1 เม.ย. 2024 เวลา 08:52 • ความคิดเห็น
เอาเป็นว่า
ผมมองว่า บ้านเราน่าจะมองคนดีคนชั่วในมุมมองใหม่ ซึ่งผมมองว่าเป็นมุมที่ชัดเจนกว่า
คนดีคือคนกล้า
คนชั่วคือคนขี้ขลาดตาขาว
2
• การกระโดดลงนำ้ไปช่วยชีวิตคนแปลกหน้าที่กำลังจะจมน้ำนั้น ต้องอาศัยความกล้า
1
• การแอบลอบทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นสันดานของพวกขี้ขลาดตาขาว ที่ชอบตั้งตนเป็นอั้งยี่ซ่องโจร เป็นอีแอบรายวัน! รอวันตาย ฉ้อโกงฉ้อฉลได้ เพราะ “กลัว” ว่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้นไม่ได้มีแบบนี้ก่อนตาย
• และแน่นอนว่า คนขี้ขลาดมีอยู่ทั่วไปเหมือนเศษฝุ่นที่ติดฝ่าเท้า
ส่วนคนกล้านั้นมีอยู่เพียงน้อยนิด!
• แต่ไม่ว่า การทำดีหรือทำชั่ว มันจะมี “ผลสืบเนื่อง หรือ ” consequences” ตามมาเสมอ
- คนชั่วก็เหมือนคนที่แบกถังนำ้มันเชื้อเพลิงที่มีรูรั่วไว้ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็จะมีหยดน้ำมันไหลออกมาเป็นทาง
วันใดมีสะเก็ดไฟมาติดรอยทางหยดน้ำมัน ไฟก็ลุกไล่ไปหามัน
- ส่วนคนทำดี ก็เหมือนคนที่เผชิญความยากลำบาก เพราะพวกเขามีตะกร้าเปล่าๆแบกไว้ด้านหลัง
เวลาเดินไปทางไหน ก็จะหาของดีๆเก็บใส่ตะกร้าไปเรื่อยๆ
วันหนึ่งที่พวกเขาหยุดพัก พวกเขาก็จะได้ใช้สอย อาหารและน้ำ และของใช้มีค่าที่สะสมไว้ในตะกร้าใบนั้น!
1
• บนโลกมนุษย์ มีมนุษย์นับถือศาสนาอยู่หลากหลาย
แทบทุกศาสนามีคำสอนเรื่อง “สวรรค์” และ “นรก”
มันเป็นเรื่องที่แปลกอยู่ หากผู้คนต่างศาสนาอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน
1
แต่พอตายไป ต้องไปแยกอยู่ตามสวรรค์หรือนรกเฉพาะศาสนานั้น!
1
และแน่นอนว่า
คนขี้ขลาดตาขาวจำนวนหนึ่ง ย่อมต้องใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการทำความชั่ว แทนที่จะทำความดีอย่างที่คนกล้าหาญเขาทำกัน!
2
โฆษณา