31 มี.ค. เวลา 03:47 • ท่องเที่ยว

ภูเขาและสายน้ำ .. ความทรงจำจากลำธารนางฟ้า เสิ่นหนงซี

ภูเขาและสายน้ำ .. ความทรงจำจาก ลำธารนางฟ้า เสิ่นหนงซี Fairy Mountain
เรือสำราญ Century Oasis ยังคงแล่นไปตามแม่น้ำแยงซึเกียง เคลื่อนคล้อยผ่านภูเขา และทิวทัศน์ที่สวยงามของมหานทีแห่งแดนมังกร บ่ายหน้าสู่จุดหมายใหม่ของเรา คือ “อุทยานเขานางฟ้า”
.. เพื่อนเราบางคนตื่นเช้าตรู่เพื่อมาเรียนการออกกำลังกายด้วยการรำไท้เก๊กรับอรุณ พร้อมกับครูชาวจีน .. หลักการ คือการเคลื่อนไหวร่างกายให้สัมพันธ์กับการหายใจ ได้ฝึกสมาธิ และปล่อยกายใจให้พริ้วไหวไปตามจังหวะของธรรมชาติ
“ลำธารนางฟ้า”.. การไปเที่ยมชมเราต้องใช้บริการของเรือท่องเที่ยวท้องถิ่นขนาดเล็กที่ได้รับการตกแต่งเรือให้ออกมาเป็นแบบจีน
เรือนั่งได้ราวลำละ 20 คน เรามีไกด์คอยดูแลและนำชม อธิบายและให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวในรายทาง
จุดชมวิวลำธารนางฟ้า เสิ่นหนิ่วซี 神女溪 ตั้งอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซีในอำเภอปาตง (巴东县) เมืองเอินซือ เป็นสถานที่ท่องประจำชาติระดับ 5A ของเมืองจีน
ต้นกำเนิดของลำธารนั้นเริ่มต้นจากทางตอนใต้ของเขตเซินหนงเจียหลิน (神农架林区) ซึ่งไหลยาวลงมาพาดผ่านตามหุบเขาจนมาประจบเข้ากับแม่น้ำแยงซีที่ตั้งอยู่บริเวณทางทิศเหนือของอำเภอปาตง โดยลำธารมีความยาวทั้งสิ้น 60 กิโลเมตร
.. โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอนด้วยกันคือ .. ตอนต้น สายชื่อกวนตู้ ตอนกลางชื่อจื่อหยาง และตอนปลายชื่อเสิ่นหนึ่วซี ซึ่งไหลมาบรรจบรวมกันที่แม่น้า แยงซี เกียง
เรือท่องเที่ยวที่ให้บริการในการเที่ยวชมใน “ลำธารเขานางฟ้า”..
ช่วงต้นของการเดินทาง .. ทัศนียภาพรอบๆสองฟากฝั่งแม่น้ำเฉินหนวงซี (หนึ่งในลำน้ำกว่า 700 สายที่ไหลมาหล่อลี้ยงแม่น้ำแยงซีมิให้อยู่โดดเดี่ยว)
ความใสบริสุทธิ์ของอากาศ ความเงียบ สงบกับบรรยากาศ ความเขียวขจีของหมู่พฤกษานานาชนิด เปรียบเสมือนท่านได้เยื้องย่างเข้าสู่แดน สุขาวดี
โดยมีเรื่องเล่าสืบขานกันว่า ธารน้ำแห่งนี้ได้มีมวลหมู่นางฟ้าลงมาเล่นน้ำกัน …
อีกทั้งยังตั้งอยู่ฝั่งตรง ข้ามเทือกเขานางฟ้า จึงได้ถูกขนานนามว่า ธารน้ำนางฟ้า เสิ่นหนิ่วซี 神女溪
ไกด์เล่าว่า .. แม่น้ำสายนี้สองฟากฝั่งถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง สูงแบบต้องแหงนมองคอตั้งบ่า แต่สวยงามยิ่งนัก
แต่เดิมก่อนมีการสร้างเขื่อนเราไม่สามารถลงเรือล่องเข้ามาชมธรรมชาติได้แบบนี้ เพราะแม่น้ำมีความแคบมากและลึกเพียง 1-2 ม. แต่ภายหลังสร้างเขื่อนแม่น้ำมีความลึกถึง 70-100 ม. เลยทีเดียว
ในสมัยก่อนสร้างเขื่อน การเดินทางทางเรือในบางช่วงคงต้องใช้แรงงานคนลากเรือให้ผ่านด่านที่มรแก่งกินมาดมายในน้ำ
ป่าเขาทึบและหน้าผาสูงชัน .. เป็นทิวทัศน์ที่เราพบเจอเป็นปกติในขณะของการล่องเรือในลำธารสายนี้
โตรกผาที่บีบแคบมากๆ บางครั้งรู้สึกเหมือนกำลังลอดอุโมงค์ซึ่งมีกำแพงหินสูงมากขนาบทั้ง 2 ข้าง
.. บนแผ่นผามีพฤกษาเขียวครึ้มสลับกับลวดลายของแผ่นหินปูน
.. บางช่วงมองเห็นถ้ำ ซ่อนอยู่ตามหลืบมุม .. ไกด์ของเราบอกว่า ชาวถู่เจีย ที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ใช้เป็นที่เก็บศพของบรรพบุรุษ ด้วยความเชื่อที่ว่าวิญญาณของผู้ตายจะได้อยู่ใกล้สวรรค์ พอถึงเดือน 8 ทางจันทรคติ ก็จะพากันมาเซ่นไหว้บรรพชนกัน
.. ฟังแล้วอึ้ง .. คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ คือ พวกเขาขนศพขึ้นไปตามหน้าผาสูงชันแบบนี้ได้อย่างไร?
.. ตามทางที่เราผ่านไป เรามองเห็นกะไดลิง ห้อยระโยงระยางอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ชาวบ้านใช้ในการปีนขึ้นที่สูงเพื่อกลับบ้านอยู่เป็นประจำ .. ก็อาจจะเป็นวิธีที่พวกเขาใช้ขนส่งสิ่งต่างๆขึ้นสู่ที่สูงด้วยเช่นกัน
ภูมิประเทศที่มีภูเขารายล้อม และมียอดภูเขาสูงมากมาย
.. ทำให้ในโตรกเขาที่ลำธารแทรกตัวไหลผ่าน มีอากาศที่เย็นสบายด้วยอุณหภูมิเพียง 24 องศาเซลเซียสแม้ในช่วงฤดูร้อน
เรือท่องเที่ยวลำน้อยกำลังพาเราทุกคนกลับขึ้นฝั่ง เพื่อไปยังเรือใหญ่ที่เราจากมา ..
นี่ไม่ใช่การจบลงอย่างน่าเศร้า แต่เป็นการกลับไปเพื่อเริ่มต้นการเดินทางและการผจญภัยครั้งใหม่ และครั้งต่อๆไป เพื่อค้นหาและเผชิญหน้ากับสิ่งดีๆที่สวยงามบนเส้นทางการท่องเที่ยวในอนาคต
โฆษณา