2 เม.ย. เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ราคารถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลงเร็วกว่าที่คาด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่วนใหญ่เคยมีราคาแพงกว่ารถยนต์พลังงานน้ำมัน แต่สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อราคาแบตเตอรี่มีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็ว
เหตุผลแรกที่ทำให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง คือการที่การผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกได้กลับมาเป็นปกติแล้ว ย้อนกลับไปตอนที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ห่วงโซ่การผลิตแบตเตอรี่ถูกกระทบอย่างรุนแรง ทำให้แบตเตอรี่ขาดแคลนและมีราคาสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การผลิตแบตเตอรี่ก็กลับมาเช่นกัน อย่างในปี 2023 อุปทานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศจีน จนราคาแบตเตอรี่ทั่วโลกร่วงลงกว่า 14% ในปีนั้น ตามรายงานจาก BloombergNEF
นอกจากนี้ วัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ อย่าง ลิเทียม ก็มีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วย จากการคาดการณ์ของ ICCT อุปทานลิเทียมจากสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะเกินอุปสงค์ในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ซึ่งหนึ่งในสาเหตุก็มาจากการที่สหรัฐฯ มีเหมืองลิเทียมและโรงงานที่กำลังสร้างอยู่ในปัจจุบันมากกว่า 100 แห่ง แถมข้อตกลงทางการค้าอย่าง Free Trade Agreement (FTA) และ Critical Mineral Agreement (CMA) ก็น่าจะทำให้สหรัฐฯ มีคู่ค้า อย่าง ออสเตรเลีย ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มอุปสงค์ลิเทียมให้ด้วย
ทั้งนี้ ICCT คาดว่าในปี 2025 การขุดลิเทียมจะแตะระดับมากกว่า 1.3 ล้านตันต่อปี และในปี 2032 จะแตะระดับมากกว่า 2.1 ล้านตันต่อปี ซึ่งอุปทานลิเทียมที่มากขึ้นก็จะทำให้ราคาลิเทียมลดลง ส่งผลให้ราคาแบตเตอรี่ลดลงตามจากต้นทุนที่ถูกลง โดย Goldman Sachs มองว่าราคาแบตเตอรี่มีแนวโน้มที่จะลดลงถึง 40% ในปี 2025 จากปี 2022 (แผนภูมิ 1)
อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยลดราคา EV ทั่วโลก ก็คือนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนให้ใช้พลังงานสะอาด จากรายงานของ ICCT กฎหมาย Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะทำให้ราคา EV ลดลงจนเทียบเท่ากับราคารถยนต์พลังงานน้ำมันได้ในราวๆ 3 ปี
โดยจำนวนเงินโดยเฉลี่ยที่ผู้ซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่จะได้รับการสนับสนุนหรือลดหย่อนจาก Inflation Reduction Act และ Clean Vehicle Tax Credit ของสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อรถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ (BEV) หนึ่งคัน ตามลำดับ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว ราคารถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ก็จะลดลงราวๆ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ และนี่จะทำให้ระยะเวลาที่ราคารถยนต์ไฟฟ้าจะลดลงมาถูกเท่ากับรถยนต์พลังงานน้ำมันนั้นเร็วขึ้นอีก
โดยสรุปแล้ว ราคา EV อาจลดลงเร็วกว่าที่หลายคนเคยคาดไว้จากราคาแบตเตอรี่ที่ถูกลง นอกจากนี้ การที่รัฐบาลทั่วโลกพยายามออกนโยบายเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้ EV แทนรถยนต์พลังงานน้ำมันก็จะช่วยให้ EV มีราคาถูกลงไปอีกด้วย
โฆษณา