อินเดียสร้างกำแพงกั้นพม่า
โดย
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
พม่ามีพรมแดนติดกับประเทศอื่น 6,523 กิโลเมตร ยาวสุดคือติดกับไทย (2,416) นอกจากนั้นก็ติดกับจีน (2,129) อินเดีย (1,610) บังกลาเทศ (270) และลาว (238)
ขณะนี้มีการต่อสู้ระหว่างกองกำลังของรัฐบาลเผด็จการทหาร ทหารฝ่ายรัฐบาลหนีเข้าอินเดียเป็นจำนวนหนึ่ง
อินเดียแก้ไขปัญหาด้วยการจะใช้เงิน 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (134,680 ล้านบาท) สร้างรั้วความยาว 1,610 กม. ตลอดแนวชายแดนอินเดีย-พม่า โดยจะให้แล้วเสร็จภายในเวลา 10 ปี เพื่อป้องกันการลักลอบขนสิ่งของหรือมีการกระทำที่ผิดกฎหมายประเภทอื่นข้ามพรมแดน
รัฐบาลอินเดียยกเว้นวีซ่าให้กับชาวพม่ามานานหลายสิบปี แต่ขณะนี้รัฐบาลอินเดียประกาศว่าจะยุติการยกเว้นวีซ่าให้กับชาวพม่า ด้วยเหตุผลความมั่นคงของชาติและเพื่อรักษาโครงสร้างประชากรในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
เนื่องจากผู้คนอินเดียตามรัฐชายแดนมีรูปร่างหน้าตาคล้ายับชาวพม่า จึงยากที่จะแยกด้วยสายตาถ้าไม่ฟังภาษาพูดและตรวจเอกสารประจำตัว
บริเวณชายแดนเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนและเป็นป่าทึบ เมื่อมีชาวพม่าหลบหนีเข้ามาพำนักพักอาศัยอยู่ก็ยากที่จะตรวจพบ เพื่อป้องกันปัญหาเสียตั้งแต่แรก รัฐบาลอินเดียตัดสินใจสร้างรั้วดีกว่า
เสียงบประมาณสร้างรั้วแสนกว่าล้านบาท คิดแล้วก็ยังถูกกว่าค่าใช้จ่ายของกองทัพและหน่วยงานราชการที่จะมาใช้ปราบปรามและบริหารจัดการคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ประเทศไทยมีบริบทที่ต่างจากอินเดีย เนื่องจากเรามีคนใช้แรงงานน้อย จำเป็นต้องใช้แรงงานพม่า เฉพาะแรงงานพม่าที่ขึ้นทะเบียนทำงานในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายมีมากถึง 1.86 ล้านคน
มีผู้รู้เรื่องแรงงานเคยให้ข้อมูลว่า ถ้ารวมแรงงานที่ไม่ลงทะเบียนตามกฎหมาย (แรงงานเถื่อน) ก็อาจจะมีชาวพม่าในไทยมากถึง 2.5 ล้านคนก็เป็นไปได้
หากแรงงานพม่าทั้งถูกและไม่ถูกกฎหมายเหล่านี้อพยพออกไปจากประเทศไทย เศรษฐกิจไทยมีปัญหาแน่นอน แทบทุกโรงงาน ทุกปั๊มน้ำมัน ทุกตลาด ทุกร้านอาหาร ทุกสวนผลไม้ ฯลฯ เต็มไปด้วยแรงงานพม่าทั้งสิ้น
ประเทศที่พม่ามีพรมแดนประชิดติดด้วยแทบทุกประเทศไม่ต้องการแรงงานพม่า อย่างจีนมีแรงงานของตัวเองเพียงพอ สปป.ลาวก็แทบจะไม่มีงานอะไรให้ทำ บังกลาเทศก็มีคนแยะ
ส่วนอินเดียไม่ต้องพูดถึง เป็นประเทศที่มีประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนนี้ก็ถึง 1,400 ล้านคน มีคนที่อยู่ในวัยทำงานมากถึง 476.67 ล้านคน ไม่ต้องการให้ชาติอื่นเข้ามาแย่งงานทำ จะมีก็แต่ไทยนี่ละครับ ที่ต้องใช้แรงงานพม่า
มินอ่องหล่าย ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่ากังวลใจที่กองทัพรัฐบาลพ่ายแพ้กองกำลังชาติพันธุ์ในหลายพื้นที่ นอกจากนั้น ทหารในกองทัพรัฐบาลบางส่วนหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
บางคนหนีไปเผชิญชีวิตใหม่ในประเทศที่มีพรมแดนประชิดติดกัน ลำบากแค่ไหนก็ยอม แต่ขอให้พ้นจากการบังคับบัญชาของเผด็จการทหารพม่า ออกไปแล้วก็ต้องหนีให้สุดลิ่มทิ่มประตู โดนจับกลับมาเมื่อใดก็หมายถึงชีวิตสิ้นสุด
27 มีนาคม 2024 พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย จับไมค์ ตะโกนด่าฝ่ายตรงข้ามว่า ก่อความรุนแรง ปล้นสะดม เผยแพร่ความเกลียดชัง กองทัพพม่าตกเป็นเป้าของข่าวปลอมจากนักข่าวต่างประเทศและพวกที่ใช้โซเชียลมีเดีย
มินอ่องหล่ายยังบอกต่อไปว่า มีบางประเทศมหาอำนาจแทรกแซงกิจการภายในพม่าด้วยการช่วยเหลือกลุ่มติดอาวุธที่ต่อสู้กับกองทัพ
มินอ่องหล่ายขอให้ทหารผ่านศึกทั้งหลายให้กลับมารับราชการทหารอีกครั้ง ส่วนการยึดอำนาจ มินอ่องหล่ายแก้ตัวว่า จำเป็นต้องทำ เพราะมีการโกงเลือกตั้ง บัตรคะแนนเสียงเกือบร้อยละ 30 เป็นโมฆะ
มินอ่องหล่ายประกันความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วยการบอกว่า ศาลได้ตัดสินคนทำผิดให้ติดคุกไปแล้ว คนทำผิดที่ว่าคือนางอองซานซูจีซึ่งถูกศาลตัดสินให้จำคุก 27 ปี จากความผิดหลายข้อหา “กองทัพเข้ามาอยู่ในอำนาจเพียงชั่วคราวเท่านั้น”
มินอ่องหล่ายช่างกล้าพูด.
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
