30 มี.ค. เวลา 08:06 • สัตว์เลี้ยง

หินปูนเรื่องใกล้ตัวของน้องแมว

เป็นเรื่องที่ไม่เคยนึกถึง จนวันนี้ที่เจอปัญหาหินปูน เลยเอามาเขียนแบ่งปันเหล่าพ่อแม่แมวกันดีกว่าค่ะ
หินปูนเกิดจากการสะสมของขี้ฟัน คราบอาหาร แบคทีเรียต่าง ๆ ทำให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบ หินปูนในระยะแรกๆ จะไม่มีอาการชัดเจน ทำให้เจ้าของไม่ทันได้สังเกตุ จึงมักพบเมื่อมีน้องแมวมีหินปูนสะสมปริมาณมากแล้ว การตรวจสุขภาพประจำปี คุณหมอมักตรวจช่องปากให้ จึงเพิ่มโอกาสให้พบการสะสมของหินปูนตั้งเเต่เนิ่นๆ แมวที่มีหินปูนสะสมมากจะพบอาการดังนี้
มีกลิ่นปาก เมื่อเลียตัวจึงทำให้ตัวเหม็น
กินอาหารน้อยลง ร่างกายมักผอมลง
อารมณ์ไม่ดี
สามารถแง้มกระพุ้งแก้มน้องแมวเพื่อดูคร่าวๆ ได้
ตามปกติที่บ้านสุจะไม่เจอปัญหาหินปูนตามฟันของน้องแมวเท่าไหร่ อาจจะเพราะส่วนหนึ่งแมวที่บ้านไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเรียงตัวของฟัน เลยลดปัญหาด้านการสะสมของหินปูนไปได้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็อาจเพราะให้อาหารเม็ด ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการลดการเกิดหินปูน
กับแมวป่วยที่บ้านอย่างปุยใจ กับข้าวแต๋นระยะหลังๆ จะพบหินปูน อาจจะเพราะด้วยพฤติกรรมการกินอาหาร กินน้ำลดลง จึงทำให้เกิดการสะสมของหินปูนได้ง่าย สุไม่มั่นใจว่านอกจากด้านพฤติกรรมแล้ว ในช่วงที่แมวป่วยความสมดุลย์ของแบคทีเรียประจำถิ่นในช่องปาก ค่าความเป็นกรดด่าง สารประกอบในน้ำลาย มีการผิดเพี้ยนจนทำให้ง่ายต่อการเกิดหินปูนด้วยหรือไม่นะคะ
เมื่อสัปดาห์ก่อนได้คำถามเกี่ยวกับหินปูนในแมวเด็ก เลยได้ลองตรวจดูหินปูนในแมว ๆ ที่บ้าน ถึงแม้จะชะล้าใจคิดว่าไม่มีหรอก เทา กับ ตาลก็เคยดูแล้วไม่พบ ส่วนข้าวนิลถึงจะหน้าสั้น ฟันนางเรียงสวยดี แถมอ้วนมากๆ ทุกตัวกินเก่งปกติ จึงไม่ใช่สัญญาณของการมีหินปูนในปริมาณมาก หรือ ปัญหาเหงือกอักเสบ
พอจับนิลจะมาดูฟันก็เจอกลิ่นปากรุนแรง อิแม่ใจคอไม่ดี รีบแง้มกระพุ้งแก้มดูฟันกราม… แล้วก็เจอหินปูนก้อนใหญ่ ๆ ในปากยัยนิล
มานึกย้อน ต่อให้ไม่มีปัญหาสุขภาพ แต่พฤติกรรมมีผลต่อการสะสมของหินปูนได้ ข้าวนิลที่ไม่มีเพื่อน ๆ แมวตัวไหนอยากคบ ตัวเค้าเองก็ไม่ชอบเพื่อน ๆ แมวตัวอื่น บางครั้งความเครียดสามารถเพิ่มโอกาสการสะสมของหินปูนได้ เพื่อลดการเผชิญหน้ากับแมวตัวอื่น ๆ จึงหลีกเลี่ยงการมากินน้ำนั้นเองค่ะ
ต้องขอบคุณ คุณโจสำหรับ cat warp ตั้งแต่สมัยที่เปี๊ยกยังอยู่ คราวนี้ได้โอกาสหยิบออกมาใช้ห่อยัยนิล เพื่อลองสะกิดหินปูนดูเองก่อน ซึ่งโชคดีมากที่หินปูนของนิลหลุดออกมาง่ายทั้ง 3 ตำแหน่ง ส่วนในตำแหน่งที่ 4 มีเพียงเล็กน้อย ทำให้ยากในการสะกิด
ข้อความหาคุณหมอ ซึ่งคุณหมอให้คำแนะนำว่า ให้พาข้าวนิลไปขูดหินปูนกับกับสัตวแพทย์อีกครั้ง (อีกอย่างอาจให้หมอตรวจดูสุขภาพช่องปากต่อ เพราะการมีหินปูนสะสมมาก กลิ่นปากเหม็น น่าจะมีการอักเสบในช่องปากไม่มากก็น้อย) การมีหินปูนสะสม มีโอกาสต่ำ ๆ ที่เศษหินปูนเล็ก ๆ อาจหลุดไปตามหลอดเลือดบริเวณรากฟัน แล้วทำให้ลิ้นหัวใจอักเสบได้ ส่วนยาสีฟันแมวมีส่วนช่วยในการลดการ “สะสม” ของหินปูนค่ะ (จิตตกเริ่มแล้ว 1)
แล้วความสุ ก็เกิดความสงสัยย้อนกลับว่า นอกจากหินปูนจะทำให้แมวป่วย เนื่องจากการอักเสบ ติดเชื้อ การขาดสารอาหารแล้ว เพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยของหัวใจ ตับ ไตแล้ว มีปัญหาสุขภาพด้านใดเป็นพิเศษไหม ที่ทำให้แมวตัวนั้น ๆ มีการสะสมของหินปูนได้ง่ายขึ้น เลยหาทำเปิดบทความมาอ่านเล่น ๆ เพิ่มความจิตตกให้ตัวเอง
ก็พบว่ามีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันบางตัว ทำให้ต่อมน้ำลายทำงานผิดปกติไป จึงทำให้ง่ายต่อการสะสมของหินปูนได้ (จิตตกเพิ่มแล้ว 2) แต่โรคนี้ไม่ได้พบบ่อย ส่วนมากจะพบในแมวที่ติดเชื้อ FIV และ FeLV มากกว่า เด็ก ๆ ที่บ้านไม่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อทั้ง 2 ตัวนี้ เพราะ เลี้ยงระบบปิด 100% จึงปล่อยวาง ไม่เพิ่มความจิตตกที่ 3 ให้ตัวเอง ไม่อ่านต่อค่ะ
ดังนั้นการพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพประจำปี การใส่ใจพฤติกรรม ความเครียด การเลี้ยงแมวระบบปิดจะช่วยให้เรารู้จักสุขภาพของน้องแมวได้ดีขึ้นค่ะ
โฆษณา