกมเจอสิงคโปร์
จุดนี้ไทยได้เปรียบนิดๆ เพราะไม่มีตัวโดนแบนเลย แค่ภาวนาให้ตัวหลัก ฟิตสมบูรณ์ก็พอก่อนทำศึกใหญ่กับจีน วันที่ 6 มิถุนายนนี้
1
------------------
[ 5- จีน ยังไม่ได้เลือกสนาม ]
ประเทศจีนนั้นกว้างใหญ่มาก และมีสนามระดับคุณภาพของ AFC อยู่เกินสิบแห่ง สามารถเลือกใช้ได้เลยว่าจะแข่งสนามไหน เกมแรกเจอเกาหลีใต้ ใช้เมืองเซินเจิ้น เกมต่อมากับสิงคโปร์ใช้เมืองเทียนจิน
ถ้าให้เดา ผมคิดว่าจีนต้องใช้สนามที่พวกเขาจะได้เปรียบไทยที่สุดแน่ๆ เช่น เลือกสนามที่ไม่มีเที่ยวบินตรง ให้เดินทางยากที่สุด เหนื่อยล้าที่สุด เช่น เทียนจิน หรือ ชิงเต่า
ส่วนเมืองที่เดินทางง่ายๆ มีเที่ยวบินตรง และอยู่ภาคใต้หน่อยจนไทยเดินทางง่าย อย่างพวก กว่างโจว, เซินเจิ้น, เซี่ยงไฮ้, หังโจว ก็อาจไม่ถูกพิจารณาเป็นตัวเลือก
ตามกฎของ AFC จีนต้องประกาศสนาม 45 วันก่อนแข่ง แปลว่าไม่เกิน 21 เมษายนเราต้องรู้แล้วว่าจะแข่งสนามไหน กองเชียร์ไทย ที่อยากตามไปเชียร์จะได้วางแผนจองตั๋วได้ เช่นเดียวกับสมาคมฟุตบอลจะได้แพลนอย่างแม่นยำ ว่าจะจัดการเดินทางอย่างไร ให้อ่อนล้าน้อยที่สุด
------------------
[ 6- ทีมชาติไทย ได้เวลาเติมผู้เล่นใหม่เข้ามาสู่ทีม ]
ระยะเวลา จากวันที่แพ้เอเชียนคัพ มาจนถึงวันที่เจอเกาหลีใต้ที่กรุงโซล มี Gap 51 วัน เข้าใจว่าน้อยเกินไป สำหรับอิชิอิ ที่จะทดลองผู้เล่นหน้าใหม่ แต่ในฟีฟ่าเดย์นัดต่อไป ที่จะเจอกับจีน เรามี Gap ถึง 73 วัน ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้ว ที่อิชิอิ จะไม่เรียกตัวผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้ามาติดทีมบ้าง
ตำแหน่งที่ไทยยังขาดหายไป คือ แบ็กซ้ายมืออาชีพ ที่เอามาหมุนเวียนกับธีราทร บุญมาทัน แฟนบอลคิดว่าดีกว่า ถ้านิโคลัส มิคเคลสันได้เล่นขวาไปยาวๆ ไม่ต้องมายืนสลับเล่นฝั่งซ้าย, เซ็นเตอร์แบ็ก 1 คน และ มิดฟิลด์ตัวกลางอีกหนึ่งคน ชื่อของโจนาธาร เข็มดี และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร จะถูกหยิบขึ้นมาว่าได้เวลาที่จะติดทีมชาติแล้วหรือยัง
นอกจากนั้นยังมีคำถามอีกหลายข้อ ที่อิชิอิต้องเอาไปคิด เช่น ธีรศิลป์ แดงดา จะติดทีมหรือไม่ โดย 6 มิถุนายนวันที่เตะกับจีน คือวันเกิดอายุครบ 36 ปีของมุ้ย เขาควรให้โอกาสมุ้ยอยู่อีกไหมในวัยขนาดนี้
รวมถึงเอกนิษฐ์ ปัญญา ในอีก 2 เดือนครึ่งต่อจากนี้ จะมีโอกาสได้ลงเล่นกับอุราวะ เรด ไดมอนด์ หรือไม่ ถ้ายังไม่ได้ลง ก็คงยากที่จะถูกเรียกตัว
มีคำถามอีกหลายอย่าง ให้อิชิอิเก็บไปคิดในช่วง 2 เดือนครึ่งต่อจากนี้ ก่อนถึงศึกใหญ่ที่สุดกับทีมชาติจีน วันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึง เพื่อหา Squad ที่สมบูรณ์ที่สุด
------------------
[ 7- อิชิอิ มีความชำนาญถ้าต้องเล่นให้ไม่แพ้ ]
ในเอเชียนคัพ เราเห็นไปแล้ว ในเกมที่เจอกับโอมาน เมื่ออิชิอิตั้งใจจะเล่นให้เสมอ เพื่อการันตีการเข้ารอบชัวร์ๆ เขาวางแท็กติกอย่างอดทนขนาดไหน รวมถึงในเกมที่เจอกับซาอุดิอาระเบีย และเกาหลีใต้ ที่เราเป็นรองมากมาย แต่ก็สามารถดึงผลเสมอออกมาได้
1
ในเงื่อนไข ที่ผลเสมอก็ไม่เสียหาย ถ้าอิชิอิจะดึงให้ออกเสมอจริงๆ เขาก็ย่อมมีวิธีให้ไทยเล่นแบบนั้นได้
คำถามคือ จะเล่นด้วยวิธีการไหน จะให้จบเสมอ หรือ จะบุกไปชนะเลย นี่เป็นเรื่องที่อิชิอิ และฝ่ายกลยุทธ์ของสมาคมต้องวางแผนร่วมกัน เพื่อการเข้ารอบครับ
------------------
นี่คือภาพรวมของทีมชาติไทย และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกลุ่มซี หลังจบเกมที่ 3 และ 4 ครับ
แม้แต้มเราจะโดนจีนแซงก็จริง แต่สถานการณ์ของไทย "ดีขึ้น" กว่าเดิมมาก
ฝั่งจีนนั้นเครียดอยู่ เพราะถ้าสิงคโปร์ชนะเกาหลีใต้ในเกมที่ 5 ไม่ได้ (ซึ่งก็คงไม่ชนะ) สิงคโปร์จะตกรอบแบบ 100% ทันที แปลว่าในเกมที่ 6 ที่สิงคโปร์มาเยือนราชมังคลากีฬาสถาน อาจจะ "ปล่อยจอย" เล่นแบบไม่บู๊เต็มที่ เพราะตกรอบไปแล้ว เผลอๆ อาจมีช่องว่างให้ไทยได้ยิงถึง 3-4 ลูกได้เลย
ดังนั้นจีนรู้ดีว่า เกมเจอไทยวันที่ 6 มิถุนายนนี้ พวกเขาจบด้วยการเสมอไม่ได้ ต้องชนะไปเลยเพื่อเข้ารอบทันที
ถ้าปล่อยให้เกมนั้น โดนไทยดึงเสมอได้ เกมสุดท้ายพวกเขาต้องบุกไปมีแต้มกับเกาหลีใต้ที่กรุงโซล
1
และถ้าจีนทำไม่ได้ โดนเกาหลีใต้อัด ก็ต้องลุ้นให้สิงคโปร์ที่ตกรอบไปแล้ว ยันไทยให้อยู่ คือมันเป็นเงื่อนไขที่ยากมากทั้งสองข้อ
สรุปคือการเจอกันของจีน กับ ไทยนั้น จีนได้เปรียบที่เป็นเจ้าบ้าน มีพลังกองเชียร์ และได้สิทธิ์เลือกสนามที่จะทำให้ไทยลำบากที่สุด นอกจากนั้นยังมีฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้งดีกว่าไทยอีกด้วย
1
แต่ไทยได้เปรียบเพราะไม่มีตัวติดโทษแบน และสถานการณ์เล่นง่ายกว่า เพราะดึงให้ออกเสมอได้ แถมยังมีสถิติที่ดีในการไปเยือนจีน 3 นัดหลังสุดที่เราเล่นในแผ่นดินจีน ชนะได้ถึง 2 ครั้ง
ตอนนี้สิ่งที่แฟนบอลไทยสามารถทำได้ คือไปพักจิตใจ พักร่างกาย ถือว่า 2 นัดกับเกาหลีใต้เราได้ 1 แต้มแล้ว บรรลุผลแล้ว
ได้เวลาเปลี่ยนโหมดการเชียร์ ไปลุ้นพรีเมียร์ลีกว่าใครจะได้แชมป์, ลุ้นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ว่าใครจะได้ไปเวมบลีย์ และ ลุ้นชาบี อลอนโซ่ ว่าจะพาเลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์ได้หรือไม่
จากนั้นต้นเดือนมิถุนายนค่อยกลับมารวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยกันอีกครั้ง เพื่อให้กำลังใจทีมช้างศึก ลงเล่นเกมที่สำคัญที่สุดในรอบ 4 ปี พบกับทีมชาติจีนครับผม
1
โฆษณา