1 เม.ย. เวลา 09:43 • หนังสือ

เจอเหรียญตก1บาทอย่าเก็บเชียว

จนกระทั่งเติบโตขึ้นเข้าใจอะไรมากขึ้น ทำให้รู้ว่าบางทีเราก็จำเป็นต้องเก็บมาเพื่อหยุดคิดไตร่ตรอง แล้วค่อยตัดสินใจ
บันทึกไว้ ณ
เมื่อสมัยยังเป็นเด็ก เคยถูกผู้ใหญ่สอนว่า “การเก็บระหว่างทาง แม้เป็นเพียงเหรียญ ๑ บาท ก็อย่าได้เก็บเชียว”เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาจะทำให้ชีวิตประสบกับสิ่งที่ไม่ดี ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ชีวิตจะมีแต่อุปสรรค
หากพูดถึงความเชื่อในเรื่องดังกล่าว ที่ได้ฟังผ่านคนนั้นมาคนนี้มาโดยเฉพาะผู้ใหญ่รุ่นก่อนหน้าเราก็เคยเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างว่าการเก็บเหรียญที่ว่าจะมีผลต่อชีวิตอย่างไร ก็ปฏิบัติตามเสมอมา
และเมื่อมองย้อนกลับไปสังเกตชีวิตตัวเอง ก็จะเป็นคนที่มองข้ามเรื่องบางเรื่องไป สุดท้ายก็มานั่งเสียดายว่าทำไมเราถึงมองข้ามเรื่องนี้ไปได้นะ?
ใน บค นี้จะไม่พูดถึงความเชื่อเรื่องการเก็บเหรียญแล้วมีผลต่อชีวิตมากนัก แต่จะเป็นการเปรียบเทียบและพูดถึงการใช้ชีวิตผ่านแนวคิดการเก็บเหรียญเสียมากกว่า
จนกระทั่งเติบโตขึ้นเข้าใจอะไรมากขึ้น ทำให้รู้ว่าบางทีเราก็จำเป็นต้องเก็บมาเพื่อหยุดคิดไตร่ตรอง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับมันดี
และมองย้อนกลับไปเช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เรื่องเล็กๆน้อยๆเราใส่ใจมากขึ้น ชีวิตดูมีคุณค่ามากขึ้น ตื่นขึ้นพร้อมกับแพชชั่นที่อยากจะทำในแต่ละวัน เพียงแค่ใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ
มันเกิดอะไรขึ้นกับปรากฎการณ์เก็บเหรียญนี้?
ถ้าจะมองในมุมของการใช้ชีวิต การเก็บมันขึ้นมาคล้ายกับการใช้ชีวิตที่บางครั้งระหว่างทาง เราเจอเรื่องราวต่างๆที่อาจจะดูไม่สำคัญ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปอาจจะเป็นส่วนเล็กๆที่สำคัญก็ได้
การที่เราเดินผ่านและมองข้ามเรื่องเล็กๆไป มันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางทีอาจทำให้เราเสียใจในภายหลังหากเรื่องนั้นมันควรจะใส่ใจให้มากกว่านี้
และเมื่อมองย้อนกลับไปจะเกิดคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเราไม่ทำเรื่องนั้นตั้งแต่แรก “รู้งี้….”
จากปรากฏการณ์เก็บเหรียญระหว่างทางทำให้ผมคิดได้เรื่องหนึ่งว่า แม้ว่าสิ่งที่เราพบเจอมันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ เช่นการเก็บเหรียญ1บาทที่หล่นพื้น
หากเราเก็บมันขึ้นมาห้าครั้งมันก็จะกล่ยเป็น เหรียญที่มีมูลค่า 5 บาท มันก็สามารถนำไปต่อยอดได้ให้เกิดคุณค่าจากเหรียญ 5 บาทไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำไปซื้อของการเก็บออม หรือแบ่งปันล้วนแล้วแต่สร้างคุณค่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เหมือนกับเราได้เริ่มต้นทำสิ่งเล็กๆน้อยๆซ้ำๆจนเกิดเป็นการนิสัยหรือพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองงั้นก็หมายความว่าจะส่งผลให้เราได้เพิ่มพูนเติบโต จาก 1เป็น10 จาก 10เป็น100 และจะยิ่งทวีคูณถ้าหากเรารู้จักนำสิ่งเหล่านั้นไปใช้ เพื่อสร้างมูลค่าและอย่างมีคุณค่า
ท้ายที่สุดคติความเชื่อใดๆมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะเชื่อสิ่งใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือเชื่อว่าสิ่งที่ทำมันจะสะท้อนตัวตนของเราในทางที่เหมาะสม เหมาะสมตามเวลา สถานที่ ละผู้คน โดยไม่กระทบหรือไปทำร้ายใคร
แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่หากเราใส่ใจมัน ย่อมเกิดมูลค่า ทั้งกับตัวเองกับคนอื่นๆ ลองหันมาใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆกันเถอะครับนั่นก็เพียงพอต่อการดำรงอยู่ของเราแล้ว
โฆษณา